วันนี้ 21 พ.ค. 56 พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เร่งพิจารณาอัตราค่าโดยสารแท็กซี่อย่างรอบคอบและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดผลกระทบแก่ผู้ใช้บริการให้น้อยที่สุด อีกทั้งยังประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อพิจารณาควบคุมค่าเช่ารถแท็กซี่ให้เหมาะสม

พล.อ.พฤณฑ์ กล่าวว่า เงินสลึงนึงก็มีค่ามากสำหรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ผู้ให้เช่า และผู้ให้บริการ เพราะกระทบต่อค่าครองชีพของคน ฉะนั้นการจะขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่หรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาให้รอบด้าน แต่เบื้องต้นอยากขอร้องให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่มีหัวใจบริการ ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือไปยังกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงาน เพื่อขอให้มีการพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารมิเตอร์ ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ไม่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร นอกจากนี้ ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานเข้ามาควบคุมการจำหน่ายก๊าซแอลพีจีให้กับรถยนต์ เนื่องจากปัจจุบันปั๊มก๊าซจำหน่ายเกินราคาควบคุม คือจำหน่ายที่ราคา 12.80-13 บาทต่อลิตร

ส่วนอัตราค่าโดยสารที่เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ ต้องการให้ปรับขึ้นนั้น มีรายละเอียดดังนี้ อัตราค่าโดยสารขั้นต่ำจากเดิม 35 บาท เป็น 40 บาท เพราะเห็นว่าค่าโดยสารในส่วนนี้ไม่มีการปรับมานาน และปรับอัตราค่ารถหยุดนิ่งกรณีรถติด จากนาทีละ 1.50 บาท เป็น 2 บาท ขณะที่ค่าโดยสารตามระยะทางต้องหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบกและผู้ที่รับผิดชอบ เพราะจะเป็นสูตรการคิดที่ต้องใช้เทคนิคในการคำนวณ ซึ่งคาดว่าการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารในครั้งนี้ จะเป็นแรงจูงใจให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ไม่ปฏิเสธผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางระยะสั้นและระยะไกล

ด้านนายศดิศ ใจเที่ยง นายกสมาคมผู้ขับรถแท็กซี่เพื่อไทยสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ประเด็นหลักในส่วนของสมาคมไม่ต้องการให้มีการปรับอัตราค่าโดยสารขั้นต่ำ แต่ต้องการให้มีการปรับอัตราค่าโดยสารตามระยะทางมากกว่า ซึ่งจะรอให้ทางกรมการขนส่งทางบก และกระทรวงคมนาคม เรียกหารือจะได้เข้าไปรับฟังหลักการคิดคำนวณค่าโดยสารว่าจะปรับกันอย่างไรบ้าง