ทุกวันนี้ทุกคนล้วนต้องใช้น้ำมัน ในกิจกรรมต่างๆ ในแต่ ละวัน โดยเฉพาะรถยนต์ เป็นปัจจัยที่ 5 ไปเรียบร้อยแล้ว พูดถึงเรื่องรถยนต์ ผู้เขียนได้เดินทางไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อไปดูงานทางด้านการค้าขายเครื่องยนต์มือสอง (เครื่องยนต์ใช้งานมาแล้ว) ต้องตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากเพราะตลาดเครื่องยนต์มือสอง ที่นี่เป็นตลาดใหญ่มากโดยเฉพาะในกลุ่ม 10 ประเทศ ประชาคมอาเซียน (Asean Community) มีการซื้อขายยกลอตในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก
เครื่องยนต์มือสองที่ว่านี้ มาเลเซีย ไปประมูลรถยนต์ที่ใช้แล้วในประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุการใช้งานเพียง 4-5 ปี บางคันยังวิ่งไปไม่ถึง 100,000 กิโลเมตร แต่หมดอายุการใช้งานของญี่ปุ่นแล้ว ก็จะนำมาเรียงกันเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงเวลาประมูล ก็จะเลือกประมูลกันทั้งคันทั้งรถยนต์และเครื่องยนต์ เมื่อประมูลได้แล้วก็จะทำการตัดผ่ากลางคันรถและเลือกเฉพาะเครื่องยนต์มาเท่า นั้น แต่บางครั้งก็จะนำเฉพาะส่วนหัวมาบ้างก็มีเผื่อลูกค้าบางรายซื้อไปซ่อมเฉพาะท่อนหัวรถยนต์ที่ถูกเฉี่ยวชนมา
หลายคนถามว่าแล้วทำไมต้องตัดผ่ากลางคันด้วยก็เพราะหากนำมาทั้งคันพิธีการศุลกากร ภาษี ก็บานตะไทซิครับ แต่ถ้านำเข้ามาเฉพาะเครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนบางอย่างเปรียบเสมือนเศษเหล็กนั่นแหละครับราคาภาษีไม่แพงนำมาทำความสะอาด ตกแต่ง หาอะไหล่ให้ครบ แค่นี้ก็นำมาขายหน้าร้านได้แล้วครับ
ย่านการค้าเครื่องยนต์มือสอง ที่ JALAN KEPONG (ถนนกีปง) อยู่ชานเมืองกัวลาลัมเปอร์ ที่ถนนนี้มีโกดังร้านค้ามากกว่า 10-15 แห่ง ในละแวกใกล้กัน ที่ถนนสากรัมบรัค, ถนนสารายัง, ถนนสาราบัง, ถนนภุชงค์ มีโกดังเครื่องยนต์มือสองรวมแล้ว กว่า 50 แห่ง ห่างออกไปอีก 35 กิโลเมตร มีแหล่งที่เรียกว่า เมืองกรัง (KRANG) รัฐสลังงอร์ อีก 10-15 แห่ง
เจ้าของร้านค้าส่วนใหญ่ร้อยละ 95% เป็นคนจีน มาเลเซียที่ยึดอาชีพนี้มากว่า 25 ปีขึ้นไปแทบทั้งสิ้นการทำธุรกิจนี้มานานแสดงว่าความต้องการของลูกค้ามีอยู่มากเช่นเดียวกัน จากการพูดคุยกับเจ้าของร้านและจากการเดินเข้า-ออก ของลูกค้า ที่มีมากอย่าง ไนจีเรีย, ปากีสถาน, อินเดีย, บังกลาเทศ, อินโดนีเซีย, ลาว หรือแม้แต่คนไทย เราเห็นชาวไนจีเรีย มากันเป็นทีม 5-6 คน เป็นผู้เชี่ยวชาญการดูเครื่องยนต์มือสอง กระจายกันคัดสรรเครื่องยนต์และนำมารวมกันไว้เลยให้ได้เต็มตู้คอนเทนเนอร์ แล้วผู้ขายก็จะส่งเครื่องยนต์นี้ไปให้ทางเรือ ไนจีเรีย เฉลี่ยการเดินทางมาปีละ 6-7 ครั้งแต่ละครั้งซื้อกลับไปเฉลี่ย 300-500 เครื่อง เลยทีเดียว พูดอย่างนี้แสดงว่าเครื่องยนต์มือสองราคาถูก สินค้ามีคุณภาพใช้งานได้ดี
ใน พื้นที่ที่ติดแนวชายแดนมาเลเซีย อย่าง สงขลา สตูล ยะลา นราธิวาส โดยเฉพาะสงขลานิยมขับรถยนต์ขึ้นไปซื้อที่กัวลาลัมเปอร์เป็นจำนวนมาก โดยมีขั้นตอน ดังนี้
(1) การเลือกเครื่องยนต์มือสองผู้คัดเลือกต้องเป็นช่างยนต์ที่มีทักษะดีที่ มองออกว่าเครื่องยนต์ที่ซื้อมาแล้วต้องใช้งานได้อีกนานมากกว่า 6-8 ปี ถ้าเครื่องยนต์เสียก็หาอะไหล่ซ่อมได้ สนนราคาไม่แพงเลย อย่างเครื่องยนต์ TOYOTA 3,000 CC 2JZ ใช้งานมาแล้ว 4-5 ปี ราคาอยู่ที่ 1,300 RM-1,500 RM (1RM =10 บาท) ก็ราวๆ 13,000-15,000 บาท
(2) ต่อ รองราคาซื้อขายกันเรียบร้อยแล้วทางร้านจะออกใบรับรองมาให้ 1 ใบ จากกัวลาลัมเปอร์ 460 กิโลเมตร เมื่อมาถึงด่านสะเดา สงขลา ทำพิธีการศุลกากรเพื่อนำเข้าเครื่องยนต์ใช้แล้ว ก็มีค่าใช้จ่ายประมาณ 8,000 บาท ก็เป็นอันเสร็จพิธีนำเข้า
(3) ส่วนมากรถยนต์ที่จะนำเครื่องยนต์มือสองมาใช้งานเป็นรถยนต์ตู้ที่เครื่องยนต์ เดิมเป็นเครื่องยนต์ดีเซล และต้องการจะติดตั้งแก๊ส ต้องเป็นเครื่องยนต์เบนซิน เช่น 2,500 CC 1JZ หรือ 3,000 CC 2JZ ก็ตามเปลี่ยนเครื่องยนต์ประเภทนี้แล้ว ก็สามารถนำไปติดตั้งแก๊ส (ค่าติดตั้งราคาประมาณ 20,000-40,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดปริมาตรความจุของแก๊ส) ติดตั้งได้ทั้ง NGV หรือ LPG สะดวกและปลอดภัย
(4) นำรถยนต์ไปที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อแจ้งขอเปลี่ยนเลขเครื่องยนต์ เบ็ดเสร็จก็ใช้งบประมาณทั้งสิ้น ราวๆ 40,000-50,000 บาท ระยะเวลาคืนทุน หากรถวิ่งบ่อย ก็คืนทุนได้ภายใน 8-9 เดือน
ในภาวะที่น้ำมันแพงเช่นนี้ เรื่องบางเรื่องเราต้องช่วยเหลือตัวเราเองให้ได้เสียก่อน เพื่อจะได้ใช้รถยนต์อย่างประหยัด เพราะถ้าหากรอรัฐบาลช่วยแล้ว คงต้องรอไปอีกนานพอสมควรกระมังครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี