21 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดบุรีรัมย์ ขณะนี้มีแก๊งมิจฉาชีพอาละวาดหนัก แต่งกายและติดบัตรแอบอ้างเป็นพนักงานการประปาและพนักงานการไฟฟ้า ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปตระเวนเรียกเก็บเงินค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้า ตามห้างร้าน โรงแรม ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ หลายแห่ง ทำให้มีผู้ประกอบการหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อสูญเงินไปหลายพันบาท
โดยแก๊งดังกล่าวจะมีพฤติการณ์แอบอ้างตัวเป็นพนักงาน ไปแจ้งกับทางร้านว่ามียอดค้างชำระค่าน้ำ หรือค่าไฟ และเกินกำหนดชำระแล้ว พร้อมขู่ว่าหากไม่ชำระจะถอดมิเตอร์ ด้วยความที่ผู้ประกอบการกำลังยุ่งอยู่กับการขายของหรือให้บริการลูกค้า ประกอบกับคนร้ายก็แต่งกาย ติดบัตรคล้ายกับพนักงาน จึงไม่ได้เอะใจอะไร จึงตกเป็นเหยื่อสูญเงินให้กับแก๊งดังกล่าวไปแล้ว 2 ราย เป็นเงินกว่า 3,000 บาท กระทั่งมารู้อีกทีว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่จริงมาตระเวนหลอกเก็บเงิน จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นรูปพรรณและใบหน้าคนร้ายชัดเจน ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ภายในสัปดาห์เดียวมีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้ว 3 ราย
น.ส.อลิศรา ศักรินพาณิชกุล อายุ 41 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์ของใช้เด็ก ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. มีชายรูปร่างท่วม ผิวดำ สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ผมเกรียน นำบิลมาเรียกเก็บค่าน้ำประปาที่ร้านจำนวน 782 บาท ซึ่งตามปกติแล้วทางร้านจะให้หักในบัญชีทุกกลางเดือนอยู่แล้ว แต่ชายคนดังกล่าวก็อ้างว่าระบบขัดข้อง จึงต้องมาแจ้งเตือนและเก็บเงินด้วยตัวเอง หากไม่จ่ายก็จะถอดมิเตอร์ แต่พอตนเองบอกไปว่าเดี๋ยวจะติดต่อไปสอบถามแล้วจะไปชำระที่สำนักงานเอง ชายคนดังกล่าวกลับแสดงอาการไม่พอใจพร้อมตอบกลับมาว่า ผมเป็นเจ้าหน้าที่ทำไมไม่เชื่อใจ ด้วยความที่กลัวจะถูกถอดมิเตอร์และจะต้องไปเสียเงินค่าติดตั้งมิเตอร์อีก จำจำใจต้องจ่ายเงินให้กับชายคนดังกล่าวไป 782 บาท เมื่อได้เงินชายคนดังกล่าวก็ขับรถจักรยานยนต์ออกไป
ทั้งนี้ น.ส.อลิศรา ยังตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมมิจฉาชีพถึงรู้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าว่า ร้านไหนมียอดค้าชำระ ร้านไหนจ่ายเงินสด หรือหักผ่านบัญชี หลังจากนั้นจึงได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้คนในร้านฟัง กระทั่งมีคนมาบอกว่าน่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพ เพราะและทราบว่ามีคนถูกหลอกในลักษณะเดียวกันหลายราย จึงได้นำหลักฐานภาพวงจรปิดเข้าไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี แม้จำนวนเงินไม่มากแต่ไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี