15 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ป่าช้าบ้านหนองมะแซว หมู่ 8 ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สภ.กันทรารมย์ พ.ต.อ.บัญญัติ ทั่งกลาง ผกก.สภ.โนนคูณ และพ.ต.ท.หญิง ปิยาภรณ์ ไชยพรรค นวท. (สบ 3) พฐ.จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กันทรารมย์และชุดสืบสวน ภ.จ.ศรีสะเกษ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่ง นายสมพงษ์ และนางบุญมา โสลุน สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของนายศักดิ์ดา โสลุน อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และนำศพบรรจุไว้ในสถูปท่อซีเมนต์ เก็บไว้ที่ป่าช้าบ้านหนองมะแซว ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ ว่าสถูปที่บรรจุศพของนายศักดิ์ดา และสถูปที่บรรจุร่างของนายหนูสิน ทิพย์โพธิ์ อายุ 62 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเช่นเดียวกันและตั้งอยู่ใกล้กันในป่าช้า ถูกคนร้ายทุบแตกทะลุเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ต่อมาญาติสงสัยว่าส่วนหัวของศพนายศักดิ์ดาและหัวของศพนายหนูสินหายไป

ซึ่งก่อนที่จะขุดเจาะสถูปท่อที่เก็บศพนั้น ทางตำรวจและญาติได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดบังสุกุลและขมาศพ และพระสงฆ์ได้ทำพิธีใช้ฆ้อนทุบสถูปก่อนเพื่อขออโหสิกรรมจากผู้เสียชีวิตก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเจาะท่อซีเมนต์ นำโลงศพเคลื่อนออกมาตรวจดูสภาพศพ ซึ่งปรากฏว่ากะโหลกศีรษะของนายศักดิ์ดา โสลุนหายไป พบเพียงเศษกระดูกบางส่วนและฟันกรามอยู่ในโลงใกล้ส่วนหัวของศพ ซึ่งจากการดูภาพถ่ายนายศักดิ์ เมื่อวันที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตนั้น ส่วนหัวของศพยังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์

หลังจากตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ต่อมา พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ เดินทางไปที่ ห้อง ศปก.สภ.กันทรารมย์ เพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษได้ทำการตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง หลังจากมีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความว่า สถูปท่อซีเมนต์บรรจุศพถูกทุบ มีชิ้นส่วนของศพบางส่วนหายไป จากการเปิดสถูปท่อออกและตรวจสภาพแล้วปรากฏว่า ส่วนหัวหรือกะโหลกศรีษะของนายศักดิ์ดาหายไป แต่พบชิ้นส่วนกระดูกบางส่วนและฟันกราม จึงได้เก็บรวบรวมส่งให้แพทย์

“ส่วนการที่ชิ้นส่วนหัวของศพที่หายไปนั้น ผู้ก่อเหตุหรือคนที่นำไปจะมีวัตถุประสงค์อะไร ตำรวจเราไม่สามารถรู้ได้ แต่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และในส่วนการก่อเหตุนี้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 366/3 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อปี 2558 คือ ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพ ส่วนของศพ อัฐิ หรือเถ้าของศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” พล.ต.ต.สันติ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ขนหัวลุก!โจรขโมย'ตัดหัว2ศพ' คาดนำไปทำเครื่องรางของขลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'หมอธรรม'เผยโจรขโมยตัด'หัวศพ' จะเอาวิญญาณไปเป็นคนรับใช้