วันศุกร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556, 06.00 น.
เปิดจดหมายลับ‘เอ็กซ์
ซัด‘พ.ต.ท.’
ปองร้ายหวังฮุบสมบัติ
‘นายตำรวจ’คู่กรณีเต้นชี้แจง
ยันเคลียร์แล้ว-เรื่องเข้าใจผิด
‘เซียนนครปฐม’พบบิ๊กแจ๊ด
โต้ปม‘พระเครื่อง’ชนวนดับ
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายยิง นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เสียชีวิตว่า รายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีแจ้งว่า พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของ
นายจักรกฤษณ์ ให้การว่าตู้เซฟที่สามีเก็บทรัพย์สินไว้ยังอยู่ที่บ้าน ไม่ได้มีการเปิด เพราะไม่มีกุญแจเปิดตู้เซฟ เจ้าหน้าที่จึงเร่งประสานไปทางญาติผู้เสียชีวิต ให้ผู้เชี่ยวชาญทำการเปิดตู้เซฟให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากเชื่อว่า นายจักรกฤษณ์ น่าจะทิ้งหลักฐานที่ทำให้เชื่อมโยงถึงตัวผู้บงการในการก่อเหตุ เพราะ นายจักรกฤษณ์ เป็นคนฉลาด เมื่อรู้ตัวว่าถูกปองร้ายก็อาจทิ้งข้อมูลไว้ในที่ปลอดภัย
น.พุ่งเป้าปมครอบครัว-แบงก์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนนครบาลได้พุ่งไปเป้าไปที่ปัญหาครอบครัว และการฟ้องร้องธนาคารกสิกรไทย สาขารามคำแหง 151 เนื่องจาก นายจักรกฤษณ์เคยพยายามที่จะแถลงข่าวเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลัง และเป็นคนให้ พญ.ณิธิวดี มาเปิดเอาทรัพย์สินในตู้เซฟมูลค่าหลักร้อยล้านบาทออกไป โดยติดต่อนักข่าวหญิงโทรทัศน์ช่องหนึ่งเพื่อจะแถลงข่าวเรื่องนี้ในวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา และเปิดเผยว่า มี เสธ.คนหนึ่งโทรศัพท์มาหาให้ยุติการแถลงข่าว และยกเลิกการฟ้องร้องธนาคารกสิกรไทย เมื่อนักข่าวคนดังกล่าวโทร.กลับไปหานายจักรกฤษณ์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เพื่อนัดสัมภาษณ์ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนในที่สุดมาถูกยิงเสียชีวิต ก่อนวันส่งมอบบัญชีทรัพย์สินที่หายไปจากตู้เซฟให้กับพนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพียง 2 วัน
ส่งจม.ถึงสรยุทธ์แฉโดนใส่ร้าย
ขณะเดียวกัน มีการเผยแพร่จดหมายที่นายจักรกฤษณ์ได้เขียนถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2556 ระหว่างที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำ มทบ.11 นครปฐม โดยในจดหมายระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีเพื่อนผู้ไม่ประสงค์ดีรายหนึ่ง เป็นนายตำรวจ ยศ พ.ต.ท. เข้ามาตีสนิทกับมารดาและภรรยาของตน และได้พูดจาสร้างเรื่องให้ตนเสื่อมเสีย เช่น การใช้ยาเสพติดจนเกิดภาวะจิตหลอน ทำให้คนในครอบครัวหวาดระแวง ทั้งที่ความจริงผลตรวจปัสสาวะของตนไม่พบยาเสพติด นอกจากนี้ยังพยายามจะนำตนเข้ารับการบำบัดอาการทางจิตที่ รพ.มโนรมณ์ เพื่อให้เป็นบุคคลที่ไร้ซึ่งสภาพที่จะดำรงอยู่ในสังคมอย่างปกติ โดยหวังที่จะครอบครองทรัพย์สินทั้งหมดที่ตนเก็บไว้ในเซฟธนาคาร และธุรกิจที่ตนร่วมกันก่อตั้งมากับภรรยา ตนจึงตัดสินใจเขียนจดหมายถึงนายสรยุทธ์เพื่อช่วยทำให้เกิดความกระจ่างในสังคม
“พ.ต.ท.”โผล่แจงบริสุทธิ์
ทางด้าน พ.ต.ท.รัฐวิทย์ หรือไกรวิศท์ แสนทวีสุข สว.บก.ปทส.ช่วยราชการสำนักงาน ผบก.ปคม. ซึ่งเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท. ที่นายจักรกฤษณ์ พาดพิงในจดหมาย ได้ชี้แจงว่า รู้จักกับนายจักรกฤษณ์มา 6 ปีแล้ว เนื่องจากภรรยาของทั้งคู่รู้จักกันมาก่อน จากนั้นก็คบหาจนสนิทกันมากจนเหมือนพี่น้อง มีปัญหาอะไรก็ปรึกษากันตลอด แต่ต่อมาพบว่านายจักรกฤษณ์อารมณ์เปลี่ยนเร็วมาก หงุดหงิดง่าย ตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไรมากมาย ได้แต่เฝ้าดูอย่างเดียว ต่อมาเมื่อได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว เขาก็รู้ว่าเข้าใจตนผิดไป จึงจะมาขอโทษ แต่ตนก็บอกไปว่าไม่ต้อง เพราะไม่ได้โกรธเคืองอะไร ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชา ตลอดจนชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้เรียกไปสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งผู้บังคับบัญชา ก็เข้าใจดีว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
น.เรียกเซียนพระสอบทั้งวัน
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. เชิญเซียนพระในวงการพระเครื่องจากศูนย์พระเครื่อง เช่น ที่ท่าพระจันทร์ ห้างพันธุ์ทิพย์ และที่ จ.นครปฐม จำนวนเกือบ 10 คน ที่เคยมีการเช่า-ขายพระเครื่องกับนายจักรกฤษณ์ รวมทั้ง นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ “อ๊อด นครปฐม” เซียนพระเครื่องที่นายจักรกฤษณ์มีความสนิทสนมมากที่สุดมาสอบถามหารายละเอียดกันตลอดทั้งวัน
“แจ๊ด”จ่อตัดประเด็นพระเครื่อง
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า จะพยายามหาข่าวให้ได้ว่า นายจักรกฤษณ์มีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ หลังจากที่ประกันตัวแล้วไปอยู่ที่ จ.นครปฐม เกือบเดือน นายจักรกฤษณ์คลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่อง จึงเชิญมาสอบถามเพื่อหาจุดว่า มีเรื่องขัดแย้งกันเกี่ยวกับส่วนแบ่ง ราคาพระ และพระปลอมหรือไม่ ซึ่งจากการสอบถามก็ไม่มีประเด็นดังกล่าว และยังไม่พบว่าจะมีการนำพาไปสู่การสังหาร จึงมีแนวโน้มน่าจะตัดประเด็นเรื่องพระเครื่องทิ้งไป
เปิดเซฟแล้ว-เตรียมสอบญาติอีกครั้ง
“วันนี้มีการเปิดตู้เซฟที่ธนาคารโดยทาง พญ.นิธิวดี ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งในตู้เซฟก็มีแต่พระเครื่องเท่านั้นโดยมีการสอบถามเกี่ยวกับพระเครื่องว่า องค์ไหนได้มาอย่างไรทราบว่าก็มีการเช่ามาไม่น่าจะมีการขัดแย้งในเรื่องนี้ โดยจะมีการสรุปประเด็นนี้กับชุดสืบสวนอีกครั้ง ส่วนเรื่องความขัดแย้งในครอบครัว ก็กำลังสืบสวนอยู่ คงต้องรอให้ฌาปนกิจศพก่อนแล้วจะเชิญญาติพี่น้องทั้งหมดในครอบครัว รวมทั้งคนใช้มาสอบปากคำให้ชัดเจนอีกครั้ง” พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการโยงถึงนายตำรวจยศ พ.ต.ท.คนหนึ่ง ที่ตั้งข้อสงสัยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องเนื่องจากเคยช่วยเหลือพา พญ.นิธิวดี ภรรยา และ นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดา แจ้งความดำเนินคดีนายจักรกฤษณ์ ที่ สน.มีนบุรี นั้น มีการเรียกมาพบแล้ว ทาง พญ.นิธิวดีและญาติพี่น้องก็ไม่ได้ติดใจอะไร ทั้งนี้ ในวันที่ 25 ตุลาคม เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมชุดสืบสวนเพื่อรายงานความคืบหน้าอีกครั้ง
“อ๊อด นครปฐม”ยันไม่ใช่ปมพระ
ด้าน นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ “อ๊อด นครปฐม” เซียนพระชื่อดัง ที่นายจักรกฤษณ์ เดินทางไปพักอยู่ด้วยก่อนที่จะถูกสังหาร ยืนยันว่าในวงการพระเครื่องไม่มีความรุนแรงถึงขนาดต้องสังหารกัน ปมความขัดแย้งเรื่องพระเครื่องไม่ใช่สาเหตุการสังหารแน่นอน เนื่องจากมีการพิสูจน์ทราบเรียบร้อยแล้ว โดยพระเครื่องที่นายจักรกฤษณ์นำไปขายนั้น ได้รับการยืนยันจากเซียนพระหลายคนแล้วว่าไม่ใช่พระปลอม อีกทั้งบุคคลที่ซื้อพระจากนายจักรกฤษณ์ก็มาแสดงตัวและให้ข้อมูลแล้ว
พระราชทานเพลิงศพ”เอ็กซ์”
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น.ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายจักรกฤษณ์ โดยมี นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์ เป็นประธานในงาน รวมถึงผู้ใหญ่คนในแวดวงกีฬา อาทิ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย, นายศักดา รัตนสุบรรณ บรรณาธิการนิตยสาร “คิวทอง”, นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ รักษาการนายกสมาคมยิงปืนฯ รวมทั้งครอบครัว และเพื่อนสนิท ร่วมไว้อาลัย ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
เผยอยากให้ลูกเป็นหมอ-ตำรวจ
ทางด้าน พญ.ณิธวดี เปิดเผยว่าสิ่งที่สามีเป็นห่วงมากที่สุดคือลูกสาวและลูกชายทั้งสอง โดยมีความฝันอยากให้ลูกสาวคนโตเป็นแพทย์เหมือนกับแม่ ส่วนลูกคนเล็กอยากให้เป็นตำรวจ หรือไม่ก็ทหารเหมือนพ่อ เพื่อที่จะได้ดูแลปกป้องครอบครัว