15 ต.ค.56 หลังจากที่สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในยุค นายจาตุรนต์ ฉายแสง นั่งคุมกระทรวงศึกษาธิการ ตัดสินใจไม่นำวิชานาฏศิลป์ไทยลงไปในหลักสูตรเรียน โดยอ้างเหตุผลประมาณว่า "วิชานาฏศิลป์ไทย" ไม่ทำให้เด็กฉลาด โดยจะเน้นด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ดึงไอคิวเด็กไทยให้เทียบเท่ากับเพื่อนบ้าน
ปรากฎว่า กระแสการแสดงความไม่เห็นด้วย ในเรื่องดังกล่าว สะท้อนกลับสู่สังคม อย่างรวดเร็ว ทั้งดารา ชาวบ้าน นักวิชาการ ได้แสดงความต่อต้านความคิดอันพึลึกพิลั่น กับการ "หยามรากเหง้า" ของคนไทย ชนิดที่เรียกว่า เจ็บปวดที่สุด
เพจ "โจงแดง ต่อต้านและคัดค้านการถอดวิชานาฏศิลป์ออกจากการเรียนศิลปะ" เป็นสิ่งที่สะท้อนที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่ง เพราะเพียงแค่ข้ามคืนมีผู้เข้าไปกดถูก กว่า เกือบ 13,000 รายแล้ว
เพจดังกล่าว สร้างขึ้นมา เพื่อเป็นเวทีแสดงความคิดเห็นของผู้ที่ต้องการปกป้องมรดกอันประเมินค่ามิได้ของไทย ภูมิปัญญา ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน แต่กลับถูกผู้ใหญ่บางกลุ่มบางคน ไม่เห็นค่า และพร้อมจะละเลย มรดกพ่อแก่แม่เฒ่า
เพจ "โจงแดงฯ " ได้โพสต์รูป และข้อความ กระแสของคนในสังคมที่ไม่เห็นด้วยกับการ ไม่เอาวิชานาฏศิลป์ไทยลงไปในหลักสูตรเรียน โดย ตุ๊กกี้ ชิงร้อย "สุดารัตน์ บุตรพรม สาวอารมณ์ดี แสดงความคิดเห็นอย่างจริงจัง ในเรื่องนี้ด้วย โดยระบุ ให้คนมีอำนาจ ต้องคิดให้เยอะ "ถ้าไม่มีวิชานาฏศิลป์ในหลักสูตร นั่นคือการนับถอยหลังของเด็กไทยที่จะลืมรากเหง้าของวัฒนธรรมไทย ยิ่งโลกมันก้าวไปข้างหน้าเรายิ่งต้องช่วยกัน สืบสาน สั่งสม บ่มเพาะ อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้อยู่คู่ประเทศไทย ให้ยาวนานที่สุด (คิดเยอะๆ นะคะ คนที่มีอำนาจในตรงนี้)"
ด้าน ดาราสาวมากฝีมือ ญาญ่าญิ๋ง "รฐา โพธิ์งาม" ระบุว่า คนที่รักดนตรี มากกว่าตัวเลข ไม่ได้แปลว่า คนๆ นั้น ผิด เพราะการศึกษา มันอยู่ที่ความชอบ พร้อมจวกพวกที่ลืมกำพืด ว่า เป็นคนไม่เต็มคน
หรือจะเป็นเสียงของเด็กๆ ไทยในสิงคโปร์ ที่เขียนถึง ความเป็นไทย ระบุว่า ถึงแม้ว่า ตนเองและเพื่อนๆ เป็นลูกครึ่ง แต่รักการรำไทย แล้วคนไทยแท้ๆ สนใจและหวงแหนศิลปะอันล้ำค่าอันนี้มากน้อยเพียงใด
ในขณะที่คนนาฏศิลป์ที่ใช้ชื่อว่า iam_goii ได้แสดงความคิดเห็นเพื่อให้ผู้ใหญ่สิ้นคิด ได้คิด..."นาฏศิลป์" คืออาภรณ์ของแผ่นดิน เป็นการสื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่และจิตใจของคนคนที่มีวัฒนธรรม เราน่าจะภาคภูมิใจในวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ เพราะเรามีอารยธรรมเป็นของตัวเอง แต่ประเทศอื่นที่ไม่มีเขาพยามจะสร้างขึ้นแต่เราคนไทยกลับไปทิ้ง นาฏศิลป์เป็นมรดกของชาติ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ ถ้าไม่รักษาไว้ด้วยวิธีง่ายที่สุดแล้ว จะรักษาไว้แบบไหน?? กรุณาอย่ามองพวกเราว่าเป็นพวกเต้นกินรำกิน อย่ามองพวกเราว่าเต้นรำแลกเงิน เพราะมองแบบนี้ ทุกคนจึงเห็นว่าวิชานาฏศิลป์มีเป้าหมายแค่นั้น อยากให้มองว่าพวกเราเป็นผู้อนุรักษ์และธำรงรักษาวัฒนธรรมอันดีงามที่น่าภาคภูมิใจของชาติ แต่แค่พวกเราที่ช่วยกันรักษาคงไม่พอหรอก... คุณไม่อยากให้เยาวชนของประเทศชาติเรา เป็นผู้รักษาศิลปวัฒนธรรมอันเป็นมรดกชาติ ที่เรียกว่า "นาฏศิลป์" หรอ ? #ในฐานะคนนาฏศิลป์ #บอกเลยว่า #ไม่สนับสนุนการยกเลิกวิชาเรียนนาฏศิลป์
รวมถึง โพสต์ภาพ และข้อความ สะกิดผู้ใหญ่ไร้สำนึก
แม้ว่าในวันนี้ เพจ "โจงแดง ต่อต้านและคัดค้านการถอดวิชานาฏศิลป์ออกจากการเรียนศิลปะ" จะเป็นเสียงเล็กๆ ที่ไม่มีแรงกระเพื่อมให้ผู้ใหญ่ได้ยิน แต่ต้องจับตาดูต่อไปว่า เพจเล็กๆ เพจนี้ จะดังเหมือนหรือดังกว่า "ศศิน" ผู้ต่อสู่การสร้างเขื่อนแม่วงก์ได้หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี