17 ก.ย.61 สถานการณ์น้ำที่เขื่อนพระรามหกในวันนี้ หลังจากที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้เร่งระบายน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี วันละประมาณ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร เกณฑ์เก็บกักของเขื่อนอยู่ที่ 511.09 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำในอ่างมีปริมาตรเพิ่มขึ้นต่ำกว่าเกณฑ์เก็บกัก 4.31 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ที่ 506.78 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนป่าสักฯ เป็นขั้นบันไดจากเวลา 12.00 นาฬิกาเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ระบาย 420 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แล้วปรับเพิ่มขึ้นเป็น 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนเวลา 06.00 น.วันที่ 17 ก.ย. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำที่ 530 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่งผลให้เขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระบายน้ำ 625 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และทางเขื่อนพระรามหก ได้ขึ้นธงแดง เพื่อเตือนให้ประชาชนท้ายเขื่อนพระรามหก ติดตามสถานการณ์การระบายน้ำอย่างใกล้ชิด และจะมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ พื้นที่แก้มลิงรวม 290,130 ไร่ในความรับผิดชอบนั้นเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวหมดแล้ว พร้อมใช้เป็นที่รับน้ำหลาก โดยทางกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำไม่ทำให้ไม่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งในลุ่มน้ำป่าสักและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งน้ำได้เอ่อล้นตามท่อระบาย ถนนเรียบแม่น้ำป่าสัก บริเวณใต้สานจักรี และสะพานมนตรี บ้างบางส่วน ใกล้เคียง ตลาดสดท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครบรีอยุธยา ได้ลงตรวจสอบสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอท่าเรือ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง และเทศบาลตำบลท่าเรือได้นำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวคันกันน้ำ ทำการปิดท่อระบายน้ำ โดยใช้รถดับเพลิงสูบน้ำและติดตามสถานการณ์การระบายน้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อช่วยเหลือและค่อยอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี