เปิดใจ ส.ส.พิษณุโลกรับลูกสาวรับเชื้อโควิค-19 จากประเทศอังกฤษ เผยลูกสาวปิดเทอมความเป็นอยู่เมืองผู้ดีลำบากมาก สั่งให้กลับพร้อมขับรถส่วนตัวไปรับสนามบินสุวรรณภูมิ 31 มี.ค.63 เพิ่งรู้ว่าติดโควิค ยอมรับสภาพนอนกักตัวเองที่บ้านรอแพทย์ตรวจเชื่อว่าติดจากลูกสาวหรือไม่
3 เมษายน 2563 หลังจากนายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ระบุ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ทำเป็นยอดสะสมไวรัสโควิด-19 ที่พิษณุโลกจำนวน 4 ราย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้ป่วยเป็นนักเรียนหญิงอายุ 23-24 ปีพักอยู่ประเทศอังกฤษ อาการป่วยมีไข้ และเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ เครื่องบินการบินไทย เที่ยวบิน TG9111 ที่นั่ง 44E ถึงไทยวันที่ 31 มี.ค.63 เวลา 06.00 น. นั้น ไม่มั่นใจจึงตรวจเชื้อที่ รพ.พญาไท ที่กรุงเทพมหานคร และเดินทางกลับพิษณุโลก ดัวยรถส่วนตัวกับบิดาถึงพิษณุโลกในช่วงเวลา 17.00 น.
กระทั่ง 2 เมษายน รพ.พญาไท ยืนยันว่าผลเลือดเป็นบวก ติดเชื้อ โควิด-19 และจึงเข้าทำการรักษาตัวในโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก โดยรถพยาบาลได้ทำการไปรับตัวที่บ้านพัก ปัจจุบันผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง ไม่มีไข้ มีเพียงอาการเจ็บคอและปวดเมื่อยตามร่างกายเล็กน้อย ประเมินแล้ว มีผู้ที่ใกล้ชิดผู้ป่วยเสี่ยงสูง 1 ราย คือบิดาที่เดินทางไปรับกลับจากสนามบิน และความเสี่ยงต่ำ 5 ราย คือคนภายในครอบครัว และทั้ง 5 ราย ล่าสุดกักตัวเองเพื่อดูอาการแล้ว
ล่าสุด เฟสบุกส์ของ Niyom Changpinit โพสต์ข้อความว่า กราบเรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน ผมในฐานะหัวอกคนเป็นพ่อที่จะกราบเรียนต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักที่เคารพและห่วงใยกระผมดังนี้*บุตรสาวของผมซึ่งไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งในขณะนี้มีโรคระบาดไวรัสโควิด-19 สถานการณ์รุนแรงกว่าประเทศไทยมากซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า3 หมื่นรายทั่วประเทศอังกฤษและที่ประเทศอังกฤษ สั่งปิดเมือง สถานการณ์ที่นั่นลำบากไปทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ทางการแพทย์ เครื่องอุปโภคบริโภค ลำบากไปหมด ผู้คนโกลาหล เดือดร้อน
ผมและครอบครัว เป็นห่วงลูกสาวมากจึงตัดสินใจดำเนินการเพื่อให้ลูกสาวได้กลับมาประเทศไทยโดยการด่วน ขั้นตอนนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก กว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้เดินทางกลับประเทศไทยค่อนข้างยุ่งยากมากผมและครอบครัวได้เตรียมการตามวิธีการของสาธารณสุข อย่างเต็มที่ทั้งครอบครัวและการเดินทางไปรับบุตรสาว เราตระหนักดี *จึงได้เดินทางไปรับบุตรสาวโดยลำพังเพียงคนเดียวเท่านั้น *ไม่ใช้คนขับรถ หรือบุคคลอื่นเนื่องจากเกรงว่าเขาจะได้รับอันตรายทั้งตัวเขาเองและครอบครัวของเขาเมื่อได้รับบุตรสาวจากสนามบินแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลซึ่งได้นัด คุณหมอไว้แล้วและเปิดเผยข้อมูลความจริงทุกประการเพื่อให้คุณหมอผู้เชี่ยวชาญนั้นได้ระมัดระวังตัวและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม หลังจากตรวจเสร็จ คุณหมอจะแจ้งผลตรวจให้ทราบในอีก 1 หรือ 2 วันถัดมา ซึ่ง ระหว่างนั้นคุณหมอได้ให้คำแนะนำว่าต้อง เก็บตัว14 วันตามกระบวนการสาธารณสุข หลังจากนั้นแล้ว
ผมก็มุ่งหน้าเดินทางกลับพิษณุโลกโดยไม่ได้แวะที่ใดเลยมุ่งตรงมาที่บ้าน ซึ่งได้เตรียมการไว้ก่อนแล้ว *และได้แยกสมาชิกในครอบครัวกับบุตรสาวซึ่งกลับมาใหม่ต่างหากออกจากผู้อื่นและ*เก็บตัวตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงปัจจุบันโดย*ข้าพเจ้าและครอบครัวไม่ได้ออกไปพบปะผู้ใด*แม้กระทั่งงานสังคมส่วนรวมที่ข้าพเจ้าได้รับเชิญและต้องรับผิดชอบอยู่ก็ขอหยุดหมด*ตั้งแต่วันที่ไปรับลูกสาวกลับมา
จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนที่เคารพรักและห่วงใยกระผมได้ทราบและเข้าใจกระผมและครอบครัว
*ในท้ายสุดนี้
ผมขอให้ท่านทั้งหลายแคล้วคลาดปลอดภัยสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.บุคลากรทางการแพทย์ทุกๆท่าน
#กินร้อนช้อนใครช้อนมัน (แยกกันกิน) ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร (Social distancing) สวมหน้ากากอนามัย ทุกครั้งที่ออกจากบ้านและเก็บตัวอยู่กับบ้านไม่ไปไหน จะดีที่สุดขอกราบขอบพระคุณครับ
#ด้วยรักและผูกพัน
#เราจะไม่ทิ้งกัน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังผู้เป็น พ่อ ผู้ป่วยติดเชื้อ รายที่ 4 ของพิษณุโลก บอกว่า ตนทำอยู่ที่สุดแล้ว เนื่องจากลูกสาวอยู่ที่ประเทศอังกฤษ บอกว่า วันที่ 20 มี.ค. ได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจ เนื่องจาก มีอาการหายไข้ คอเป็นผื่นแดง และมีน้ำมูกไหล ซึ่งลูกสาวตนก็เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว บังเอิญว่า ช่วงนี้ เป็นช่วงปิดเทอม อยากกลับเมืองไทย ลูกสาวตนจึงได้จองเครื่องบิน แล้ว ขอใบรับรองแพทย์ ซึ่ง แพทย์ที่ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ไม่เป็นอะไร ซึ่งตอนนั้น ก็ไม่รู้ว่า จะเป็นโควิค-19 หรือไม่ แต่ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคนก็ได้ตรวจร่างกายและขึ้นเครื่องบินเพื่อบินกลับเมืองไทย
"ตนก็ไม่สบายใจ จึงพาลูกสาว เดินทางไปพบแพทย์ ที่โรงพยาบาลพญาไท กรุงเทพมหานคร ซึ่งหมอก็ได้แจ้งว่า ต้องนอนพักเพื่อดูอาการ ส่วนจะไปนอนที่โรงพยาบาลก็เกรงว่า จะทำให้เตียงเต็ม และ หากไปนอนพักที่คอนโดมิเนียมที่กรุงเทพฯ ตนก็มองว่า เห็นแก่ตัวเกินไป เพราะจะทำให้สังคมในกรุงเทพฯเดือดร้อน เพราะลูกตน ก็ไม่ได้เป็นอะไร อาการก็ไม่หนักอะไร ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ทราบว่า เป็นโรคโควิค-19 แต่แพทย์ที่รพ.พญาไท ก็แนะนำ และก็ป้องกันเอาไว้ก่อนแล้ว โดยพาลูกสาวตน นั่งตอนหลังของรถยนต์ โดยที่ตนขับรถตอนหน้าคนเดียว จากนั้นก็ได้โทรศัพท์ไปที่บ้านที่พิษณุโลกว่า ลูกสาวตนกำลังกลับไปที่พิษณุโลก ให้จัดเตรียมห้องไว้ ซึ่งปกติ ก็แยกห้องอยู่แล้ว ส่วนการพบปะญาติๆ ก็ไม่ได้ใกล้ ชิด เนื่องจากได้พักกับแยกห้องตามปกติอยู่แล้ว"
กระทั่ง กรมควบคุมโรคโทรศัพท์แจ้งว่า ลูกสาวตนติดเชื้อโควิค -19 เตรียมจะมารับไปโรงพยาบาล ตนจึงบอกว่า ลูกสาวตนกลับมาอยู่ที่พิษณุโลกแล้ว จึงมีความประสงค์เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ซึ่งอาการล่าสุดก็ยังไม่หนักหรือรุนแรงใดๆ
วันนี้ ตนก็พักอยู่ที่บ้านแถบ ต.หัวรอ อยู่คนเดียว โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร เพื่อไม่ให้แพร่ระบาด รอเวลาแพทย์นัดไปตรวจหาเชื้อโควิค-19 ว่า พบเชื้อหรือไม่ ซึ่งนัดไว้ช่วงวันที่ 5-6 เมษายนนี้ เพราะช่วงนี้ตรวจหาเชื้อยังไม่พบแน่ ยอมรับว่า ตนเป็นผู้ใกล้ชิดกับลูกสาวมากที่สุด เพราะเป็นคนไปรับกลับจากสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งช่วงนั้นไม่ทราบเลยว่า ลูกตนเป็น กระทั่งไปตรวจที่รพ.พญาไท แพทย์ได้แนะนำห้ามอยู่ใกล้ชิด ตนจึงได้แต่ขับรถกลับอย่างเดียวโดยไม่แวะไหน ส่วนลูกสาวตนก็นั่ง ตอนหลังของรถยนต์ ยอมรับสภาพ และไม่ขอทำร้ายคนในสังคม ตนระมัดระวังตนเอง ขออยู่กักตัวตนเองอยู่ภายในบ้านพัก วันนี้ ไม่ได้สัมผัสกับคนในครอบครัวเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี