ครั้งแรกกับการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทย ในการจัดงานชุมนุมยุวเกษตรกรโลก ครั้งที่ 10 ประจำปี 2556 ภายใต้หัวข้อ “พัฒนาสู่สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน” หรือ “Toward Green and Happy Society” โดยมียุวเกษตรกร จาก 24 ประเทศ กว่า 300 คน และยุวเกษตรกรจากทั่วประเทศไทย กว่า 1,000 คน เมื่อวันที่ 11-18 พฤศจิกายน 2556 ณ โรมแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน จ.ชลบุรี ผลตอบรับเป็นที่น่าประทับใจ
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ผลสำเร็จของการจัดงาน ที่เกิดขึ้นดังกล่าว เกิดจากการที่ประเทศไทยได้จัดกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วม ตั้งแต่การให้ความรู้ การจัดนิทรรศการ เนื่องจากทุกประเทศ ได้คัดเอาผลงานและความสำเร็จของประเทศต่างๆ ออกมาแสดง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก และมียุวเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ร่วมเป็นตัวแทนในการชุมนุมครั้งนี้ จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ กว่า 1,000 คน เข้ามาร่วมกิจกรรมและศึกษาข้อมูลดูงานต่างๆ เพื่อที่จะสามารถนำกลับไปพัฒนาในพื้นที่เกษตรของตนเองได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะองค์ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญา ก็จะสามารถนำกลับไปปฏิบัติจริงได้ทันที อีกส่วนคือ การนำแนวคิด ในการทำงานแบบมีส่วนร่วม ซึ่งเยาวชนในต่างประเทศจะมีลักษณะการทำงาน เป็นการกล้าแสดงความคิดเห็น เพราะเกิดจากความสนใจ ในการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นมุมมองที่เด็กและเยาวชนในไทยควรนำกลับไปพิจารณา มุมมองอีกส่วนหนึ่ง
จากการจัดงานในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ เกิดการสร้างฐานข้อมูลเครือข่ายขึ้น และในปี 2558 ประเทศเยอรมนี จะเป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งต่อไป ภายใต้งาน Europien IFYE เป็นครั้งที่ 56 ของระดับภูมิภาคยุโรป และได้เชิญประเทศไทย ในฐานะประเทศที่มีความสำคัญ ในการพัฒนาเยาวชนทางด้านการเกษตรเข้าร่วมงานสำคัญดังกล่าว อีกมิติหนึ่งที่เป็นผลจากการประชุมคือ ในการเป็นเจ้าภาพการชุมนุมยุวเกษตรกรโลก ครั้งที่ 11 ก็ได้มีมติเลือกประเทศแถบแอฟริกา โดยประเทศที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่ ประเทศอูกันดา ทั้งนี้ได้มีการกำหนดประเด็นว่า จะต้องมีการกำหนดการพัฒนาร่วมกันอย่างไร รวมทั้งการส่งผู้แทนเยาวชนไปศึกษาดูงาน ในระหว่างภาคีประเทศต่างๆ ในส่วนของประเทศไทย เช่นเดียวกัน เราพร้อมที่จะรับเยาวชนต่างชาติเข้ามาศึกษาดูงาน ฝึกทักษะ ทางด้านการเกษตรที่ประเทศไทยมีความพร้อม
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตร จะทำการพัฒนาศูนย์เยาวชนเกษตร ซึ่งมีอยู่แล้วแห่งเดียวในประเทศ คือ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ให้เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเยาวชนทางการเกษตรให้เป็นระดับสากล โดยเบื้องต้นจะเชิญภาคีต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน ในการพัฒนาเยาวชนทางการเกษตร มาร่วมมือกัน และใช้สถานที่ศูนย์เยาวชนท่าม่วง เป็นฐานในการปฏิบัติงาน ซึ่งมีความพร้อม มีสถานที่พัก มีแปลงเรียนรู้การเกษตรต่างๆ และมีวิทยากรประจำศูนย์ นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ยุวเกษตรกรแห่งประเทศไทย ที่โรงเรียนพรหมานุเคราะห์ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จัดเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน เยาวชน และเป็นเครือข่าย โดยรอบโรงเรียน สามารถพัฒนาและขยายผลต่อหลังจากการชุมนุมยุวเกษตรกรโลกที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ขณะนี้ภาครัฐและเอกชน ให้ความสำคัญกับเยาวชนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการส่งเสริมอาชีพทางการเกษตร เพราะเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง มีเกียรติ ภาครัฐเอง ได้สนับสนุนแหล่งความรู้นั้นมีมากมาย โดยกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานเชื่อมโยง และขอให้ติดต่อ ผ่านทางกรมส่งเสริมการเกษตร ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด หรือสำนักงานเกษตรอำเภอ หรือเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรทุกคน พร้อมที่จะให้คำปรึกษากับทุกท่านด้วยความเต็มใจ”
ความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในงานชุมนุมยุวเกษตรกรโลก ครั้งที่ 10 ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับยุวเกษตรกรโลก ซึ่งจะได้รับประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้ในเรื่องภาคการเกษตร และการพัฒนายุวเกษตรกร ตระหนักถึงโอกาสและศักยภาพของการพัฒนายุวเกษตรกรไทยทางการเกษตร โดยอาศัยความได้เปรียบจากการสร้างเครือข่าย จนสามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี