ชาวบ้านแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กว่า 100 คน รวมตัวบุกศาลากลางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่แก้ปัญหา หลังเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ มีหนังสือสั่งรื้อบ้านที่ปลูกริมชายฝั่ง กว่า 30 หลัง ภายใน 90 วัน ชาวบ้านกว่า 1,000 คน เดือดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัย ด้านเจ้าท่าแจงชาวบ้านสามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ ภายใน 15 วันโดยให้ท้องถิ่นรับรองการปลูกสร้าง
18 ก.ย.61 ชาวบ้านแหลมสัก ม.3 ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จำนวนกว่า 200 คน นำโดยนายไซย์ดี้ย์ โรมินทร์ กำนันตำบลแหลมสัก และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแหลมสักได้เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ให้ช่วยเหลือกรณีที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ ได้มีหนังสือส่งไปถึงชาวบ้าน ในพื้นที่ ม.3 ต.แหลมสัก ประมาณ 30 ราย ให้รื้อถอนบ้านที่ปลูกรุกล้ำลำน้ำในคลองแหลมสัก ตามคำสั่งคสช. และประกาศกระทรวงคมนาคม ออกจากพื้นที่ภายใน 90 วัน
ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ยื่นขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งรุกล้ำลำน้ำแล้ว แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ หรือไม่มีหลักฐานการปลูกสร้างก่อนวันที่ 24 สิงหาคม 2537 จึงได้รวมตัวมาขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ แก้ปัญหา แต่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ติดภารกิจ จึงได้มอบหมายให้ นายสมปอง รัตนะ ผู้อำนวยการกลุ่มงาน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ รับเรื่อง พร้อมเชิญ ผู้นำท้องถิ่น ตัวแทนชาวบ้านเข้าร่วมหาแนวทางแก้ปัญหา ที่เกิดขึ้นโดยประสานให้ทาง เจ้าท่าภูมิภาคกระบี่เข้ามาร่วม ชี้แจงที่ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่
นายไซย์ดี้ย์ โรมินทร์ กำนันตำบลแหลมสัก กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าท่าฯได้ทยอยส่งหนังสือไปถึงชาวบ้านในพื้นบ้านแหลมสัก ประมาณ 30 ครัวเรือ และคาดว่าจะมีหนังสือส่งทยอยมาอีกรวมกว่า 300 หลัง ซึ่งจะมีราษฎรได้รับความเดือดร้อน ไม่มีที่อยู่อาศัย รวมไม่ต่ำกว่า 1,000 คน จึงได้รวมตัวกันเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
ทั้งนี้ชาวบ้านแต่ละคนไม่มีที่ดินเป็นของตัวเองปลูกสร้างบ้านพักในลำคลองมานานหลายชั่วอายุคน เป็นชุมชนด้านการท่องเที่ยวต้นแบบ ชาวบ้านไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร เนื่องจากเจ้าท่าฯ ได้ให้อุทธรณ์คำสั่ง ภายใน 15 วัน ซึ่งชาวบ้านไม่รู้จะหาหลักฐานที่ไหน เนื่องจากทะเบียนบ้านนั้น เพิ่งได้มีการขอเมื่อไม่กี่ปี ในช่วงที่มีไฟฟ้าเข้าถึงเท่านั้น
นายธนวัฒน์ รุ่งเลิศ เจ้าพนักงานตรวจท่าปฏิบัติการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ ได้เข้ามาร่วมประชุมและชี้แจงถึงขั้นตอนการปฏิบัติ ซึ่งชาวบ้านสามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ภายในระยะเวลา 15วัน นับจากวันที่รับหนังสือ โดยให้ทางนายทะเบียนท้องถิ่น หรือสภาท้องถิ่นประชุมรับรอง การก่อสร้างตามประกาศของกระทรวงคมนาคม ซึ่งสามารถทำได้ และทางเจ้าท่าพร้อมที่จะเสนอยกเลิกคำสั่งรื้อถอน หากมีการรับรองตามกฎหมาย ซึ่งตนก็เข้าใจดีว่าชาวบ้านอยู่มานาน แต่ไม่มีหลักฐานเพราะเป็นคนจน ทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะออกอนุญาต แต่ต้องอยู่ข้อกฎหมาย เพราะเป็นคำสั่ง คสช.ซึ่งหลังหารือกันเป็นเวลานานกว่า 1 ชม. และชาวบ้านเข้าใจถึงแนวทาแก้ไขปัญหาจึงได้ข้อสรุป และจะไปยื่นเรื่องให้สภาท้องถิ่นดำเนินการสอบประวัติบ้านแต่ละหลังเพื่อนำมายื่นอุทธรณ์ ให้ยกเลิกคำสั่งรื้อถอน ต่อไป ชาวบ้านจึงแยกย้ายกันกลับ ด้วยความสงบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี