เมื่อเวลา 14.30น.วันที่ 17เมษายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีบุคคลที่ปรากฎตามภาพถ่ายซึ่งเผยแพร่อยู่ในสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กและปรากฎเป็นข่าวในสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ตามความผิดฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนา โดยนำเอกสารและภาพถ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องรวม 42 ภาพ มามอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
นายสงกานต์ กล่าวว่า ตามที่ได้รับเบาะแสจากสมาชิกเครือข่ายฯและมีการตรวจสอบภาพถ่ายที่ส่งมาถึงตนตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557 นานกว่า 3 เดือนพบภาพถ่ายพระภิกษุสงฆ์มีพฤติกรรมแต่งกายเป็นหญิง มีการสวมใส่วิกผมยาว โดยนำภาพดังกล่าวเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กในชื่อว่า“นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก็ร๊ากนู๋” แสดงภาพและข้อความต่างๆ แลกเปลี่ยนกันในหมู่สมาชิกในกลุ่มที่มีกว่า 350คน อย่างไม่เหมาะสมกับเพศบรรพชิต สร้างความเสื่อมเสียแก่วงการพระพุทธศาสนา ขณะนี้ตนยังพบข้อมูลว่า พระรูปนี้สังกัดวัดดังแห่งหนึ่ง โดยมีพฤติการณ์คือ กลางวันห่มจีวรเป็นพระ แต่เวลากลางคืนจะแต่งกายเป็นหญิงสาวออกไปเที่ยวกลางคืน มีการตั้งฉายาว่า“นาตาลีร้อยหน้า”
นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการสนทนากันถึงพฤติกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชาย หรือที่ภาษาอีสานเรียกว่า“ซีคาด”ว่าได้มากี่คน พูดคุยกันเรื่องซื้อหวยใต้ดิน ดื่มสุราเบียร์ช่วงที่ออกเที่ยวกลางคืน ตบตีกับพระหรือเณร เดินสายประกวดเทพีตามเวทีประกวดต่างๆ มาอวดกัน รวมถึงใช้ถ้อยคำและนำภาพไม่เหมาะสมมาโพสต์ประกอบ จึงต้องการให้ดำเนินการใน 4คดี ประกอบด้วย 1.กรณีของผู้ใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก ว่า “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก็ร๊ากนู๋” เจ้าของฉายา“นาตาลีร้อยหน้า” 2.กรณีภาพถ่ายชายอายุระหว่าง 17-20ปี สวมอังสะ ใช้ปากอมอวัยวะเพศ โดยพบเบาะแสว่า มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ มีชื่อว่า“พระเบนซ์” 3.กรณีภาพถ่ายชายอายุระหว่าง 18-25ปี สวมอังสะและภาพการประกวดเทพีตามงานต่างๆ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สุรินทร์ และ 4.กรณี นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ “อั้ม เนโกะ” นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถ่ายภาพในขณะใช้มือโหนพระศอ(คอ) พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ด้วยกิริยาไม่เหมาะสม เนื่องจากพระพุทธรูปเสมือนหนึ่งตัวแทนพระพุทธเจ้าที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา เหตุเกิดใน กทม.
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบโดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.1 กก.3และกก.4บก.ป.ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามที่แจ้งความไว้หรือไม่ รวมทั้งสอบปากคำผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป โดยยืนยันว่า บก.ป.จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนั้น พระธรรมสุธี อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์และนายกสมาคมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ซึ่งมีการระบุข้อมูลของพระฉาวว่า สังกัดวัดตัวย่อ“ม” กล่าวยืนยันว่า ภาพพระที่ปรากฎเป็นข่าวน่าจะเป็นพระที่มาใช้สถานที่วัดแห่งนี้เป็นสนามสอบพระปริยัติธรรมเท่านั้น เรื่องนี้ได้ตรวจสอบรายชื่อพระทั้งหมดกว่า 200รูป แล้ว ซึ่งพระรูปดังกล่าวไม่ได้สังกัดวัดมหาธาตุฯอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี