แม่ช็อก! อยู่ดีๆ ลูกชายหายไป 19 ปี โผล่กลับมาบ้าน ตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เผยที่ผ่านมาคิดว่าตายไปแล้ว ถึงกับทำพิธีเผาศพด้วยโลงเปล่า ทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้
12 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 154 ม.3 บ้านสังขะ ต.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้มีการจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ และผูกข้อไม้ข้อมือ เพื่อรับขวัญต้อนรับ นายสมศักดิ์ สมยิ่ง อายุ 50 ปี ที่หายออกจากบ้านไปนานถึง 19 ปี ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มอายุ 31 ปี จนผู้เป็นแม่ และบรรดาญาติพี่น้อง ต่างพากันคิดว่าตายไปแล้ว ถึงกับทำพิธีเผาศพด้วยโลงเปล่า
ทั้งนี้ หลังจาก นายสมศักดิ์ สมยิ่ง ได้ออกไปทำงานรับจ้างก่อสร้างยังต่างจังหวัดกับคนในหมู่บ้าน จนไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้กลับมาบ้านอีกเลย และอยู่ดีๆ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.61 ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ สมยิ่ง กลับปรากฏตัวกลับมาบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เป็นแม่ และครอบครัว ต่างพากันตามหาทุกวิถีทาง จนหมดความหวังที่จะตามหา และคิดว่าไม่มีชีวิตอยู่เสียแล้ว ท่ามกลางความดีใจของผู้เป็นแม่ ครอบครัวญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังบ้านหลังดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงพบกับ นายสมศักดิ์ สมยิ่ง พร้อม นางเอือด สมยิ่ง อายุ 72 ปี ผู้เป็นแม่ และญาติพี่น้อง ซึ่งนั่งอยู่บริเวณหน้าบ้านด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่นางเอือด ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความรู้สึกของหัวอกแม่ที่ได้พบลูกชายอีกครั้ง
พี่สาวของนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนหายไปก็คิดถึงตลอดเวลา พยายามส่งข่าวให้นักข่าวช่วยตามหาให้ พอกลับมาก็ตื้นตันใจ เห็นน้องชายที่อยู่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โทรมาบอกว่าเห็นพี่เขามาแล้วเด้อ ตอนนี้อยู่ที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พักอยู่ที่บ้านน้องสาว แทบช็อกไม่คิดว่าจะยังมีชีวิตอยู่ ครั้งแรกที่เห็นหน้าน้องชายครั้งแรกช็อกเลย รีบวิ่งไปก่อนเขา ตอนนี้ก็บอกเขาว่าไม่ต้องไปไหนแล้ว เขียนหนังสือ อ่านหนังสือก็ไม่ออก แต่ก่อนเห็นไปกับพี่ไปกับญาติเลยให้ไป จำอะไรไม่ได้ ขึ้นเรือก็กลับมาไม่ถูก เขาเป็นคนชอบร้องรำทำเพลง ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนทำงานอยู่ที่เรือกลางทะเล ก็คิดที่จะหนีอยู่หลายครั้งเหมือนกัน พยายามกระโดดลงทะเลหนีมาขึ้นเรือชูชีพ เสี่ยงตายเอา หากเขาจับได้ก็เรียบร้อยคงไม่รอดชีวิต ไตก๋งเรือไม่ให้กลับขึ้นฝั่ง คิดถึงแม่ คิดถึงบ้านก็กลับไม่ได้ ตนจำได้เสมอว่าชื่อเรืออะไร และจะไม่กลับไปทำงานเรืออีกแล้ว ชีวิตที่ทำงานในเรือดี ให้กินอย่างดี ตนติดคุกอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย เพราะไปช่วยเพื่อนที่ถูกทำร้าย ข้อหาทะเลาะวิวาท บนน่านน้ำประเทศมาเลเซีย ติดคุก 2 เดือน 15 วัน พอออกจากคุก มีทางมูลนิธิไปช่วยกลับมาบ้าน ที่ จ.สุรินทร์ อยู่บนเรือเห็นคนเล่นยาเสพติด ถูกซ่อม ถูกตี ถูกคนเรือทำร้าย ได้ค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท ได้เบิกครั้งละ 2,000 บาท ไม่เคยได้เห็นเงินเป็นก้อน อยู่บนเรือกินดี แต่ลำบากทำงานหนัก 3 - 6 เดือน ถึงจะได้ขึ้นฝั่งทีหนึ่ง ตนถูกเพื่อนคนงานด้วยกันที่ติดยาเสพติดตีศีรษะและทำร้าย
นางเอือด ผู้เป็นแม่ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนคิดถึงลูกชายตลอดเวลา คิดว่าเขาตายไปแล้ว เลยทำบุญเผาโลงเปล่า และทำบุญหาเขาตลอด ไม่คิดว่าเขาจะรอดชีวิตมาแบบนี้ ทำบุญงานศพให้ลูกชายเมื่อหายไปได้ประมาณ 3 - 4 ปี ก็เลยทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ถึงวันพระ วันสารท ก็ทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ พอหลานโทรศัพท์มาบอก ลูกชายกลับมาบ้านอยู่ที่ อ.ปราสาท พอเห็นหน้าลูกชายครั้งแรกถึงกับช็อก เพราะความดีใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี