จากกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนผ่าน นคร 24 ชม สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช และผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้แก้ไขความเดือนร้อนให้ประชาชนกรณีที่รถบรรทุกดินถมที่ก่อสร้างท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชหกเรี่ยราดบนถนนตั้งแต่บริเวณสี่แยกน้ำแคบจนถึงทางเข้าท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ซึ่งผู้ว่าฯได้สั่งการให้นายตระกูล หนูนิล ป้องกันจังหวัดลงไปตรวจสอบแก้ปัญหาพบมีรถบรรทุกดินทำดินหกเรี่ยราดสกปรกจริง ทางผู้รับเหมารับปากว่าจะแก้ไขปัญหาและจัดให้มีรถบรรทุกน้ำมาราดล่างถนนเป็นระยะ ล่าสุด นายตระกูล หนูนิล พร้อมด้วยนายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เดินทางติดตามความคืบหน้า พบว่าผู้รับเหมาให้รถบรรทุกน้ำมาฉีดล้างทำความสะอาดถนนอยู่เป็นระยะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการใช้รถใช้ถนนอย่างสะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าผู้รับเหมาบ่อดินขนาดใหญ่รุกล้ำเขามาในที่สวนปาล์ม ทำให้รั้วลวดหนามและหลักโฉนดที่ดินของนายบ่าว อายุ 77 ปี และนางยุพิน สินทะ อายุ 78 สองสามีภรรยาวัยชรา อยู่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ 1 ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ล่าสุดนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้นายตระกูล หนูนิล ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช นายนายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ นายอำเภอท่าศาลานางจิราภา รอดเพชร หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมนครศรีธรรมราช พร้อมผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัด ผู้แทน อบต.ดอนตะโก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยการตรวจสอบพบว่าบ่อดินดังกล่าวเป็นบ่อดินขนาดใหญ่จำนวน 2 บ่อที่ผู้รับเหมาขุดดินไปถมพื้นที่ท่าอากาศยานหรือสนามบินนครศรีธรรมราช ที่จะมีการขยายรันเวย์ และทำแนวคันดินป้องกันน้ำท่วม ซึ่งมีการขุดลึกประมาณ 20 เมตร และพบกับนายทนงศักดิ์ ระวังวงศ์ ผู้ประกอบการขุดลอกกรวดดิน เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ตรวจสอบพบว่ามีหลักฐานเลขทะเบียนโรงงาน จ 3 – 3 ( 2 ) – 217 / 55 นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 7411 เลขที่ดิน 34 หมู่ 1 ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
นายไตรรัตน์ ชัยรัตน์ นายอำเภอท่าศาลา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ประกอบการมีการขุดตัดดินจำหน่ายหน้าดินจริง แต่เป็นใบประกอบกิจการนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ประกอบการ ตามโฉนดเลขที่ 8342 เลขที่ดิน 31 ซึ่งเป็นของตนเอง โดยใช้เครื่องจักรขนาด 155 แรงม้า คนงาน 2 คน เข้าข่ายเป็นการตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 12 วรรคสองและวรรคหนึ่ง มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 จึงให้ดำเนินการตามกฎหมาย และสั่งให้ผู้ประกอบการระงับการขุดตักหน้าดินจำหน่าย จนกว่าจะมีการตรวจสอบรังวัดที่ดินข้อพิพาทที่ชาวบ้านผู้เสียหายอ้างว่าผู้ประกอบการขุดตัดหน้าที่ลุกล้ำที่ดิน และทำลายรั้วลวดหนาม หลักหมุดโฉนดที่ดิน
ด้าน นายทนงศักดิ์ ระวังวงศ์ กล่าวว่า เดิมได้ขุดตักดินจากบ่อแรกไปทำที่ดินเพื่อขายรันเวย์สนามบิน และก่อสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วม จนบ่อแรกลึกมากการขุดตักเป็นไปด้วยความยากลำบาก ตนจึงซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อขยายบ่อดิน และอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุญาตตามขั้นตอนกฎหมาย แต่เนื่องจากระยะนี้เกิดฝนตกหนัก ทางผู้รับเหมาถมที่สนามบินเกรงว่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วมสนามบินกลายเป็นปัญหาใหญ่เหมือน1 - 2 ปี ที่ผ่านมา จึงขอให้เร่งขุดตักดินไปถมทำแนวคันดินป้องกันน้ำท่วม และจำเป็นต้องรีบขุดตักดินในบ่อที่เพิ่งซื้อเพิ่มทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาตถูกต้อง หลังจากนี้จะเร่งรัดขออนุญาตอย่างเร่งด่วนต่อไป ส่วนเรื่องการรุกล้ำแนวเขตเข้าไปในสวนปาล์มของนายบ่าว นางยุพิน จนรั้วลวดหนาม และหลักหมุดโฉนดที่ดินเสียหาย จะขอให้เจ้าพนักงานที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งมาทำการรังวัดตรวจสอบแนวเขตที่ดินให้ชัดเจน หากพบมีการรุกล้ำเข้าไปจริง ๆ ก็จะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด พร้อมจัดทำจัดรั้วลวดหนามและปักหลักหมุดให้เรียบร้อยเหมือนเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี