วูบแรกต้องยอมรับว่า ทันทีที่เห็นผลการเลือกตั้ง สว. เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ต้องแทบเอามือก่ายหน้าผากด้วยความสิ้นหวัง เพราะบรรดา “ว่าที่ สว.ป้ายแดง” แต่ละราย ต่างถือว่า ไม่ธรรมดากันสักคน โดยเฉพาะเมื่อเดินอ้อมไปมองที่ข้างหลัง ก็จะเห็นสายสัมพันธ์ของหลายต่อหลายคนที่ทอดยาวไปถึงกลุ่มการเมืองและสีเสื้อต่างๆ กันยุบยับไปหมด
เห็นแบบนี้แล้วก็ได้แต่ร้องอนุโมทนาสาธุ!
นี่ขนาดใช้กติกาเดิม กฎหมายเดิม ยังออกมาได้ขนาดนี้ แล้วถ้าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ สว. ไม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสอยร่วงไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว มันจะสาหัสขนาดไหน
คงได้งามหน้า เห็น “สภาผัวเมีย” เครือญาติ สส. นักการเมือง เดินไหล่ชนกันให้ขวักเต็มรัฐสภา
อีกประเด็นที่ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่งจากการเลือกตั้ง สว. รอบนี้ คือ ผู้สมัครที่มาจากภาคประชาชนหรือ “เอ็นจีโอ” ฝ่าด่านการเลือกตั้งมาได้แค่คนเดียว คือ คุณบุญยืน ศิริธรรม ที่คน “แม่กลอง” สมุทรสงคราม เทคะแนนให้ถึง 22,933 คะแนน ขณะที่รายอื่นๆ เช่น “ครูแดง” เตือนใจ ดีเทศน์ ซึ่งลงสมัคร สว.เชียงราย หรือ คุณศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ลงสมัครใน กทม. ต่างก็ต้องพลาดให้กับคู่แข่งกันทั้งหมด
สาเหตุก็น่าจะเป็นไปได้ว่า เพราะสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนี้ถือว่าค่อนข้างร้อนแรง จึงทำให้ฝ่ายการเมืองไม่ว่าฝ่ายไหนสีใด ต้องพยายามทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มที่ เพื่อคนของตัวเอง หรืออย่างน้อยเป็นคนที่ตัวเองจะสามารถพูดคุยต่อสายได้ ให้เข้ามาทำหน้าที่ในสภาสูง จึงทำให้ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างที่เราเห็น
แต่ก็เอาเถอะ ถึงจะได้มาแค่คนเดียว ผมก็เชื่อว่า เป็นคนเดียวที่คุณภาพคับแก้ว
เพราะเป็นงที่ทราบกันอยู่ว่า คุณบุญยืน เธอเป็นคนทำงานภาคประชาชนชนิดที่ว่า “ตัวจริง เสียงจริง” คนหนึ่ง เนื่องจากการทำงานต่อสู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชุมชนให้กับชาวบ้านแม่กลองมาถึง 20 ปี เช่น การคัดค้านการสร้างเขื่อนกั้นน้ำเค็ม การคัดค้านการเดินเรือบรรทุกน้ำมันในแม่น้ำแม่กลอง การคัดค้าโรงไฟฟ้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สร้างผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อมชุมชน ก่อนจะกระโดดออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นที่กว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการผลักดันให้เกิดองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค
ประเด็นที่น่าสนใจ อีกประการหนึ่งจากผลการเลือกตั้งที่ จ.สมุทรสงคราม ในครั้งนี้ นั่นคือ การพูดถึง “แม่กลองโมเดล” เนื่องจากนี่ไม่ได้เป็นเพียงครั้งแรกที่คนแม่กลองเลือกบุคคลที่เรียกได้ว่า เป็นตัวแทนของ “ประชาชน” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ แต่หากย้อนหลังกลับไปในตอนเลือกตั้ง สว. เมื่อปี 2543 และ 2551 คนแม่กลองก็เคยเลือก “ครูยุ่น” มนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก และ นายสุรจิต ชิรเวทย์ ประธานหอการค้า จ.สมุทรสงคราม ซึ่งมีบทบาทสูงในด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมชุมชนมาแล้ว
กรณีที่เกิดขึ้น 3 ครั้ง 3 หน ติดต่อกันเช่นนี้ จึงถือว่าไม่ธรรมดา และน่าสนใจเข้าไปศึกษาอย่างยิ่ง หากวันนี้เราจะคิดถึงคำว่า “ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปประเทศไทย”
“แม่กลองโมเดล” นี่แหละครับ น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่น่าศึกษา
มะลิลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี