31 มีนาคม 2564 จากกรณีเหตุการณ์ที่พลุตะไลที่ใช้จุดในงานเผาศพพุ่งตกลงมาใส่ศีรษะ เด็กหญิงณัฐชา สวัสดี หรือน้องมิ้นท์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนอาจวิทยาคาร ตำบลตะคุ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ขณะน้องมิ้นท์พร้อมเพื่อนรวม 3 คน เลิกเรียน และกำลังเดินออกโรงเรียนจะกลับบ้าน ทำให้น้องมิ้นท์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเพราะอาการโคม่าไม่รู้สึกตัว ขณะที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัย ได้แจ้งดำเนินคดีกับชาย 2 คน ที่เป็นผู้จุดพลุตะไลในงานศพแล้ว ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ข่าวเพิ่มเติม : เปิดภาพวินาทีบั้งไฟงานศพ ตกใส่ศีรษะเด็กนักเรียน 9 ขวบ อาการยังโคม่า

จากนั้นได้เข้าไปเยี่ยมดูอาการของน้องมิ้นท์ ซึ่งนอนรักษาอาการอยู่ในห้องปลอดเชื้อ 100% โดยมีสายยางน้ำเกลือโยงระยาง เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องตรวจสมอง เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ชั้นสูง โดยร่างกายไม่รู้สึกตัว อาการทั่วไปทรงตัว หลังการผ่าตัดศีรษะเกือบเข้าสู่วันที่ 2  โดยหน้าห้องมาติพี่น้อง เพื่อนที่ทำงานของพ่อแม่ ได้นำกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังมามอบให้อยู่ตลอด ญาติหลายคนนำเสื่อมาปูนั่งนอนเฝ้าตั้งแต่ทางโรงพยาบาลเปิดให้เยี่ยม โดยทุกคนมีสีหน้าเศร้าเหมือนกันหมด และจับกลุ่มพูดคุยเรื่องอาการของน้องและทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สงสารน้องมิ้นท์มาก อายุยังน้อยมีอนาคตอีกยาวไกล ไม่น่าจะมาเกิดเหตุขึ้นกับน้องเลย

นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ กล่าวภายหลังเยี่ยมว่า ทราบข่าวที่เกิดขึ้นกับน้องมิ๊นท์ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหล่ากาชาดฯเราจึงเดินทางมาเยี่ยมพ่อแม่ให้กำลังใจและปลอบขวัญใจให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะน้องมิ้นม์เป็นบุตรสาวคนเดียวของครอบครัว รวมทั้งนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ได้ฝากให้เรามาเยี่ยมด้วย ส่วนเรื่องอาการคงต้องถามทางคณะแพทย์ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าอาการน้องจะดีขึ้นเมื่อไหร่หรือทรงตัวหรือจะมีอะไรอย่างไร ตนและท่านผู้ว่าฯก็ได้แต่ภาวนาให้น้องมิ้นท์หายเร็วๆ หายวันหายคืน ดีขึ้นเร็ววัน ส่วนเรื่องการจุดพลุตะไลนั้นควรจะต้องมีการเข้มงวด หรือไม่จำเปนก็อาจจะลดหรือยกเลิกการใช้ไปเลย อันตรายก็จะไม่มีหรือลดน้อยลง

ด้านนายแพทย์บวร เกียรติมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ดูแลด้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน เปิดเผยว่า ตอนนี้สมองได้รับความกระทบกระเทือนมาก และก้านสมองไม่ทำงาน อาการค่อนข้างหนัก ขั้นโคม่า อาการขณะนี้อยู่ได้ด้วยยาและเครื่องช่วยหายใจ แนวโน้มค่อนข้างหนัก อาการยังไม่คงที่และไม่ทรงตัว ซึ่งแพทย์ต้องดูแลใกล้ชิด เรียกว่านาทีต่อนาที คณะแพทย์เรารักษาเต็มที่มาตั้งแต่วันแรกแล้ว ทั้งเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์และทำการผ่าตัด ซึ่งอาการบาดเจ็บถือว่ารุนแรงมาก อยากฝากว่าพลุตะไลถือเป็นวัตถุอันตรายอยู่แล้ว ฉะนั้นมันต้องควบคุมให้ดี และอันนี้ก็ไม่มีใครอยากให้เป็นและเป็นอุบัติเหตุ  

นางพัชรี ช่วงจะโป๊ะ อายุ 33 ปี แม่ของน้องมิ้นท์ เปิดเผยว่า น้องเป็นลูกสาวคนเดียว หัวแก้วหันแหวน  ต้องขอขอบคุณนายกเหล่ากาชาดและผู้ว่าราชการจังหวัดฯที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลแทนน้องด้วย ตนเสียใจมากกับเหตุการณณ์นี้มาก อย่างไรก็ตามตนและแฟนก็ต้องสู้ต่อไป และขอฝากให้เป็นอุทธาหรณ์ อย่าได้เกิดขึ้นกับลกหลานคนไหนอีกเลย อยากให้เครสน้องเป็นเครสสุดท้ายก็แล้วกัน
สำหรับเรื่องนี้ที่ไม่น่าเอามาใช้เพราะเป็นอันตราย ตนแฟนและญาติได้เข้าไปเยี่ยมอาการดูแลอาการทรง ใช้เครื่องช่วยหายใจที่อยู่ได้ ครอบครัวเราอยากได้กำลังใจขอให้น้องหายไวๆ หมอบอกว่าอาการน้องให้ทำใจเพราะอาการหนัก