รับตัว อู๊ด สิงหราช – เมีย อ้างชื่อบิ๊กตำรวจ รีดไถเก็บส่วยรถบรรทุก เจ้าตัวปากแข็งปฏิเสธ ซัดตำรวจ ภ.7 ตัวการใหญ่ ศรีวราห์ยันจับเพราะอ้างชื่อตนปัดพาดพิงบิ๊กตำรวจท่านอื่น
จากกรณีผู้ประกอบการขนส่งรวมตัวเข้าพบตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัว นายสิงหราช หรือ อู๊ด วิชิตพงศ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ในคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หลังรถบรรทุกของบริษัทขนส่งของกลุ่มผู้เสียหาย ถูกนายสิงหราช และพวกกว่า 10 คน แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) รวมถึงอ้างว่าเป็นลูกน้องของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. ตรวจค้นดักจับขณะกำลังบรรทุกสินค้าไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ ก่อนทำการข่มขู่รีดไถเงินและเรียกเก็บส่วยเป็นรายเดือนหากไม่ยอมทำตามจะถูกนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกตรวจค้นที่ตั้งบริษัทพร้อมกับยัดยาเสพติดให้ได้รับโทษทางคดีอาญา กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้กบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิและกำลังจะหลบหนีไปกบดานซ่อนตัวต่อในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล. กระจายกำลังตั้งด่านตรวจค้นสกัดจับได้ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ตามที่ได้เคยนำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล ผกก.1 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ บก.ทล. ได้คุมตัว นายสิงหราช หรือ อุ๊ด วิชิตพงศ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 ม.8 ต.พนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ 128/2561 ลงวันที่ 1 มิ.ย.2561 ข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และ นางจิตราพัชญ์ คันธะมาลย์ อายุ 45 ปี สองสามีภรรยา มาส่งมอบให้กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สันติ ไชยนิรามัย พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำปราณ และ สภ.สามร้อยยอด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล. ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนนี้ได้ที่ ริมถนนหลวงหมายเลข 21 ช่วง กม.160 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันเดียวกันนี้
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อช่วงประมาณเดือนเม.ย. 2561 ที่ผ่านมา นายสิงหราช พร้อมพวกจำนวน 6-7 คน ได้มีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศดาบตำรวจ และ แอบอ้างชื่อของตนเอง ไปทำการข่มขู่รีดไถ่เก็บส่วยกับผู้ประกอบการขนส่ง ในพื้นที่ สภ.ปากน้ำปราณและ สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออำนาจศาลจังหวัดหัวหินออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ จำนวน 2 หมายจับ
กระทั่งต่อมาได้รับรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทล.ได้ทำการสกัดจับนายสิงหราช และนางจิตราพัชญ์ สองสามีภรรยาคู่นี้ได้ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ขณะกำลังหลบหนี นอกจากนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาในเบื้องต้นยังมีการซัดทอดว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.7 จำนวน 6-7 คน เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ด้วย จึงได้สั่งการให้มีการเร่งขยายผลสืบหาหลักฐานหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าวด้วยจริงก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
“คดีนี้มีการแอบอ้างชื่อของตนไปใช้ในการกระทำผิด ตนจะดำเนินการเฉพาะในส่วนนี้ ส่วนนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ท่านอื่นที่ถูกนำชื่อไปแอบอ้างด้วยนั้นตนไม่ทราบ และไม่อยากพาดพิงไปถึงใคร เพราะคดีนี้ตนสั่งการให้จับเฉพาะคดีที่พาดพิงถึงตนเท่านั้น” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
จากการสอบสวน นายสิงหราช ให้การว่าปฏิเสธ โดยอ้างว่าตนเองไม่ได้มีการแอบอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแอบอ้างชื่อของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เพื่อทำการข่มขู่รีดไถเงินจากผู้เสียหายและไม่เคยได้รับเงินดังกล่าวแม้แต่บาทเดียว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.7 ทราบเพียงว่าชื่อ สว.ภัท กับ ดาบเดช และพวกรวม 6-7 คน เป็นผู้เรียกตรวจค้นและยึดสิ่งของภายในรถบรรทุกของผู้เสียหาย และทำการเจรจาเรียกเงินจากผู้เสียหาย โดยมีการตกลงจ่ายเงินกันที่บริเวณ สภ.สามร้อยยอด ส่วนตนนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตนทำหน้าที่เป็นเพียงสายลับคอยชี้เบาะแสการกระทำผิดให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น
“ซึ่งพอเกิดเรื่องนี้ขึ้นตนรู้สึกเสียใจและผิดหวังที่ตนเองต้องมากลายเป็นผู้ต้องหาทั้งที่ไม่ได้ทำความผิด จึงอยากขอให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ช่วยขยายผลเอาผิดตำรวจกลุ่มนี้ด้วย” นายสิงหราช กล่าว
ด้าน นางจิตราพัชญ์ ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่ได้จะพานายสิงหราช สามี หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตั้งใจจะพานายสิงหราชไปมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคำร้องขอของนายสิงหราช ที่ขอให้ตนช่วยขับรถพาไปเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ก่อน อีกทั้งตนเองก็พึ่งจะมาทราบว่านายสิงหราช นั้นมีหมายจับติดตัวช่วงก่อนที่จะถูกจับกุมตัวได้ไม่นาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา นายสิงหราช ตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่ง สภ.ปากน้ำปราณ ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วน นางจิตราพัชญ์ เบื้องต้นเจ่าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ให้การช่วยเหลือโดยการพาผู้ต้องหาหลบหนี หรือให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา ตามมาตรา 189 และข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นางจิตราพัชญ์ นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวนี้ด้วย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ลูบคม2บิ๊กตำรวจ! รวบ‘อู๊ด สิงหราช’อ้างลูกน้อง‘บิ๊กโจ๊ก’อุ้มรีดส่วยรถบรรทุก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี