ภายใต้ พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พุทธศักราช 2535 ได้กำหนดให้มีการนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 4.5 พันล้านบาท มาเป็นทุนประเดิมในการจัดตั้งเป็นกองทุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา กองทุนสิ่งแวดล้อมได้มีการสนับสนุนเงินกองทุน ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนภาคเอกชน เพื่อการรักษาหรือจัดการด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ทั่วประเทศไปแล้วกว่า 200 โครงการ รวมเป็นเงินกว่า 10,000 ล้านบาท
และด้วยวัตถุประสงค์สำคัญ ของโครงการสองประการคือ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่อย่างรวดเร็ว และยั่งยืน กับการสนับสนุนให้เกิดการสร้างเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อมในระดับชุมชนหรือระดับท้องถิ่นในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ จึงทำให้เกิดแนวคิดที่ผนวกการดำเนินการของกองทุน เข้ากับ “เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน” หรือ “ทสม.”
นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การเกิดขึ้นของ ทสม. คือความตั้งใจของกระทรวงฯ ที่ต้องการจะให้คนในพื้นที่เป็นผู้ที่จะคอยติดตามสอดส่องปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชนของตนเอง พร้อมทั้งสามารถประสานงานกับหน่วยงานผู้รับผิดชอบส่วนกลาง เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วนั้น ล้วนแล้วแต่สอดคล้องกับแนวคิดการดำเนินการของกองทุนสิ่งแวดล้อม
“แต่ด้วยข้อกำหนดของการใช้เงินกองทุนที่ต้องดำเนินการผ่านหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากภาครัฐนั้น ไม่รวมถึงเครือข่าย ทสม. อันเป็นเครือข่ายภาคประชาชน ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดตั้งขึ้นตามระเบียบกระทรวงฯว่าด้วยอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน พ.ศ. 2550 ทำให้ ทสม. อันเป็นเครือข่ายประชาชนด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของกระทรวงฯ ไม่สามารถใช้กองทุนสิ่งแวดล้อมเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาในพื้นที่ของตนเองได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้”
“นอกเหนือจากการดำเนินการเพื่อสร้าง และขยายเครือข่าย ทสม. จนครบทั้ง 76 จังหวัด (ไม่รวมกรุงเทพมหานคร) แล้ว ในปีนี้ ทางกระทรวง จะมีการยกระดับเครือข่าย ทสม. จากการกำกับดูแลของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ขึ้นมาสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยตรง อันจะทำให้ ทสม. ยุคใหม่ สามารถรองรับภารกิจต่าง ๆ ของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหนึ่งในการเพิ่มศักยภาพของ ทสม. เหล่านี้ก็คือการสนับสนุนให้เขาสามารถเข้าถึงแหล่งทุนด้านสิ่งแวดล้อมได้โดยตรง”
ด้วยเหตุดังกล่าว ภายใต้กรอบการดำเนินการของกองทุนสิ่งแวดล้อม ช่วงปี 2557-2559 ฉบับร่าง ที่กำลังอยู่ระหว่างการระดมความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม และ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาตินั้น จึงได้มีนโยบายที่จะให้การสนับสนุน ทสม. ให้สามารถขอรับการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินโครงการด้านการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่ในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านการปรับตัวเพื่อรับมือต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยธรรมชาติ ด้านการอนุรักษ์ และคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านการส่งเสริมของชุมชนในการจัดการทรัพยากรน้ำ ด้านการกัดเซาะชายฝั่งและการพังทลายของดิน ด้านการส่งเสริมการทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน และการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
“การกำหนดให้ ทสม.สามารถขอรับการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมได้โดยตรงในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ ทสม. ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัครที่มาจากประชาชนทั่วประเทศ ให้มีบทบาทในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของตนเองเพิ่มมากขึ้น อันถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยผลักดันให้การแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติเป็นรูปธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนต่อไป” ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวสรุป
การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม มิใช่หน้าที่ของหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่ง หรือ ผู้ใด ผู้หนึ่ง หากแต่เป็น หน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันแก้ไข
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี