12 ก.ย. 61 นายศุภชัย สุกใส ผอ.ป่าไม้ภาคใต้ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 4 ภาคใต้ กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการรักษาความสงบ ร.25 พัน 3 ตชด.245 ตะกั่วป่า ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพังงา เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก บริเวณ อิงธารา รีสอร์ท จำนวนเนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน 8 ตารางวา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาหราสูง หมู่ 2 ต.สองแพรก อ.เมือง จ.พังงา จึงได้ตรวจยึดอาคารจำนวน 20 หลัง สระว่ายน้ำ 1 สระ
สอบถามทราบว่าเจ้าของ รีสอร์ท ดังกล่าว เป็นคนนอกพื้นที่ จึงขอให้เจ้าของนำเอกสารสิทธิ์มาแสดง แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงวันนัดแสดงสิทธิ์ กลับไม่มีผู้ใดแจ้งแสดงเอกสารสิทธิ์ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจยึด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า ตาม พรบ.ป่าไม้ ก่อสร้าง แผวถาง หรือ เผาป่า หรือกระทำการใดๆเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ให้สันนิษฐานว่า บุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น พร้อมทั้งแจ้งกระทำผิดตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พรบ.ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 พร้อมบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งคาโงก อ.เมืองพังงา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทางนายศุภชัย สุกใส ผอ.ป่าไม้ภาคใต้ กล่าวว่า มีการร้องเรียนต่อกรมป่าไม้ ว่า เจ้าของรีสอร์ท แห่งนี้ มีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้เพิ่มเติมด้านหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วเมื่อวันที่ 6 ก.ย.61 ที่ผ่านมา พบว่าเจ้าของ รีสอร์ท เป็นบุคคลนอกพื้นที่ เข้ามาซื้อที่ดินและพัฒนาเป็น รีสอร์ท เมื่อปี 2554 จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีหลักฐานใดๆทั้งสิ้น จึงได้นัดให้เจ้าของรีสอร์ทนำหลักฐานมาแสดงแต่ไม่มาพบเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงหลักฐาน จึงสันนิษฐานว่า ไม่มีหลักฐานใดๆทั้งสิ้น จึงได้ตรวจสอบกับทางที่ดินจังหวัดพังงา ทราบว่าบริเวณดังกล่าวไม่มีการออก นส.3 ก หรือ โฉนด ให้ผู้ใด ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบและตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ริมน้ำด้านหน้า จนถึง เนินเขาด้านหลังที่มีการแผวถางปรับพื้นที่ออกไปพบพื้นที่ 6 ไร่ 2 งาน เศษ พร้อมทั้งตรวจยึดอาคารสิ่งก่อสร้างทั้งหมด 20 หลัง สระว่ายน้ำอีก 1 สระ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ผิด พรบ.ป่าไม้ พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พรบ.สิ่งแวดล้อม ส่ง พนักงานสอบสวน ส่วนเจ้าของรีสอร์ท จะไปแสดงหรือไม่ก็อยู่ในชั้นสอบสวน หากพบว่ามีความผิดจริงหลังจากนั้นจะใช้มาตรา 25 เพื่อทำการรื้อถอนต่อไป
นอกจากนี้พบว่ามีปางช้างจำนวน 8 แห่ง ที่ถูกดำเนินคดีจับกุมไปแล้ว ซึ่งมีคำสั่งศาลรอลงอาญาและให้ออกจากพื้นที่ แต่ขณะนี้ปางช้างบางแห่งยังอยู่ในพื้นที่ บางปางช้างเปลี่ยนมือไปแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะทำการขยายผลเข้าตรวจสอบปางช้างที่ถูกพิพากษา ตามบังคับคดีให้ออกจากพื้นที่ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี