พระโฆษกอ้าง'สมีคำ'ยังไม่สึก!เผยจำวัดอยู่สหรัฐอเมริกา
วันเสาร์ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556, 14.29 น.
Tag :
วันนี้ 3 ส.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 10.30 น.พระธกฤษ กันตธัมโม พระวัดห้วยนารี บ้านห้วยแก้ว อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ในฐานะโฆษกอดีตพระเณรคำ พร้อมด้วยนายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความของอดีตพระเณรคำ เข้าพบ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในฐานะพยาน หลังทราบข่าวว่าดีเอสไอต้องการสอบถามพระกรณีเดินทางร่วมคณะไปประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมอดีตพระหลวงปู่เณรคำ
พระธกฤษ กันตธัมโม ในฐานะโฆษกอดีตพระเณรคำ กล่าวว่า อาตมาเดินทางมาชี้แจงกรณีมีข่าวคลาดเคลื่อนทางสื่อมวลชน อาตมายืนยันว่าไม่เคยขัดแย้งกับหลวงปู่เณรคำ ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่หายไปไม่เป็นความจริง อาตมาไม่เคยไปหยิบเงินหยิบทอง เพียงทำหน้าที่เป็นโฆษกเวลาหลวงปู่เณรคำมีกิจนิมนต์ก็จะเดินทางไปดูความเรียบร้อยของงานล่วงหน้า และเป็นผู้ที่ออกมาปกป้องหลวงปู่เณรคำ สิ่งที่ได้เห็นได้รู้พูดตามความจริงหมดจึงต้องมาชี้แจงกับดีเอสไอ ส่วนการไปต่างประเทศหลวงปู่เณรคำท่านได้ไปประเทศฝรั่งเศส เป็นกิจนิมนต์ของยูเนสโกที่จัดงานวันวิสาฬบูชาโลก ทางพระอาจารย์ปานขาวได้นิมนต์ไป โดยหลวงปู่เณรคำได้เดินทางไปแสดงธรรมภาษาไทย ส่วนอาตมามีหน้าที่แปลภาษาอังกฤษ ซึ่งมีพระติดตามไป 9 รูป
โฆษกอดีตพระเณรคำ กล่าวอีกว่า การเดินทางไปครั้งนี้ไปถูกต้องตามกฎหมายเพราะว่าการเดินทางไปของพระลำบากที่สุด พระต้องมีใบสุทธิเริ่มต้นไปทำหนังสือเดินทาง จากนั้นต้องไปขอวีซ่า จึงไม่ใช่เดินทางโดยหลบหลบเลี่ยง ไปตามกิจของสงฆ์ที่เค้านิมนต์มา จริงๆ หลวงปู่เณรคำและอาตมาไม่อยากไปด้วย เพราะมีกิจนิมนต์ในเมืองไทยมากก็ต้องไป เพราะทางนั้นบอกว่าได้นัดกับผู้ใหญ่ทางประเทศนั้นไว้แล้วจึงต้องไป พอไปตามกิจนิมนต์มีกำหนดเดินทางไป 35 วัน ก็โดนเลยมีเรื่อง อาตมาสังเกตหลังจากมาอยู่กับหลวงปู่เณรคำได้ปีกว่าว่า หากหลวงปู่เณรคำเดินทางไปต่างประเทศทีไรจะมีปัญหาทุกครั้ง หลายรอบที่วัดมีปัญหาแบบนี้แต่ครั้งนี้แรงที่สุด
พระธกฤษ กันตธัมโม กล่าวอีกว่า ส่วนหลวงปู่เณรคำตอนนี้ยังเป็นพระ อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนี้ทราบว่ามีอาการท้องเสีย อาตมาได้ติดต่อกันเมื่อ 1-2 วัน ที่ผ่านมาทางไลน์ ส่วนการกลับประเทศไทยหลวงปู่เณรคำจะกลับมา ส่วนเรื่องพระเป็นเรื่องกิจของสงฆ์ ผิดถูกยังไม่รู้ เรื่องของกฎหมายก็ทำไป แต่มีการไล่ล่ากันเป็นใครจึงต้องหลบไปก่อน เรื่องของพระมีพระธรรมวินัยว่า หากสงฆ์ปัญหาต้องให้อธิกรณ์สงฆ์สอบสวน แต่การสอบสวนสงฆ์ไม่ใช่ 1-2 วันจะจบ ส่วนใหญ่ใช้เวลา 2-3 ปี ในการสอบสวน ถ้าไม่มีชื่ออาตมาทางสื่อมวลชนจะไม่ออกมาชี้แจง ส่วนเรื่องกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง อาตมาไม่ทราบ เรื่องรถหรูก็ไม่มีหรอก เพราะอยู่กับหลวงปู่เณรคำ มาปีกว่าเงินยังไม่พอจ่ายค่าพนักงาน อย่างไรก็ตาม อาตมามาอยู่กับหลวงปู่เณรคำปลายปี 2554 จึงไม่ทราบรายละเอียดก่อนหน้าได้
โฆษกอดีตพระเณรคำ กล่าวอีกว่า ส่วนการเดินทางเครื่องบินเจ็ตกับหลวงปู่ เพราะมีกิจนิมนต์เช้าที่จังหวัดเชียงใหม่ เย็นมีกิจนิมนต์ที่จังหวัดภูเก็ต กิจหลายที่ก็ต้องนั่งเครื่องบินไปที่เจ้าภาพจัดให้ ค่าเครื่องบินยังค้างอยู่ก็มีไปเช็คได้กับบริษัท ส่วนเครื่องบินเจ็ตหรือเฮลิคอปเตอร์เช่ากับริษัท 2-3 แห่ง ไม่ได้ซื้อ พระจะไปซื้อเครื่องบินได้อย่างไรโยม ส่วนเงินบริจาคอาตมามาอยู่ปีกว่าไม่มาก ส่วนเรื่องอวดอุตริมนุษธรรมคือธรรมที่ไม่มีในตัวตนไม่มีในเรา เรื่องที่จะรู้ว่าไม่มีในตัวเรา ไม่มีในตัวท่าน ไปว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก ต้องดูเจตนาว่าที่พูดออกไปเพื่ออะไรด้วย ส่วนบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหวก่อนหน้าที่ไม่ได้เป็นลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ ไม่ได้รับการมอบหมายจากหลวงปู่เณรคำให้ดำเนินการใดๆ
พระธกฤษ กันตธัมโม กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีรูปหนึ่งพูดผ่านสื่อมวลชนว่าหลวงปู่เณรคำใช้เงินกว่าเดือนละ 11 ล้าน และมีเงินฝากกว่า 40 กว่าล้าน ไม่เป็นความจริง เพราะตัวอาตมากับท่าไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ส่วนเงิน 40 ล้าน หลวงปู่เพิ่งมีปัญหากับ รพ.ร้อยเอ็ดว่าท่านไม่ยอมสร้าง โดยหลวงปู่เณรคำไปเทศน์ให้ รพ.แห่งนี้ เช้าวันเดียวได้เงิน 40 ล้านเศษ เพื่อหาเงินมาจัดสร้าง รพ.ซึ่งเงินก็อยู่ในบัญชีธนาคารของ รพ. แต่หลวงปู่เณรคำไม่ได้ออกมาชี้แจง
ส่วนเรื่องเงิน 11 ล้านบาท เป็นเรื่องที่หลวงปู่เณรคำเป็นหนี้ผ่อนรถโตโยต้า คัมรี่ ของบริษัทโตโยต้า สระแก้ว ทางบริษัทมาทวงและมีการยึดรถที่ใช้นำขบวนหลวงปู่ไป แต่ไม่เกี่ยวกับหลวงปู่ใช้เงินเดือนละ 11 ล้าน ตามที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องเงินอาตามไม่ทราบเพราะเพิ่งมาอยู่กับหลวงปู่และมีหน้าที่แสดงธรรมเท่านั้น อาตมาทำงานหน้าเวทีด้านแสดงธรรม
ด้านนายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความของอดีตพระเณรคำ กล่าวว่า เท่าที่คุยหากหลวงปู่เณรคำกลับมาจะตั้งตนเป็นทนายแต่ตอนนี้ให้ตนช่วยเพราะท่านเองก็อยากจะออกมาพิสูจน์ แต่ถูกถอนหนังสือเดินทางจึงกำลังหาวิธีการอยู่ ในทางฝ่ายกฎหมายอาจจะยื่นคำร้องต่อศาลขอไต่สวนกรณีดีเอสไอไปขอออกหมายจับมันชอบหรือไม่ เพราะในคดีข่มขืนกระทำชำเราเหตุการณ์มันผ่านพ้นมา 10 ปีกว่า ทำไมพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงออกมาให้ตอนนี้ ไปกลั่นแกล้งกันหรือไม่ต้องนำมาไต่สวนมันมีเหตุสงสัยอยู่ ส่วนพระหลวงปู่เณรคำจะถูกหรือผิดตนไม่ทราบ แต่จะไต่สวนในฐานะทนายความ สำหรับหลวงปู่อยากจะกลับเหลือเกินแต่ถูกถอนหนังสือเดินทางเสียก่อน เพราะจะให้ถูกจับในความเป็นพระที่ต่างประเทศคงไม่ได้
ทนายความของอดีตพระเณรคำ กล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางต่อสู้คดีก็ต้องให้ดีเอสไอรวบรวมหลักฐานก่อน เพราะระบบกล่าวหาต้องให้ดีเอสไอรวบรวมพยานหลักฐานยื่นให้อัยการ หากอัยการเห็นว่าหลักฐานพอฟ้องจึงจะฟ้องศาล หากไม่พอฟ้องก็จะสั่งไม่ฟ้อง ส่วนข้อหาที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ที่ดีเอสไอไปขอออกหมายจับเราจำเป็นที่ต้องร้องต่อศาลขอความเป็นธรรม เพราะเป็นเหตุการณ์ผ่านมากว่า 10 ปี ส่วนกรณีมีพระรูปหนึ่งเคยพูดว่าหลวงปู่เณรคำมีเงิน 40 ล้านบาทไม่จริง ที่มาคือพระรูปนั้นไปขอหลวงปู่เณรคำให้ทำวัดให้ 200 กว่าล้าน แต่ทางนี้แนะนำว่ามีตัวอย่างที่ รพ.ร้อยเอ็ด หลวงปู่ไปแสดงธรรมได้ครั้งหนึ่ง 40 ล้าน ทำไมไม่เอาอย่างนั้น พระรูปนั้นก็ถามว่าเงิน 40 ล้านบาทอยู่ที่ไหน เราก็บอกว่าอยู่ในบัญชี รพ.