เตือนCPTPPทำภาคเกษตรล่มสลาย
สภาเกษตรกรจี้รัฐทบทวนเจรจา
ห่วงชาวบ้านหมดอาชีพนับล้าน
เผยบทเรียนเวียดนามอาการสาหัส
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสหรัฐเคยผลักความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership :TPP) กับประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ ในอดีตเคยมีหลายฝ่ายออกมาแสดงความเป็นห่วงกันมากเพราะทราบดีว่า ไทยเสียเปรียบในหลายเรื่อง อาทิ เรื่องการเกษตร ต่อมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกเลิกจึงไม่ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ประเทศที่เป็นสมาชิกที่เหลือพยายามผลักดันฟื้นฟูเรื่อง TPP ขึ้นมาใหม่โดยเปลี่ยนชื่อเป็น CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) ซึ่งได้วางกรอบความร่วมมือใกล้เคียงเดิม บทบัญญัติบางประการที่มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบยังคงมีไม่ใช่การตัดออกจากความตกลง เพียงแต่ยังไม่นำมาบังคับใช้ขณะนี้ จึงไม่มีหลักประกันที่แน่นอนว่าจะไม่นำกลับมาบังคับใช้ใหม่ และสิ่งที่เป็นข้อกังวลใจอย่างมากของสภาเกษตรกรแห่งชาติ
“ที่วนกลับมาอีกครั้ง คือ เรื่องการให้นักลงทุนเข้าถึงพันธุกรรมพืชและชิ้นส่วน ซึ่งจะเป็นการผูกขาดด้านพันธุ์พืช รวบตั้งแต่ส่วนที่ใช้ขยายพันธุ์จนถึงผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูป ผลคือวิถีชีวิตของเกษตรกรจะเปลี่ยนแปลง ซื้อหาพันธุ์พืชในระดับราคาที่แพงและไม่สามารถเก็บพันธุ์ไว้ปลูกต่อ เป็นความเดือดร้อนที่มีระยะเวลายาวนานด้วยการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่จะมีระยะเวลา 20-25 ปี”
นายประพัฒน์กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งเรื่องที่น่ากังวลใจ คือ การนำเข้าชิ้นส่วนสุกร ซึ่งมีบทเรียนจากเวียดนามหลังจากเข้าร่วมกรอบทีพีพีแล้วอเมริกาก็ผลักดันการนำเข้าชิ้นส่วนสุกร ปรากฏว่า Sector ภาคการเลี้ยงสุกรของเวียดนามแทบจะล่มสลายหมดเลย ขณะที่ประเทศไทยมีเกษตรกรที่เลี้ยงสุกรกว่า 180,000 ครัวเรือน และจะส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ถึงผู้ผลิตพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ อาทิ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศมากกว่า 3.5 ล้านครัวเรือน เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากกว่า 250,000 ครัวเรือน ตลอดจนผู้ประกอบการแปรรูปข้าวเปลือก ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์รำข้าว/ปลายข้าว เป็นต้น โดยหากกรอบความร่วมมือนี้มีผลสัมฤทธิ์และต้องนำเข้าชิ้นส่วนสุกรจริง ต้องเกิดผลกระทบกับประเทศไทยด้านเศรษฐกิจมหาศาลแน่นอน คนเลี้ยงสุกรต้องเลิกอาชีพเพราะต้องพึ่งพาสุกรจากต่างชาติทันที ความมั่นคงด้านอาหารในระยะยาวจะเสียหายไปเลย ผลกระทบเศรษฐกิจจะรุนแรงและยาวนาน ประเทศไทยยังไม่พร้อมและรับไม่ไหวแน่ ผู้ได้ประโยชน์เป็นนายทุน, เศรษฐีระดับบน จึงอยากเตือนสติด้วยความเคารพถึงรัฐบาลและรัฐมนตรีที่พยายามผลักดันเรื่องนี้อยากให้ใช้ความรอบคอบในการจะเข้าไปผูกพันทางการค้าด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง
“จริงๆ แล้วประเทศไทยมีกรอบสัญญาการค้าระดับทวิภาคี พหุภาคีเยอะอยู่แล้ว หลายประเทศที่อยู่ในความร่วมมือเรื่อง CPTPP มีกรอบความร่วมมือทวิภาคีกับไทยหลายประเทศ ไทยไม่มีปัญหาเรื่องการค้า อย่าตกเป็นเหยื่อเขาเลย หน้าที่ของสภาเกษตรกรแห่งชาติต้องประคับประคองไม่ให้พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรมีผลกระทบ มองเห็นชะตากรรมหากเข้าร่วม CPTPP โดยไม่ได้ระมัดระวัง เกษตรกรจะหมดอาชีพเป็นล้านคน” นายประพัฒน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มอบหมายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องคาดว่าจะสรุปข้อมูล ข้อคิดเห็น เสนอรัฐบาลตัดสินใจการจะเข้าเป็นสมาชิกความตกลง CPTPP ก่อนสิ้นปี 2561 จึงอยากขอให้เกษตรกร ตัวแทนเกษตรกร เข้าร่วมเวทีแสดงความคิดเห็นอย่าได้เพิกเฉย ซึ่งครั้งต่อไปจะเวทีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 25-26 กันยายน ที่โรงแรมพูลแมน จ.ขอนแก่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี