กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เร่งสร้าง “เครือข่ายเกษตรสีเขียว” โดยคัด 6 จังหวัดนำร่อง และมุ่งเน้นการผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น จากผู้ผลิต ผู้ประกอบการแปรรูป ตลาด จนถึงผู้บริโภค เพื่อรองรับภาวะการแข่งขันขยายตัวหลังเปิดเสรีทางการค้า
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาผลิตสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการขยายตัวหลังเปิดเสรีทางการค้าในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม ในยุคปัจจุบันก็มีการแข่งขันในตลาดสินค้าการเกษตรกันมากขึ้น ดังนั้นการพัฒนาสินค้าเกษตร จึงต้องสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสินค้า และจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตร ที่ต้องตระหนักถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้ขานรับนโยบาย “เครือข่ายเกษตรสีเขียว” นับเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีนโยบายขับเคลื่อนการเกษตรในรูป Green Economy และ Zero waste agriculture ที่ตระหนักถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 เพื่อการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทยให้ยั่งยืนและนำไปสู่การพัฒนาประเทศให้มีความยั่งยืนต่อไป
โดยในปี 2557 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เริ่มกระบวนการกิจกรรมเครือข่ายเกษตรสีเขียว
ในการเชื่อมโยงการผลิตสินค้าทางการเกษตรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการแปรรูป ตลาด จนถึงผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายดำเนินการ 6 จังหวัดที่มีความโดดเด่นในการผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ เชียงใหม่ หนองคาย ศรีสะเกษ จันทบุรี พัทลุง และราชบุรี เกิดเป็นเครือข่ายการผลิตทางการเกษตรที่มีรูปแบบและการจัดการผลผลิตภาคการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทางด้าน นายสำราญ สาราบรรณ์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดำเนินการดังกล่าวนับเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความรู้ความเข้าใจในกระบวนการพัฒนาเครือข่ายและเครื่องมือให้กับเจ้าหน้าที่ในการทำงานในพื้นที่ตนเองและยังเป็นการสนับสนุนในเรื่องการทำงานแบบมีส่วนร่วมโดยยึดเกษตรกรเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเกษตรกรไปสู่การทำเกษตรสีเขียว จากการที่เกษตรกร มีส่วนร่วมในการวางแผนจะทำให้เกิดเป็นวงจรการสร้างความรู้ใหม่ที่ไม่สิ้นสุด ขณะเดียวกันเกษตรกรสามารถหาความรู้มาแก้ปัญหาในอาชีพและนำสู่การพึ่งพาตนเองได้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการนี้จะช่วยให้เกษตรกรเกิดความตระหนักในการทำการเกษตรที่ปลอดภัย ทั้งต่อตนเอง ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม จะเห็นภาพรวมในการดำเนินงานไปสู่เมืองเกษตรสีเขียวและกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง ก็จะสามารถช่วยให้สินค้าที่ผลิตได้มีคุณภาพและช่วยให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย
โอฬาร พิทักษ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี