โครงการรับจำนำสารพัดพืชผลการเกษตร กำลังเผชิญปัญหาใหญ่นอกเหนือจากเรื่องราคาที่เหมาะสม การบิดเบือนกลไกตลาด และอาจเป็นข้อโต้แย้งจากประเทศคู่แข่ง คือ การดูแลเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่า
ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด มันสำปะหลัง เป็นพืชที่น่าจะเป็นตัวปัญหามากที่สุด เพราะมีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาการไร้เอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน
ถ้ายึดถือตามประกาศของรัฐบาลก็ดี กรมส่งเสริมการเกษตรก็ดี เกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนด นส.3 ก. สปก.4-01 น่าจะมีไม่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ
เป็นเรื่องที่คาบเกี่ยวระหว่างกฎหมายและความเป็นจริง รวมทั้งการตีความ และก่อให้เกิดการโต้แย้งแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
แต่ไม่มีใครคิดอ่านทำอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราว นอกจากผลักให้เป็นภาระของกรมอุยานฯบ้าง กรมป่าไม้บ้าง รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นต้นสังกัด
อย่างไรก็ตาม น่าดีใจอยู่หน่อยหนึ่งตรงที่คุณวิทยา อธิปอนันต์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร บอกว่า การขึ้นทะเบียนของกรมส่งเสริมการเกษตรเกี่ยวกับเกษตรกรผู้ปลูกยางพารานั้น จะให้ขึ้นทะเบียนทั้งหมด ไม่ว่าจะปลูกในพื้นที่มีเอกสารสิทธิหรือไม่ เพื่อให้เป็นฐานข้อมูลของกรม
เวลานี้ปัญหาใหญ่ของกรมฯคือรัฐมีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรที ก็ต้องขึ้นทะเบียนที เช่นเดียวกับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง 2,520 บาท/ไร่ แต่ไม่เกิน 25 ไร่ รัฐบาลก็สั่งกรมส่งเสริมการเกษตรให้เนรมิตการจดทะเบียนให้ได้ภายในสิ้นเดือนกันยายน 2556
สั่งมา ณ วันที่ 14 กันยายน 2556
บ้า หรือโง่ หรือเมา
ในทางปฏิบัติฟันธงบอกได้ว่า จะเป็นการขึ้นทะเบียนมั่วๆอีกตามเคย
มั่วทั้งคนที่ปลูกยางอยู่แล้ว เพิ่งปลูก และที่ปลูกในพื้นที่ป่า
ฐานข้อมูลการเกษตรไทยนั้น พิกลพิการมาตลอดศกสมัย ทำให้ข้าราชการเลวสมคบกับนักการเมืองชั่วพลิกความพิกลพิการนี้โกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง งานรับจำนำข้าวนั้นเป็นตัวอย่างล่าสุด งานช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางจะเป็นกรณีต่อไป
คุณยิ่งลักษณ์จะได้รับฉายาเป็นอะไรก็ช่างเถิด แต่นี่เป็นหน้าที่ของคุณยิ่งลักษณ์ในฐานะผู้นำที่ต้องเร่งสางแก้ไขปัญหา เพราะเกษตรกรในพื้นที่ไร้เอกสารสิทธิก็เป็นเกษตรกร เช่นเดียวกัน พื้นที่ที่พวกเขาบุกรุกก็จำเป็นต้องมีการควบคุม ดูแล หรือพัฒนาให้ถึงจุดที่คนอยู่ร่วมป่าได้ จะได้ไม่บุกรุกผืนป่าอีก
เป็นเรื่องยากเย็นที่ไม่มีรัฐบาลไหนใส่ใจจะทำ ปล่อยให้เป็นดินพอกหางหมูจนยากแก่การแก้ไข จนกว่าจะถูกกดดันโดยต่างชาติ เช่น กรณีของน้ำมันปาล์ม สหภาพยุโรปออกกติกาว่า ผลผลิตน้ำมันปาล์มต้องมาจากสวนที่มีเอกสารสิทธิ ไม่ใช่แปลงที่เกษตรกรบุกรุกป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ต่อไปจะส่งน้ำมันปาล์มล็อตไหนออกไป ต้องตรวจสอบย้อนกลับให้ได้ว่า เป็นน้ำมันของเกษตรกรรายไหน ปลูกในพื้นที่ใด มีเอกสารสิทธิหรือไม่ เป็นพื้นที่ป่าหรือไม่ และฯลฯ
เรื่องอย่างนี้ อย่าปรามาสฝรั่งมังค่า ทุกวันนี้พืชผลการเกษตร นับแต่ผักสวนครัว ฝรั่งตั้งเกณฑ์ตรวจสอบย้อนกลับหมด เห็นไหมว่า พอเราคิดว่า ฝรั่งตั้งเกณฑ์เล่นๆไปอย่างนั้น ฝรั่งเอาจริงตีกลับสินค้าพืชสวนครัวไทยจนระส่ำระสายกันไปทั้งบาง
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกรมส่งเสริมการเกษตรหรือกระทรวงเกษตรฯ แต่เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องใส่ใจแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังเสียที โดยเฉพาะพื้นที่ทำกินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ต้องกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนและเอาจริงเอาจังมากกว่าแค่ซื้อเวลาไปเท่านั้น
อีกหน่อยฝรั่งไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ยางจากสวนยางที่บุกรุกป่า รัฐบาลเพื่อไทยของคุณยิ่งลักษณ์จะทำยังไง นอกจากกลอกตาทำหน้าสวยบ้องแบ๊ว และสวมวิญญาณแพะร้องแบ๊ะๆพูดผิด พูดถูก
วิชชา ชาญเขตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี