‘หมอธี’แจง3แนวทางตั้งอธิการบดีอายุเกิน60ปี ย้ำไม่ใช้‘ม.44-ไม่ออกเกณฑ์กลาง’
ความคืบหน้ากรณีนายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เสนอผลสรุปจากที่ประชุมร่วมระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)กับนายกสภามหาวิทยาลัยและอุปนายกสภามหาวิทยาลัยจาก 58 มหาวิทยาลัยรัฐทั่วประเทศที่เป็นส่วนราชการ โดยให้เสนอนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) พิจารณาทางเลือก 4 แนวทางในการแก้ไขปัญหามหาวิทยาลัยที่มีอธิการบดีอายุเกิน 60 ปีหรืออยู่ระหว่างกระบวนการสรรหาแต่งตั้ง จำนวน 23 สถาบัน หลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)กาญจนบุรีที่แต่งตั้งนายปัญญา การพานิช ซึ่งมีอายุเกิน 60 ปี เป็นผู้รักษาการแทนอธิการบดีมรภ.กาญจนบุรี
ต่อมา นพ.ธีระเกียรติ ระบุว่าสกอ.ได้เสนอ 3 ทางเลือกมาให้พิจารณาและนพ.ธีระเกียรติยืนยันว่าสภามหาวิทยาลัยจะต้องพิจารณาหาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาฟ้องร้องเหมือนกับมรภ.กาญจนบุรี ขณะที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยที่มีอายุเกิน 60 ปี เช่น นายจรูญ ถาวรจักร์ อายุ 76 ปี อธิการบดีมรภ.อุดรธานี นายไวกูณฑ์ ทองอร่าม อายุ 67 ปี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี(มรรพ.) ยืนยันว่าจะไม่ลาออกนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ย.61 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เท่าที่ดูรายงานผลการหารือร่วมระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) กับนายกสภาฯ และอุปนายกสภาฯ จาก 58 มหาวิทยาลัยรัฐทั่วประเทศที่เป็นส่วนราชการ สกอ.เสนอ 3 แนวทาง แท้จริงแล้วไม่ใช่แนวทางแต่เป็นการเสนอข้อกฎหมายให้พิจารณามากกว่า ประกอบด้วย 1.คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ผูกพันเฉพาะกรณี มรภ.กาญจบุรีเท่านั้น ที่มีปัญหาอธิการบดีที่อายุเกิน 60 ปี และยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน จึงไม่สามารถเป็นเกณฑ์กลางได้
2.กรณีที่เกิดขึ้นกับ มรภ.กาญจนบุรี จะไม่เป็นผลผูกพันกับหน่วยงานมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบ แต่มีผลผูกพันกับมหาวิทยาลัยรัฐที่เป็นส่วนราชการเท่านั้น และ3.กรณีที่เกิดขึ้นเป็นหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัยไปหาวิธีการแก้ไขปัญหากันเอง สภาฯ ต้องไปพิจารณาว่าในเมื่อศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษากรณี มรภ.กาญจนบุรี เป็นตัวอย่างแล้วจะดำเนินการ แก้ไขปัญหาอย่างไร
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับการสรรหาอธิการบดี เป็นอำนาจหน้าที่ตน ในการเสนอทูลเกล้าฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ซึ่งต้องพิจารณาใหม่อย่างระมัดระวัง โดยดูจากคำตัดสินของศาลเป็นแนวทาง กังวลว่าเมื่อเสนอทูลเกล้าฯ รายชื่อไป จะรบกวนเบื้องยุคลบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือไม่ หากโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอธิการบดีแล้ว มีคนลุกขึ้นมาฟ้องร้อง
ทั้งนี้ต้องสอบถามอาจารย์ในมหาวิทยาลัยด้วย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐหรือมหาวิทยาลัยรัฐที่เป็นส่วนราชการว่าอยากได้อธิการบดีเป็นคนหนุ่มสาวหรือเป็นคนสูงวัย อย่าให้รัฐมนตรีต้องตอบหรือตัดสินใจคนเดียว เพราะตนมีความคิดส่วนตัวของตน ดังนั้นทุกสภามหาวิทยาลัยต้องคิด แก้ไขปัญหาในเชิงบริหารให้ดี ทุกอย่างมีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว ไม่ว่าคิดอะไรต้องทำตามกฎหมาย ไม่ใช่มาเสนอแนวทางและข้อกฎหมายให้ตนทำ เช่น เสนอให้แก้ปัญหาโดยใช้ มาตรา 44 ไม่ใช่เรื่องง่าย หรือจะให้ออกเกณฑ์กลางตัดเสื้อตัวเดียวมาควบคุมการสรรหาอธิการบดี ไม่ได้ เพราะถ้าไม่ถูกใจ ไม่พอใจ มาด่าตนอีก ดังนั้นทุกมหาวิทยาลัยต้องไปคิดหาทางออกเอง
ส่วนนายรัฐกรณ์ คิดการ ประธานที่ปรึกษาที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) กล่าวว่า กรณีที่เลขาธิการกกอ..และนายกสภาฯ พยายามบอกว่าแม้มีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดว่าไม่สามารถแต่งตั้งคนอายุเกิน 60 ปีให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือรักษาราชการแทนอธิการบดีได้ แต่ไม่สามารถถอดถอนอธิการบดีที่อายุเกิน 60 ปีได้เพราะเรื่องคุณสมบัติอายุ ไม่ได้กำหนดอยู่ในพ.ร.บ.มรภ.และพ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) จึงไม่สามารถถอดถอนคนที่อายุเกิน 60 ปีได้นั้น
ขอชี้แจงว่าการสรรหาแต่งตั้งและการบริหารงานบุคคลผู้บริหารมหาวิทยาลัยรัฐที่เป็นส่วนราชการทั้งตำแหน่งอธิการบดี รองอธิการบดี คณบดี หัวหน้าสำนักเทียบเท่าคณะ เป็นต้น จะใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องหลักๆ 3 ฉบับคือ พ.ร.บ.มรภ. หรือ พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา(ก.พ.อ.) และพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งแม้พ.ร.บ.มรภ./พ.ร.บ.มทร. ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติเรื่องอายุ แต่การบริหารมหาวิทยาลัยรัฐที่เป็นส่วนราชการ กำหนดให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ก.พ.อ.และพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ส่งผลให้คุณสมบัติเรื่องอายุ 60 ปีสำหรับตำแหน่งผู้บริหาร จึงเป็นสิ่งที่อธิการบดี รองอธิการบดี คณบดี เป็นต้น จำเป็นต้องมี
นายรัฐกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่คุยกันว่าเลขาธิการ กกอ.ไม่มีอำนาจในการสั่งการให้สภามหาวิทยาลัยถอดถอนอธิการบดีที่อายุเกิน 60 ปีนั้น ชี้แจงว่าเลขาธิการกกอ.เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามพ.ร.บ.ก.พ.อ. ฉะนั้นเลขาธิการกกอ.สามารถใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ก.พ.อ แต่ถ้าติดขัดในการใช้อำนาจ ก็สามารถเสนอผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปคือรัฐมนตรีว่าการศธ.และรัฐมนตรีว่าการศธ.สามารถใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ข้อ 2 ในกรณีที่ปรากฏว่าการดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษา กรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา หรืออธิการบดี ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ให้รัฐมนตรีว่าการศธ. มีอํานาจยับยั้งการแต่งตั้งหรือการดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ที่จะดํารงตําแหน่งดังกล่าว
ด้านนายวิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดีมทร.อีสาน ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) กล่าวว่า กลุ่มมทร.ทั้ง 9 แห่ง ไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ และไม่ได้ถือเป็นสาระ ส่วนตัวจะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2561 ส่วนจะเป็นอธิการบดีต่อหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสภาฯ รวมถึงรอแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจนจากรัฐมนตรีว่าการศธ.ซึ่งไม่ใช่เรื่องของสปิริต ว่าจะให้ลาออก หรือไม่ลาออก แต่เป็นเรื่องที่ต้องมีแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี