หลังจากที่มีประเด็นพบแซนวิชสอดไส้ปลอมแทนหมูหยอง พบไม่ใช่สำลี ไม่ใช่หมูหยอง แต่เป็นไก่หยอง ขณะนี้เร่งปูพรมตรวจสอบสถานที่ผลิตแซนวิชทุกแห่งในจังหวัด พร้อมประสาน อย.แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ตรวจสถานที่ผลิตหมูหยอง/ไก่หยองทั่วประเทศ หวัง ผู้บริโภคปลอดภัยและสร้างความมั่นใจแก่ผู้ผลิต
นายสุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแซนวิช ไส้หมูหยองปลอม ยี่ห้อ มอสดี้ แซนวิช M.D. แซนด์วิชหมูหยอง ผู้ผลิต มอสดี้ แซนวิช 156 ม.10 ม.ร่วมใจ ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เลขสารบบ 34-2-00149-2-0001 ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้ส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ต่อมา พนักงานเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอ ได้ร่วมกันตรวจสอบเฝ้าระวังและรวบรวมตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่มีการจำหน่ายในทุกอำเภอ ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลฯนำส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2561 ผลการตรวจวิเคราะห์ ไม่พบเส้นใยสำลี ไม่พบดีเอ็นเอจำเพาะของหมู แต่พบดีเอ็นเอจำเพาะของไก่ นั่นแสดงว่า แซนวิชที่เป็นข่าวเป็น “แซนวิชไส้ไก่หยอง”
ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ได้อำนวยการเรื่องการออกผลการตรวจวิเคราะห์อย่างเร่งด่วน และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ได้สนับสนุนงบประมาณในการตรวจวิเคราะห์ โดยค่าตรวจวิเคราะห์ 3 รายการ ได้แก่ สิ่งแปลกปลอม (สำลี) ดีเอ็นเอจำเพาะของหมู และดีเอ็นเอจำเพาะของไก่ รวมทั้งสิ้นประมาณ 5,000 บาท/ตัวอย่าง
นพ.สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต่อไปว่า จากการสำรวจสถานที่ผลิตแซนวิชในจังหวัดอุบลฯ พบว่า ผู้ผลิตแซนวิชไม่ได้ผลิตหมูหยองที่ใช้ทำไส้แซนวิชเอง แต่ซื้อมาจากร้านค้าอีกต่อหนึ่ง โดยหมูหยองที่ใช้เป็น หมูหยองชนิดที่ในท้องตลาดเรียกว่า “หมูหยองสำหรับเบเกอร์รี่” ซึ่งในจังหวัดอุบลฯ ไม่มีการผลิตหมูหยองชนิดดังกล่าว และขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เครือข่าย 5 อำเภอ เร่งตรวจสอบสถานที่ผลิตแซนวิชในจังหวัดว่าใช้หมูหยองยี่ห้อใด และสถานที่ผลิตตั้งอยู่ที่ใด เพื่อจะได้ส่งต่อข้อมูลไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิต ให้ดำเนินการตรวจสอบสถานที่ผลิตว่าใช้เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบตรงตามที่แสดงในฉลากหรือไม่
นอกจากนี้ จะได้ประสานไปยัง อย. ให้แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่มีการผลิตหมูหยอง/ไก่หยองทั่วประเทศ ตรวจสอบสถานที่ผลิตและควบคุมกำกับเรื่องการแสดงฉลากให้ตรงกับวัตถุดิบที่ใช้ โดยหากใช้เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบ ต้องแสดงฉลากเป็นหมูหยอง หากใช้เนื้อไก่เป็นวัตถุดิบ ก็ต้องแสดงฉลากเป็นไก่หยอง ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้ผู้ผลิตมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ซื้อมาใช้ในการผลิตแซนวิช เป็นหมูหยอง/ไก่หยอง ตรงตามที่แสดงในฉลากจริง ส่วนผู้บริโภคเองก็มีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องเพียงพอและมีสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากสินค้าที่ซื้อมาบริโภค ตามสิทธิผู้บริโภคที่ประชาชนทุกคนพึงได้รับ
นพ.สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวในตอนท้ายว่า กรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีผลกระทบทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ทั้งยังส่งผลไปถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ อย. จึงได้ผนึกกำลังทำงานร่วมกัน ทั้งหมดนี้เป็นความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ผู้ผลิตหมูหยอง/ไก่หยอง แสดงฉลากให้ตรงกับวัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิต ส่วนผู้ผลิตแซนวิชก็มีความมั่นใจในสินค้าที่ซื้อมาทำไส้แซนวิชว่าเป็นเนื้อสัตว์ชนิดใด เพื่อจะได้แสดงฉลากให้ผู้บริโภครับทราบว่าเป็นแซนวิช หมูหยองหรือแซนวิชไก่หยอง ส่วนผู้จำหน่ายก็จะได้มั่นใจว่าไม่ได้จำหน่ายสินค้าปลอม และท้ายที่สุดคือผู้บริโภค มั่นใจ ได้ว่า สินค้าที่ซื้อมาบริโภคนั้น ตรงตามที่ต้องการ และมีความปลอดภัยในการบริโภค
ทั้งนี้ หากต้องการแจ้งเบาะแสหรือมีข้อสงสัย สามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี หรือ โทร.045-262699 ในวันและเวลาราชการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี