ชาวนา-วงการข้าวระส่ำ! ‘17โรงสีพิจิตร’วิกฤติ แขวนป้ายหยุดซื้อ อ้างขาดทุนบักโกรก
นางมิ่งขวัญ พุกเปี่ยม ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงสีข้าวในพื้นที่ จ.พิจิตร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีปริมาณข้าวออกสู่ตลาดมากกว่า 1 ล้านตันต่อปีกำลังประสบภาวะวิกฤติ โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นกับสมาชิกในชมรมโรงสีข้าวพิจิตร ที่ก่อนหน้านี้ มีสมาชิกมากถึง 34 โรง มาถึงปี 2561 มีโรงสีปิดกิจการและยังคงเป็นสมาชิกชมรมโรงสีข้าวพิจิตรเหลืออยู่เพียง 29 แห่ง จนถึงตอนนี้กลับวิกฤตหนักลงไปอีก เนื่องจากโรงสีที่เคยรับซื้อข้าวจากชาวนา ค่อยๆทยอยปิดกิจการ หยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาไป จากสมาชิกในชมรมโรงสีข้าวพิจิตรที่มี 29 แห่ง ตอนนี้มีเพียง 8 แห่งที่รับซื้อข้าวจริงจังต่อเนื่อง และมีอีก 9 แห่งที่รับซื้อแบบเปิดๆปิดๆ ส่วนที่เหลืออีก 17 แห่ง ตอนนี้หยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาทั้งหมด แต่ก็ยังต่อใบอนุญาตการประกอบการอยู่
นางมิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า โรงสีที่หยุดกิจการได้เลิกจ้างคนงานลง เหลือไว้แค่ในโรงสีไม่กี่คน ช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาสมาชิกในชมรมโรงสีข้าวพิจิตรทั้ง 29 แห่ง เปิดรับซื้อข้าวนาปีมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ช่วงนั้นเปิดรับซื้อข้าวเกี่ยวสด 25% ตามนโยบายรัฐบาลกำหนดรับซื้อข้าวเกี่ยวสดมาในราคาตันละ 6,400-6,500 บาท ถ้าคิดเป็นข้าวแห้งความชื้น 15% อยู่ที่ราคาตันละ 7,500 บาท ซื้อไว้เพื่อแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสารขายให้ผู้ส่งออกต่างประเทศ แต่ปรากฏว่าถึงวันนี้ราคาข้าวมีแต่ทรงกับทรุด สีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารขายก็มีแต่ขาดทุน จึงเป็นเหตุให้โรงสีหลายแห่งหยุดแปรรูปและหยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นปัญหาวิกฤตในเชิงธุรกิจการค้าข้าวอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ด้านนายวิรัตน์ ลิ่มทองสมใจ กรรมการผู้จัดการบริษัทโรงสีสิงโตทองไรซ์อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า โรงสีของตนมีกำลังการผลิตวันละ 2,000 ตัน มีคนงานนับร้อยคน แต่ตอนนี้ต้องประกาศหยุดรับซื้อจากชาวนาชั่วคราว เนื่องจากโรงสีของตนเปิดรับซื้อข้าวนาปี-นาปรังของชาวนาใน อ.เมืองพิจิตร อ.โพธิ์ประทับช้าง และพื้นที่ข้างเคียงมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซื้อข้าวเปลือกจากชาวนามาอบให้แห้งแล้วเก็บเข้าโกดังไปประมาณ 5 หมื่นตัน ในช่วงนั้นที่รับซื้อราคาข้าวเปลือกเกี่ยวสดรับซื้อตันละประมาณ 6,600 บาท แต่ถ้าคิดเป็นข้าวแห้งความชื้น 15% ชาวนาก็ได้ราคาตันละ 7,800 บาท ซึ่งได้สีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารขายไปแล้ว 2 หมื่นตัน ยังคงเหลือข้าวเปลือกอยู่ในสต็อกกว่า 3 หมื่นตัน ต้องเก็บไว้เกือบ 3 เดือนแล้ว เพราะขายไม่ออก ราคาข้าวเปลือกวันนี้รับซื้อข้าวสดแค่ 6,400 บาท เป็นข้าวแห้งรับซื้อ 7,500 บาท สรุปว่าวันนี้ขาดทุนแน่ๆตันละ 300 บาท ยังไม่คิดค่าแรงคนงาน ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าและค่าบริหารจัดการที่ต้องจ่ายอีก
นายวิรัตน์มองว่า ปัญหาโรงสีและธุรกิจค้าข้าวขณะนี้ เกิดจากปริมาณข้าวที่มีมาก แต่ตลาดการส่งออกมีน้อย รวมถึงภาวะแข่งขันด้านการตลาดเพื่อการส่งออกเราสู้ไม่ได้ ถึงแม้วันนี้ยังมีคนรับซื้อข้าวสารเพื่อส่งออกแต่ให้ราคาถูกมาก ถ้าเปิดเครื่อง เปิดโรงสีรับซื้อข้าวจากชาวนาก็มีแต่ขาดทุน จึงต้องประกาศหยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาชั่วคราว
“สรุปว่าขณะนี้เกิดภาวะวิกฤตกับผู้ประกอบการโรงสีข้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ 37 แห่ง เป็นสมาชิกชมรมโรงสีข้าวพิจิตร 29 โรง แต่ตอนนี้รับซื้อจริงจังแค่ 8 โรง รับซื้อข้าวแบบฤกษ์สะดวก 9 โรง ส่วนอีก 17 โรง ประกาศหยุดกิจการเลิกจ้างคนงานบางส่วน และหยุดรับซื้อข้าวจากชาวนา เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นห่วงโซ่ธุรกิจของวงการค้าข้าว ที่อาจมีผลกระทบมาถึงชาวนาไม่มากก็น้อย เพราะปลูกข้าวแล้วไม่มีผู้รับซื้อ” นายวิรัตน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี