เมื่อวันที่ 5กรกฎาคม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) พร้อมผู้แทนส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ร่วมแถลงความคืบหน้าการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ครั้งที่3 โดย พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า การดำเนินการในด้านพัฒนา เราจัดทำโครงการฟื้นฟูนาร้างให้เป็นผืนนาที่อุดมสมบูรณ์เพื่อให้ชาวนามีผลผลิต โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้บูรณาการร่วมกันและยังจัดเวทีชาวบ้านไปแล้ว 26ครั้งใน 26ชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาส่วนงานด้านความมั่นคง เรามีโครงการพาคนกลับบ้านโดยเปิดโอกาสให้ผู้เห็นต่างเข้ารายงานตัว ซึ่งตั้งแต่วันที่ 11กรกฎาคม2555-27มิถุนายน2556 มีผู้เข้ารายงานตัวแล้ว 318คน เป็นผู้มีหมายจับ 171 คน
สำหรับคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี2547-วันที่ 31พฤษภาคม2556 แบ่งเป็นคดีอาญา 120,472คดี เป็นคดีอาญาทั่วไป111,418คดีและคดีความมั่นคง 9,054คดี แบ่งเป็นไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิด 6,916คดี รู้ตัวผู้กระทำความผิด 2,138คดี รู้ตัวจับได้ 1,529 คดีและรู้ตัวแต่หลบหนี 609คดี ผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาทุกฝ่ายให้ความร่วมมือรแก้ปัญหาเต็มที่ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการดูแลสถานการณ์ในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารจะดูแลพื้นที่ด้านนอก ส่วนตำรวจจะดูแลในเมือง โดยการตั้งจุดตรวจและจุดสกัดเพื่อป้องกันการก่อเหตุ
ด้าน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุไม่สงบชายแดนภาคใต้ช่วงเดือนรอมฎอน ว่า มีการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่กับ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี โดยทางจุฬาราชมนตรีได้ทำข้อแนะนำ ข้อปรึกษาต่างๆมายังหน่วยราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อการปฏิบัติในพื้นที่ โดยทำเอกสารส่งมายังรัฐบาลและเจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งมีข้อแนะนำหลายข้อ ทั้งในส่วนการปฏิบัติศาสนกิจ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เช่น การตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ ที่สามารถทำได้ แต่ขอให้เพิ่มความระมัดระวังและความละเอียดอ่อนในการปฏิบัติ อาทิ การตรวจค้นผู้หญิงก็ขอให้ใช้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงและขออนุโลมเรื่องปฏิบัติราชการจาก08.30น.-15.00น.โดยขอให้มีการผ่อนปรนเพื่อเตรียมร่างกายเข้าสู่การปฏิบัติศาสนกิจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แผนของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ให้มาจะลดความรุนแรงได้หรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า น่าจะลดได้ เพราะการพูดคุยคืบหน้าส่วนหนึ่งแล้วและการพูดคุยคงมีตามปกติ ทั้งนี้ตนอาจจะลงพื้นที่เร็วๆนี้ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ให้นโยบายเรื่องภาคใต้อย่างไรบ้าง พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า นโยบายทราบกันอยู่แล้ว นายกฯอยากให้เหตุการณ์เพลาลง ลดความรุนแรง ให้มีความเข้าใจกัน เอื้ออำนวยความเป็นอยู่ของประชาชน สงบสุขมากที่สุดคือนโยบายที่นายกฯให้ไว้ ยอมรับปัญหาภาคใต้ต่อเนื่องยาวนาน แก้ไม่ได้ชั่วพริบตา ต้องใช้เวลา
ส่วนเหตุร้ายรายวันในพื้นที่นั้น เวลา 09.00น.วันที่ 5กรกฎาคม ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ รองหัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาสและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปลดป้ายข้อความที่คนร้ายเขียนเป็นภาษาไทลงบนกล่องกระดาษสีน้ำตาล แล้วใช้เชือกไนล้อนนำไปแขวนไว้กับป้ายทางหลวงบริเวณบ้านทุ่งโต๊ะดัง ม.8 ต.บางปอ โดยข้อความมีใจความว่า” ทหารจงออกจากพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะทหารยิ่งมาก สถานการณ์ยิ่งรุนแรง ขนาดตัวเองยังเอาตัวไม่รอดแล้วจะดูแลประชาชนได้อย่างไร กลับไปหาลูกเมียดีกว่า”ซึ่งป้ายข้อความดังกล่าวเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นฝีมือของแนวร่วมในพื้นที่ ที่เคยนัดแนะเคลื่อนไหวลอบเผากล้องวงจรปิด 20ตัว ในพื้นที่ 5อำเภอของ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 30มิถุนายนที่ผ่านมา
ต่อมา เวลา 11.30น.พ.ต.ท.ประวีณ ปะณะศรี พนักงานงานสอบ สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบยิง อส.ประจำที่ว่าการ อ.ศรีสาคร บริเวณถนนภายในหมู่บ้านกำปงบูเก๊ะ ม.2 ต.ซากอและกดระเบิดซ้ำ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ อส.ศรีสาคร อีกชุดนำกำลังเข้าไปช่วยเหลือทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 5นาย จึงนำกำลังตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดบริเวณท่อรอดกลางถนนลึก 1.50เมตร กว้าง 2.50เมตร มีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายใส่ไว้ในถังแก๊สหุ้งต้มหนัก 85กก.จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่ลากสายไฟยาวเข้าไปในสวนยางพารา ห่างไป 40เมตร พบรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ฒย1631กทม.จอดเสียหลักในสภาพถูกสะเก็ดระเบิดเสียหายทั้งคัน ส่วน อส.5นาย ที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อน อส.นำตัวส่งรักษาที่ รพ.ศรีสาคร ไปก่อนหน้าแล้ว
จากการสอบสวน อส.อาซิ มะเซ็ง ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้านพักในหมู่บ้านจุดเกิดเหตุ เมื่อมาถึงสวนยางพารารกทึบมีคนร้ายแฝงตัวในป่าใช้ปืนยิงใส่ตน 1 นัด กระสุนเฉี่ยวบริเวณเสื้อ ตนจึงวิทยุขอกำลัง อส.เข้าปิดล้อมไล่ล่าคนร้าย ช่วงที่ อส.15นาย นั่งรถยนต์กระบะขับตามกันมา คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดที่แอบซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำ จนเกิดระเบิดขึ้นขณะรถกระบะคันที่3 ซึ่งมี อส.วิโรจน์ เป็นพลขับวิ่งผ่านมา ทำให้ อส.ทั้ง 5นาย ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่
เวลา 16.30น.เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดคุ้มครองรักษาความปลอดภัยครูเสียชีวิต 2นาย เหตุเกิดที่ ต.ปุลากง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี สอบถามทราบว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานทั้งสองนายเป็นทหารพรานสังกัด ร้อย.ทพ.4401 ชื่อ อส.ทพ.กัมปนาท คนโท และ อส.ทพ.มูฮามัดฮานาปี ยูนุ๊ ทั้งสองอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้แก่ครูช่วงเลิกเรียนตามปกติ โดยระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์ลาดตระเวนมาถึงบริเวณหน้ามัสยิด หมู่ที่ 1 ต.ปุลากง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารพรานทั้งสองนายจนเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการพยายามสร้างสถานการณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี