เรื่องของอุบัติเหตุ “เด็กจมน้ำเสียชีวิต” ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งจะเคยเกิดขึ้น หากแต่เป็นปัญหาที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังครองสถิติการเสียชีวิตของเด็กเป็นอันดับ 1 อีกด้วย เพราะดูเหมือนว่า “เด็กกับน้ำ” เป็นของคู่กันด้วยวัยที่อยากรู้อยากเห็น ดังนั้นการที่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำโดยไม่ได้ดูแลอาจนำไปสู่อันตรายได้ วิธีป้องกัน คงไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่า การสอนให้เด็กๆ ได้มีการเรียนรู้ทักษะเอาตัวรอดจากอันตรายจากน้ำจึงสามารถเป็นเกราะป้องกันที่ช่วยลดการสูญเสียได้เป็นอย่างดี
ล่าสุด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการทักษะความปลอดภัยทางน้ำ Stop Drowning Start Doing โดยมีครูจากโรงเรียนพื้นที่ต่างๆ นำร่อง 30 โรงเรียน ทั่วประเทศเข้าร่วมอบรมเพิ่มทักษะความปลอดภัยทางน้ำเนื่องจากพบว่า มีผลสำรวจการเสียชีวิตจากการจมน้ำของเด็กวัยเรียนกลุ่มอายุ 5-9 ปี ในปี 2558 มีอัตราการตาย 6 ต่อ 100,000 คน โดยจุดเสี่ยงคือ แหล่งน้ำขนาดเล็กในชุมชนใกล้บ้านเด็ก และแอ่งน้ำบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่ชุมชน และสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากความไม่รู้ต่อความเสี่ยงของแหล่งน้ำ และไม่มีทักษะช่วยตนเองและผู้อื่นเมื่อตกน้ำ ขณะที่ผู้ปกครองก็มองว่าเป็นพื้นที่ใกล้บ้านจึงไม่ได้ระมัดระวัง
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล เปิด เผยถึงการจัดฝึกอบรมการเรียนรู้ และสร้างทักษะความปลอดภัยทางน้ำ ว่า เป็นการสอนให้รู้จักการฝึกทักษะเบื้องต้น เพื่อการพัฒนาเด็ก และครอบครัวฯ โดยมี 30 โรงเรียนนำร่อง ทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมโดยเน้นไปที่การเรียนรู้ และสร้างทักษะความปลอดภัยทางน้ำ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.เรียนรู้สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมเสี่ยงต่อการจมน้ำ สอนให้เด็กรู้ว่าแหล่งน้ำไหนเสี่ยง ไม่ควรไปวิ่งเล่นใกล้ๆ โดยอาจจะพาเด็กเดินสำรวจสิ่งแวดล้อมในชุมชน และพาเขาไปดูว่าจุดไหนที่อันตราย และจุดไหนที่ปลอดภัย เพราะเด็กวัยนี้จะเข้าใจ ในเหตุและผลได้แล้ว 2.ลอยตัวในน้ำได้อย่างน้อย 3 นาที เพื่อรอการช่วยเหลือ เนื่องจากสาเหตุของการจมน้ำส่วนใหญ่ เกิดจากการที่เด็กมักจะเล่นกันใกล้ฝั่งและพลาดตกลงไปในน้ำ แต่ไม่สามารถที่จะลอยตัวขึ้นมาเพื่อจะเข้าฝั่งได้ เพราะฉะนั้นถ้าลอยตัวได้ 3 นาที เด็กจะสามารถช่วยตัวเองได้ 3.ว่ายได้ 15 เมตร นอกจากการลอยตัวให้ได้ 3 นาทีแล้ว เพื่อเป็นทักษะในการว่ายเข้าฝั่งหากพลัดตกลงไปในน้ำ 4.รู้อันตราย เด็กต้องรู้ว่า การกระโดดลงไปช่วยเพื่อนที่กำลังจมน้ำนั้นเป็นเรื่องที่อันตราย และยึดหลัก 3 ข้อ คือ “ตะโกน โยน ยื่น” ตะโกน ให้ผู้ใหญ่มาช่วย โยน สิ่งของที่อยู่รอบตัว เช่น ถังน้ำ แกลลอน เพื่อให้เพื่อนเกาะและสามารถใช้ลอยตัวได้ ยื่น สิ่งยาวๆ ให้เพื่อนจับแล้วดึงเข้ามาใกล้ฝั่ง (โดยจุดที่ยืนก็ต้องมั่นคงด้วย) และ 5.การใช้ชูชีพ เพื่อการเดินทางทางน้ำ ไม่ว่าจะเรือชนิดใด จะว่ายน้ำเป็นไม่เป็นก็มีความเสี่ยงที่จะจมน้ำได้เช่นกัน ดังนั้น การฝึกให้เด็ก ใส่-ถอด ชูชีพให้ถูกวิธี หัดลอยตัวเมื่อใส่ชูชีพให้ได้ เพราะถ้าลอยตัวไม่เป็นหน้าคว่ำลงก็อาจจะอันตรายกับชีวิตเด็กเช่นกัน
จีรวรรณ์ ปันผา
นางสาวจีรวรรณ์ ปันผา ครูโรงเรียนบ้านแก่งหว้าแก่งไฮ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มครูที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่าทักษะทางน้ำเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุ พื้นที่ของบ้านแก่งหว้าแก่งไฮ มีแหล่งน้ำธรรมชาติ และอ่างเก็บน้ำมากมาย ซึ่งเสี่ยงต่อการจมน้ำของเด็ก การฝึก 5 ทักษะให้กับครู และเด็กจึงเป็นเรื่องที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงอุบัติภัยทางน้ำได้เป็นอย่างดี
เธอเล่าให้ฟังว่า ปีที่ผ่านมา โรงเรียนได้เป็นหนึ่งในโรงเรียนนำร่อง โดยเริ่มจากการเสริมทักษะให้กับเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 25 คน ผลที่ได้คือ เด็กมีทักษะช่วยเหลือตนเองได้ทั้งหมด จนสามารถเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่ใกล้เคียง และในปีนี้โรงเรียนได้วางแผนต่อยอดนำ5 ทักษะไปสอดแทรกในการเรียนการสอนในทุกชั้นเรียน ตลอดจนเชิญชวนผู้ปกครอง และคนในชุมชนมาร่วมกันเรียนรู้ตั้งแต่ทฤษฎีไปจนถึงการปฏิบัติจริง ซึ่งต้องขอบคุณ สสส. และสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวฯ ที่จัดโครงการดีๆ แบบนี้ เนื่องจากอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การมีทักษะ และมีสติเมื่อเกิดเหตุจะเป็นตัวช่วยรักษาชีวิตได้
การเรียนรู้ และการได้ฝึกฝนเพิ่มเติมทักษะต่างๆอยู่เสมอ และต่อเนื่องจึง นับได้ว่า เป็นเกราะชั้นดีที่ทุกๆ คนควรแสวงหา และนำมาไว้กับตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในวันใดก็วันหนึ่ง ที่ “ปานมณี”ไม่อยากให้ใครๆ ต้องละลืม หรือละเลยต่อการแสวงหา และเพิ่มเติมทักษะให้แก่ตนเอง และทุกคนในครอบครัว
โดย ปานมณี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี