สาธารณสุขเตือนภัยฉี่หนูฤดูฝน
“แม่บ้าน-เกษตรกร” มีแผล
รอยถลอกที่มือเท้าต้องระวัง
นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน กระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วงสุขภาพประชาชนอาจเจ็บป่วยด้วยโรคที่มักพบได้บ่อยในฤดูกาลนี้ และมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ คือโรคเลปโตสไปโรซีส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนู ที่ผ่านมามักพบในกลุ่มเกษตรกรในเขตชนบทเป็นส่วนใหญ่ แต่ขณะนี้ระบาดมาถึงในเมือง อาชีพอื่นๆ ก็พบได้ด้วย ทั้งแม่บ้าน ผู้ที่รับจ้าง ประมง ผู้ที่ทำงานออฟฟิศ นักเรียนนักศึกษา พระ ซึ่งอาจสัมผัสเชื้อที่อยู่ในฉี่ของหนูที่เข้ามาอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนหรือในที่ทำงาน
นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า สถานการณ์ของโรคนี้พบได้ตลอดปี แต่จะพบป่วยมากในช่วงฤดูฝน ในปี 2555 สำนักระบาดวิทยารายงานทั่วประเทศป่วยทั้งหมด 4,130 ราย เสียชีวิต 60 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยใน 3 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี นนทบุรี และสมุทรปราการ ในปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม – 5 มิถุนายน 2556 ทั่วประเทศมีผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลในสังกัดรวมทั้งหมด 963 ราย เสียชีวิต 7 ราย โดยพบมากที่สุดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 550 ราย มากที่สุดที่จังหวัดสุรินทร์ 79 ราย และศรีสะเกษ 69 ราย รองลงมาคือภาคใต้ 262 ราย คาดว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 เป็นต้นไปจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น 1-3 เท่าตัว เพราะประชาชนออกไปทำไร่ทำนา รวมทั้งหนูอาจหนีน้ำเข้าไปอาศัยอยู่ตามอาคารบ้านเรือนได้ จึงเพิ่มโอกาสการสัมผัสกับเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม. เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน เพื่อป้องกันลดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด
ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไปกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลังติดเชื้อโรคฉี่หนูประมาณ 10 วันจะมีอาการป่วย ลักษณะเฉพาะของอาการป่วยโรคนี้ ได้แก่ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะรุนแรง หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง มักปวดที่น่อง โคนขา ตาแดง ดังนั้นหากประชาชนมีอาการป่วย มีไข้สูงเกิน 2 วัน ไม่ควรนิ่งนอนใจ ขอให้รีบพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง โดยโรคนี้มียาปฏิชีวนะรักษาหายขาด ซึ่งมีในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพราะหากปล่อยให้ป่วยเป็นเวลานานอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ไตวาย เลือดออกในปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทำให้เสียชีวิตได้
นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ประชาชนเสียชีวิตจากโรคนี้ พบว่าส่วนใหญ่มาจากประชาชนชะล่าใจ หลังป่วยมักไปซื้อยากินเอง หรือไปรักษาที่คลินิกแล้วไม่หายจะเปลี่ยนคลินิกไปรักษาใหม่เรื่อยๆ จึงทำให้เชื้อโรคลุกลามไปทำลายอวัยวะอื่นๆ ทำให้เกิดไตวาย สมองอักเสบ และไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเมื่อมีอาการหนักแล้ว จึงทำให้โอกาสรอดชีวิตมีน้อยลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี