ถ้าจะวิพากษ์การทำงานของ สสส.คนโบราณเขาจะให้คำจำกัดความว่า “ตามจิกไม่เลิก” แต่ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่วันนี้ เขาจะบอกว่า “กัดไม่ปล่อย” คงจะเป็นเพราะในสมัยโบราณ ประเทศไทยคงเต็มไปด้วยนกนานาชนิด คนไทยทุกคนจึงมักจะเป็นบรรดานกแต่ละชนิดมันไล่ตีไล่จิกกันแบบไม่พ้นรังก็ไม่ยอมจะเลิกลา แต่มาถึงวันนี้ มีแต่หมาเต็มไปหมดเลยเห็นแต่การกัดไม่ปล่อยกันทุกย่อมหญ้า
เมื่อไม่นานมานี้ บรรดานักข่าวเกือบจะทุกฉบับ ต่างก็ได้ยิน ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยให้ทราบถึง ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ว่า พฤติกรรมการ
สูบบุหรี่และดื่มสุราของประชากรครั้งที่ 18 พ.ศ.2560 พบว่า คนไทยมีอัตราการสูบบุหรี่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่ใช่การลดลงแค่เพียงปีเดียว แต่เป็นการลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถิติจากการสูบบุหรี่จากร้อยละ 20.7 ในปี 2557 เหลือร้อยละ 19.9 ในปี 2558 และลดลงมาเหลือร้อยละ 19.1 ในปี 2560 โดยผู้ชายลดลงมากกว่าผู้หญิง คือ ผู้ชายลดลงจากร้อยละ 40.5 ในปี 2557 เหลือร้อยละ 39.3 ในปี 2558 และเหลือร้อยละ 37.7 ในปี 2560 สำหรับผู้หญิงลดลงจากร้อยละ 2.2 ในปี 2557 เหลือ ร้อยละ 1.8 ในปี 2558 และเหลือร้อยละ 1.7 ในปี 2560
นอกจากนี้ ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ยังได้ลงลึกยิ่งขึ้น ด้วยการบอกกับเหล่านักข่าวว่า วันนี้ ประชากรของไทย มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ทั้งสิ้น 55.9 ล้านคน อัตราการสูบบุหรี่อยู่ที่ร้อยละ 19.1 คิดเป็นผู้สูบบุหรี่จำนวน 10.7 ล้านคน แยกเป็นผู้ที่สูบเป็นประจำ 9.4 ล้านคน หรือร้อยละ 16.8 และเป็นผู้ที่สูบนานๆ ครั้ง 1.3 ล้านคน หรือร้อยละ 2.2 กลุ่มอายุ 25-44 ปี มีอัตราการสูบบุหรี่สูงสุด หรือร้อยละ 21.9 กลุ่มอายุ 45-59 ปี ร้อยละ 19.1 และ 20-24 ปี ร้อยละ 20.7 สำหรับกลุ่มผู้สูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 14.4 กลุ่มเยาวชน อายุ 15-19 ปี มีอัตราการสูบบุหรี่ต่ำสุด ร้อยละ 9.7
พร้อมยืนยันว่า ผู้ชายสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิง 22 เท่า อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรที่อาศัยอยู่นอกเขตเทศบาล
สูงกว่าในเขตเทศบาล อัตราการสูบบุหรี่สูงสุดในภาคใต้ ร้อยละ 24.5 รองลงมา ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 21.1ภาคกลางและภาคเหนือ มีอัตราการสูบใกล้เคียงกัน ร้อยละ 17.6 และร้อยละ 17.1 ตามลำดับ ส่วนกรุงเทพมหานคร มีอัตราการสูบบุหรี่ต่ำสุด ร้อยละ 15.4
กระจ่างชัดไร้การขัดแย้ง แบบนี้แหละที่ “ปานมณี” บอกว่า เป็นการติดตามแบบตามจิกไม่ปล่อยของ สสส. เขาล่ะ!
เมื่อพูดถึง ดร.ท่านนี้ “ปานมณี”ขอสารภาพตรงๆ ว่า รู้สึกรักท่านนะ รักมานานแล้วด้วย ซึ่งหากจะมองจากภาพ บอกได้ว่า ท่าน “ดาร์ค ทอล แอนด์แฮนซั่ม” แต่อย่าคิดมากนะ “ปานมณี” รักในการทำงานของท่าน มิได้มีอะไรนอกเหนือไปจากนี้อีกรักเพราะท่านที่เอาจริงเอาจัง อะไรที่ทำมาแล้ว ยังหาข้อยุติไม่ได้หรือยังไม่ครบสมบูรณ์ท่านจะไม่ยอมเลิกรา ท่านยังตามจิก ตามส่งเสียงร้องบอกให้ชาวบ้านชาวช่องได้รับรู้ไปพร้อมๆ กับท่านด้วย
และเรื่อง บุหรี่นี้คือ หลักฐานการยืนยันถึงการทำงานของท่าน ซึ่งฟังได้จากข้อมูลที่ท่านบอกให้นักข่าวทราบในวันนั้นถึง ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อัตราการสูบบุหรี่ลดลงส่วนหนึ่งมาจากการขับเคลื่อนโครงการ3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2559 นั่นเองที่เป็นการดำเนินการระยะเร่งด่วนในการทำให้จำนวนผู้สูบบุหรี่ลดลง ซึ่งภายในปี 2568 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า จะต้องลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ลงให้เหลือประมาณ 9 ล้านคน หรือต้องลดลงให้ได้อีก 1 ล้านคนภายใน 7 ปี เฉลี่ยแล้วต้องลดคนสูบบุหรี่ให้ได้ 2.5 แสนคนทุกปี ซึ่งจะต้องทำให้ได้
การที่ประเทศไทยจะก้าวไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าว จะต้องมีการขับเคลื่อนอีกมาก โดยหลักการคือจะต้องลดอุปสงค์ (Demand) คือความต้องการสินค้าหรือความต้องการบุหรี่ต้องลดด้วยการทำให้คนเลิกสูบบุหรี่หรือลดการเข้ามาเป็น
นักสูบหน้าใหม่ ส่วนของอุปทานหรือปริมาณการเสนอขายสินค้าหรือบุหรี่นั้น ตรงนี้ต้องอาศัยการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นตัวควบคุมสิ่งแวดล้อมไม่ให้มีการเสนอขายมากจนเกินไป เช่น การไม่แบ่งมวนขาย การไม่ขายให้เด็ก การควบคุมโฆษณา ดังนั้น หากมีการบังคับใช้ พ.ร.บ. ผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ให้เข้มแข็ง ทุกหน่วยงานร่วมมือกันตรงนี้ก็จะช่วยลดอุปทานลงได้
ตอนนี้ สสส.กำลังเร่งรณรงค์และส่งเสริมการดำเนินการลดอุปสงค์และอุปทาน เพื่อให้อัตราการสูบบุหรี่ของประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยรวมแล้วอาจแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ด้วยการขับเคลื่อนโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย ซึ่งปีนี้เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว โดยการชักชวนให้ประชาชนหักดิบเลิกบุหรี่ ซึ่งเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเลิกบุหรี่ในระยะเร่งด่วนนี้และเพื่อมิให้เกิดการผิดพลาด ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการชักชวนให้เลิกบุหรี่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาว่าเป็นเช่นไร เพื่อให้ได้ข้อมูลที่กระจ่างชัดแล้วข้อมูลเหล่านั้นจะเป็น “คือมูลแท้” หรือ “ข้อมูลจริง”ที่จะนำมาใช้ เพื่อขับเคลื่อนในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ให้ประสบความสำเร็จรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
และทั้งหมดนี้แหละที่ “ปานมณี” รู้สึกรักในการทำงานของ สสส. เป็นหนักเป็นหนาเพราะนั่งมองมาหลายปีแล้ว
โดย ปานมณี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี