ฟังคุณโอฬาร  ไชยประวัติ  ทีมที่ปรึกษาของคุณยิ่งลักษณ์พูดถึงข้าวไทยจะทวงบัลลังก์แชมป์ผู้ส่งออกข้าวโลกคืนจากอินเดีย และเวียดนาม  โดยจะส่งออกปี 2556 ได้ถึง 8 ล้านตัน

                คุณโอฬาร  เป็นพรีเซนเตอร์กระเบื้องยี่ห้อไหนไม่ทราบ  ถึงให้สัมภาษณ์มั่นใจและง่ายดายขนาดนี้

                แกบอกว่า  เนื่องจากอินเดียและเวียดนามไม่มีข้าวในสต็อกมากนัก  จึงเป็นโอกาสของไทยแลนด์แดนปูกรรเชียงมั่ง

                อดีตคนแบงก์ชาติไม่ค่อยแสดงความเห็นอะไรทำนองนี้ให้คลายเครียดเหมือนคุณโอฬาร  ก่อนหน้านี้ตะแกก็เชียร์นโยบายรับจำนำข้าวเปลือก 15,000 บาท/ตันว่า ดีเลิศประเสริฐศรีมาแล้ว  ชาวนาจะมีรายได้ยังงั้นยังงี้   เพราะอย่างนี้กระมังกระทรวงพาณิชย์ จึงโยนหินถามทางว่า  จะลดราคารับจำนำเหลือ 13,000 บาท/ตัน เหตุผลสอคล้องต้องกันเด๊ะเลย  เพราะช่วง2 ปีที่รับจำนำ ชาวนามีรายได้ดีแล้ว ไม่ต้องกัดก้อนเกลือผสมฟางข้าวกินอีกแล้ว  ฉะนั้นจึงเรียนมาว่า  ต้องขอปรับลดราคารับจำนำลงนะจ๊ะ

                ปัดโถ่เอ๋ย....บอกความจริงกับชาวนาซักหน่อยไม่ได้  รัฐบาลดิชั้นถังแตก ตูดขาด เลือดไหลจวนเจียนสิ้นวิญญาณไปแล้ว

                มีข่าวจากอินเดียว่า  อินเดียก็ร้อนใจเรื่องการส่งออกข้าว  ใครจะว่า สต็อกลดลง  แต่ก็มีกว่า 30 ล้านตันจากสต็อกที่พึงมี 13 ล้านตัน  อินเดียกังวลว่า ทุกวันนี้ข้าวอินเดียก็ถูกข้าวปากีสถาน เวียดนาม และพม่า เจาะยางอยู่ด้วยราคาเช่นกัน

                ฟังอินเดียแล้ว ไอ้ราคาต้นทุนข้าวไทยตันละ 15,000 บาทนั้น จะต้องเป็นชูชกกลับชาติมาเกิด  เพราะมันจะต้องมีโกดังเก็บข้าวระลอกใหม่อีกไม่กี่ล้านตัน  ของเก่าก็ยังไม่ได้ระบาย บางส่วนก็เน่า บางส่วนที่ระบุว่าระบายออกไปแล้ว อาจจะกลับเข้าโกด้งอีกไม่รู้เท่าไหร่   เพราะเอกชนที่ซื้อไปไม่ได้บอกว่า ส่งออกไปไหน  เผลอก็เวียนเทียนขายเข้าโกด้งหลวงกินส่วนต่างกันเปรมอีกระลอก

                เรื่องอย่างนี้ ดร.โอฯจะไม่รู้เลยเชียวหรือ

                บางทีอดสงสารคนที่ตกอยู่ในภาพน้ำท่วมปาก แถมยังข้าวท่วมปากไม่ได้  ทำไมต้องอดทนขนาดนั้น  ทำไมต้องยอมทำขนาดนั้น  วิชาการหายไปเป็นวิชาเกินเสียแต่เมื่อไหร่

                ถ้ามีความสุขก็ทำต่อ  ไม่ว่ากัน ชีวิต(สั้นๆ)นั้นเลือกได้เสมอ  แม้จะเลือกเกิดเองไม่ได้

                ใครที่ติดตามประวัติของดร.ป๋วย  อึ๊งภากรณ์  อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ  อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอีกหลายๆตำแหน่งที่สำคัญ  คงเห็นได้แล้วว่า  ตำแหน่งหน้าที่นั้น เป็นหินลองทองเสมอ

                มีโอกาสกอบโกย แต่ท่านไม่เคยกอบไม่เคยโกย ซ้ำร้าย ยังหาญกล้าท้าทายผู้มีอำนาจทางการเมืองโดยไม่อินังขังขอบกับผลลัพธ์

                ใครที่ชอบปวารณาตัวเป็นศิษย์ดร.ป๋วย   อย่าเป็นศิษย์แค่ด้วยลมปากเหม็นๆ

                ไปชมอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม ที่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี (ไม่ใช่นครปฐม) ในอาคารเชิดชูเกียรติยศ มีหุ่นขึ้ผึ้งรูปอาจารย์ป๋วยนั่งทำงานในห้องที่จำลองจากแบงก์ชาติ  คนที่เสนอปั้นรูปอาจารย์บอกว่า  เขาไม่รู้ประวัติดร.ป๋วยเท่าไหร่นัก   รู้แต่ว่า ดร.ป๋วยไม่ยอมตามใจผู้มีอำนาจ  แค่นั้นก็ถือเป็นศักดิ์ศรีสูงส่งของมนุษย์แล้ว

                ศักดิ์ศรีที่ว่า คือความเป็นอิสระ  ความมีอิสรภาพที่จะทำเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่

                ข้าวไทยนั้น ต้องสะท้อนถึงศักดิ์ศรีหรือความเป็นอิสระในการคิด  การกระทำ  เป็นไปเพื่อคนส่วนใหญ่ใช่หรือไม่   หรือแค่นโยบายหาเสียงหลอกชาวนาไปปีเท่านั้น

                ไม่เช่นนั้น ศักดิ์ศรีที่ว่าก็มีค่า เท่ากับโซ่ตรวนข้าทาสเท่านั้นเอง

พอใจ สะพรั่งเนตร