ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวต้องประสบปัญหาศัตรูพืชที่สำคัญหลายชนิด ทั้งหนอนหัวดำมะพร้าว แมลงดำหนาม ด้วงแรด ล้วนสร้างผลกระทบต่อผลผลิตมะพร้าว รายได้ของเกษตรกรและกระทบกับเศรษฐกิจในภาพรวม
นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การจัดการศัตรูมะพร้าวเพื่อให้ได้ผลดี และไม่ให้กลับมาระบาดใหม่ควรใช้วิธีแบบผสมผสานตั้งแต่ 2 วิธีขึ้นไปมาใช้ร่วมกัน เพื่อลดปริมาณศัตรูมะพร้าวให้อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายได้แก่ วิธีเขตกรรม คือการทำความสะอาดบริเวณสวน วิธีกล ตัดทางใบเผา เก็บหนอนและแมลงศัตรูพืชมาทำลาย และชีววิธี คือใช้ชีวภัณฑ์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้ในการควบคุมศัตรูพืช ได้แก่ ตัวห้ำ ตัวเบียน และเชื้อจุลินทรีย์ ร่วมกับการใช้สารเคมีเป็นต้น การป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวให้ได้ผลและยั่งยืน ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและทำอย่างต่อเนื่อง
ในกรณีของหนอนหัวดำ ซึ่งเป็นศัตรูมะพร้าวที่ทำลายใบมะพร้าวเฉพาะระยะตัวหนอน ปัจจุบันพบว่าหนอนหัวดำมะพร้าวทำลายพืชหลายชนิด เช่น มะพร้าว ตาล ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น โดยการป้องกันกำจัดมีวิธีการ ดังนี้ กรณีเริ่มพบการระบาด หรือมีการระบาดระดับน้อยให้ตัดทางใบล่างที่ถูกหนอนหัวดำทำลายมาเผาทันที พ่นเชื้อบีที อัตรา 80-100 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมด้วยสารจับใบ 5 ซีซี จำนวน 3 ครั้งห่างกัน 7-10 วัน (ไม่ควรฉีดพ่นในขณะที่มีแสงแดดจัด) ปล่อยแตนเบียนบราคอน อัตราไร่ละ 200 ตัว จำนวน 12 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 15 วัน แต่ถ้าเกิดการระบาดรุนแรงให้ใช้สารเคมี แต่ต้องใช้สารเคมีตามคำแนะนำ คือ มะพร้าวที่มีความสูงมากกว่า 12 เมตร ใช้สารอิมาเม็กตินเบนโซเอท 1.92% อีซี ฉีดเข้าลำต้น ในอัตรา 30 ซีซีต่อต้น สามารถควบคุมหนอนได้นานอย่างน้อย 3 เดือน (วิธีนี้ห้ามใช้กับมะพร้าวที่สูงน้อยกว่า 12 เมตรมะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวกะทิ และมะพร้าวที่ทำน้ำตาล) ส่วนมะพร้าวที่มีความสูงน้อยกว่า 12 เมตร ให้พ่นทางใบด้วยสารฟลูเบนไดอะไมด์ 20% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา 5 กรัม/น้ำ 20 ลิตรหรือคลอแรนทรานิลิโพรล 5.17% เอ็สซี อัตรา 20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร โดยฉีดพ่นทางใบมะพร้าว จำนวน 1-2 ครั้ง ห่างกัน 15 วัน
ส่วนแมลงดำหนาม เป็นศัตรูมะพร้าวทั้งระยะหนอนและตัวเต็มวัย ทำลายใบมะพร้าวโดยกัดกินใบอ่อนที่ยังไม่คลี่ ทำให้ใบที่ถูกทำลายมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อน เรียกว่า โรคหัวหงอก ในมะพร้าวต้นเล็กถ้าระบาดรุนแรงทำให้ตายได้ ส่วนต้นใหญ่จะทำให้ผลผลิตลดลง มีวิธีป้องกันกำจัด ได้แก่ ปล่อยแตนเบียนอะซีโคเดส อัตราไร่ละ 5 มัมมี่ เพื่อป้องกันกำจัดหนอนแมลงดำหนาม ในระยะวัย 1-3 ใช้เชื้อราเขียวเมตาไรเซียม อัตราการใช้ 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบ ฉีดพ่นบนยอดมมะพร้าว กำจัดหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัยของแมลงดำหนามมะพร้าว ในกรณีมะพร้าวในแปลงเพาะและมะพร้าวต้นเล็ก ถ้าพบแมลงดำหนามระบาดควรพ่นสารเคมี เช่น คาร์บาริล อัตรา 30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร โดยฉีดพ่นบริเวณยอดและใบอ่อนทุกครั้งก่อนการเคลื่อนย้ายต้นพันธุ์มะพร้าวจากแหล่งที่มีการระบาด
สำหรับด้วงแรด ซึ่งเป็นศัตรูที่ทำลายมะพร้าวเฉพาะตัวเต็มวัย เข้าไปเจาะกัดกินภายในยอดอ่อน ทำให้ใบขาดแหว่งลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือหักพับ ส่งผลให้พืชชะงักการเจริญเติบโต วิธีการป้องกันกำจัด เริ่มจากการรักษาความสะอาดบริเวณสวน และกำจัดแหล่งขยายพันธุ์ เช่น เผามะพร้าวที่ยืนต้นตายหรือโค่นทิ้งไว้ รวมทั้งตอมะพร้าว ให้หมดไปจากสวน เกลี่ยกองซากพืช กองมูลสัตว์ให้มีความสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร ใช้เหล็กแหลมแทงตามรอยเจาะเพื่อทำลายตัวเต็มวัยที่ซ่อนอยู่ภายในรอยเจาะที่ยอดอ่อน ใช้กับดักฟีโรโมน ล่อตัวเต็มวัยแล้วจับทำลาย ควบคู่กับใช้เชื้อราเขียวเมตตาไรเซียม โดยทำกองปุ๋ยหมักใส่ขี้เลื่อยหรือขุยมะพร้าวผสมเศษหญ้าแห้งและปุ๋ยคอกให้เต็มกองล่อ เติมมูลวัว รดน้ำเพิ่มความชื้น หาวัสดุคลุมกองล่อ เช่นทางมะพร้าว หรือเศษใบไม้ เพื่อรักษาความชื้น เพื่อล่อให้ตัวเต็มวัยด้วงแรดมาวางไข่ เมื่อเจริญเป็นตัวหนอน ใช้เชื้อราเขียวเมตาไรเซียมในอัตรา 400 กรัมต่อกองล่อ คลุกผสมลงในกองล่อให้ทั่ว เชื้อราเขียวในกองล่อจะมีประสิทธิภาพในการกำจัดหนอนด้วงแรดมะพร้าวได้นานประมาณ 6-12 เดือน
เกษตรกรที่ประสบปัญหาศัตรูมะพร้าว สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือหน่วยงานในสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อหาวิธีป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของท่าน ลดความสูญเสียและสร้างความมั่นคงในอาชีพของท่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี