อาญาเถื่อนคุกคามปลัดสธ.
ถล่มเอ็ม79!
บอมบ์บ้านพัก-โชคดีไร้เจ็บ
เครือข่ายแพทย์ฮือประณาม
นัดแสดงพลังปกป้อง22เม.ย.
คนธกส.รับปาก“เทือก”ไล่รบ.
อพปช.ขู่ล้ม“ปู”เคลื่อนทันที
เมื่อเวลา 00.30น.วันที่ 21เมษายน ร.ต.ท.ชนินวิทย์ แสงสุวรรณ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้รับแจ้งเหตุยิงระเบิดใส่บ้านพัก นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในซอยแจ้งวัฒนะ14 บ้านเลขที่ 12/100 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)และเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด(อีโอดี) ที่เกิดเหตุบริเวณรั้วบ้าน พบสะเก็ดระเบิด สร้างความเสียหายให้กำแพบ้านเป็นรูกว้าง 10-15เซนติเมตร โดยมีรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ที่จอดอยู่ภายในรั้วได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 คัน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
เหิมยิงเอ็ม79ถล่มบ้านปลัดสธ.
จากการสอบถาม น.ส.อมร สหเมธาพัฒน์ อายุ 46 ปี น้องสาว นพ.ณรงค์ ซึ่งอยู่บ้านติดกันเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังนอนพักอยู่ในบ้าน ช่วงเวลาเกือบเที่ยงคืน ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้น จากนั้นได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับออกไปจากบริเวณใกล้บ้านอย่างเสียงดังมาก แต่ก่อนเกิดเหตุ ไม่ได้พบสิ่งผิดปกติใดเกิดขึ้น ที่นี่เป็นบ้านพัก นพ.ณรงค์ แต่เขาไม่อยู่บ้าน เนื่องจากไปราชการต่างจังหวัด
กำแพงทะลุ-รถเก๋งยุบ-ไร้เจ็บ
ต่อมา พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.น. 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กำธรอุ่ย เจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดีและเจ้าหน้าที่ พฐ.เข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2ชั้น ปลูกในเนื้อที่เดียวกัน 3หลัง มีรั้วรอบขอบชิด จุดเกิดเหตุเป็นบ้านหลังแรกเลขที่12/100 ห่างจากปากซอย 50เมตร บริเวณกำแพงบ้านฝั่งทิศเหนือมีร่องรอยถูกระเบิดขนาด 40มิลลิเมตรยิงจากเครื่องยิงเอ็ม79 เป็นรูขนาดเ 4นิ้ว มีสะเก็ดระเบิดโดยรอบ ด้านในรั้วบ้านมีรถยนต์เก๋งฮอนด้า รุ่นซีวิคทะเบียน ฎจ122กทม.ได้รับความเสียหายเล็กน้อยที่ตัวรถฝั่งขวา เป็นรอยบุบจากเศษปูนกำแพงที่โดนระเบิดกระเด็นมากระทบ มีเศษและสะเก็ดระเบิด รวมทั้งเศษปูนตกเกลื่อนพื้นเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ยิงวิถีตรงจากปากซอยเข้าบ้าน
พ.ต.อ.กำธร กล่าวว่า เป็นลูกระเบิดขนาด 40มิลลิเมตร ที่ยิงจากเครื่องยิงเอ็ม79 เป็นหัวระเบิดแบบธรรมดา ร่องรอยที่เกิดขึ้นที่กำแพงเป็นการยิงวิถีตรงขนานกับพื้น ไม่ได้ยิงวิถีโค้ง ระยะยิงประมาณ 50 เมตร จากการวัดระยะก็จะอยู่ช่วงปากซอยเข้าบ้านพอดี
คาดปมการเมือง-เช็งวงจรปิดล่า
ด้าน พล.ต.ต.สุรนิตย์ กล่าวว่า หลังเก็บหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียด รวมทั้งวัดระยะและวิถีการยิง ซึ่ง แน่ชัดแล้วว่า เป็นการยิงวิถีตรงจากทางปากซอยเข้าใส่กำแพงบ้าน จากการประเมินคนร้ายน่าจะเป็นข่มขู่จากผู้ไม่หวังดี หรืออาจเป็นฝีมือบุคคลที่3 เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความเห็นต่าง เพราะเจตนายิงเข้าใส่กำแพงบ้านวิถีตรง หากต้องการยิงใส่ตัวบ้านก็สามารถทำได้ เนื่องจากจุดยิงมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ สน.ทุ่งสองห้อง จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามทาง เข้าออกโดยรอบพื้นที่ทุกจุด
ผบ.ตร.จี้เร่งจับคนผิดมาลงโทษ
พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) จากเหตุการณ์ยิงเอ็ม79 ใส่บ้านพัก ปลัด สธ.ทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ห่วงใยในสถานการณ์ จึงสั่งกำชับให้ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบ เร่งรัดสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.และพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.สืบหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป
ปลัดสธ.ยันทำงานตามปกติ
ขณะที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิดว่า ไม่ใช่การปาระเบิด แต่เป็นการยิงมากกว่า ซึ่งตนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติต่อไป เนื่องจากเป็นข้าราชการ กินเงินเดือนประชาชน โดยวันที่ 21เมษายนนี้ จะไปรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ออกหน่วยแพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุยังไม่คิดเรื่องอะไรทั้งสิ้น ทั้งกรณีการย้ายที่อยู่ หรือการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนหาสาเหตุของเหตุระเบิดครั้งนี้
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามปลัด สธ.โดยยืนยันว่า ขณะนี้สบายดี ไม่กังวลกับเหตุที่เกิดขึ้น ตัวเองเป็นข้าราชการ ยังคงปฏิบัติราชการตามปกติและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้สังคมพิจารณาเอาเองว่าเกิดจากเรื่องอะไร โดยไม่ขอพูดถึงเรื่องทางการเมือง
หัวแข็ง-เมินร่วมประชุมศอ.รส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ณรงค์ เป็นปลัดกระทรวงคนเดียวที่ไม่เข้าประชุมร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เมื่อวันที่ 17เมษายนที่ผ่านมา โดยยกเหตุผลว่า ติดภารกิจราชการของกระทรวงฯและต้องการหาแนวทางปราบการทุจริตคอรัปชันในกระทรวงฯ จึงไม่ได้เข่าร่วมประชุมในวันดังกล่าว ซึ่ง ศอ.รส.ต้องการวางแนวทางการปฎิบัติตัวของข้าราชการต่อสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน
หมอประณาม-พร้อมปกป้อง
ทางด้าน นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผู้ประสานงานเครือข่ายแพทย์พยาบาลอาสาผู้ช่วยเหลือประชาชน ออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับบ้านพัก ปลัดสธ.ว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกับบุคลากรสธ.เหตุผลเนื่องจากการออกมาคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม (พรบ.นิรโทษกรรม) ที่ยกผิดให้คดีคอร์รัปชัน การรณรงค์ติดป้ายประณามความรุนแรงไม่ยอมรับรัฐบาลโกงทุกรัฐบาล ทำให้เกิดปรากฏการข่มขู่คุกคาม บุคลากรทางการแพทย์ โดยใช้อาวุธสงคราม ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าวมากที่สุดตั้งแต่มีประเทศไทยมา การแสดงออกทั้งในฐานะส่วนตัว หรือข้าราชการ ย่อมเป็นสิทธิ์ เพราะเราปกครองในระบอบประชาธิปไตย เครือข่ายแพทย์ฯพร้อมยืนเคียงข้าง ปลัด สธ.อยู่ข้างความถูกต้อง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใด ชาวสาธารณสุขพร้อมที่จะดูแลประชาชนทุกหมู่เหล่า เท่าเทียมกัน
นัดรวมพลให้กำลังใจ22เม.ย.
เช่นเดียวกับ พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) กล่าวว่า ขอประณามผู้ยิงระเบิดเอ็ม79 ใส่บ้านพักปลัด สธ.พวกเราชาวสาธารณสุขไม่มีอาวุธ ไม่เคยคิดทำร้ายใคร มีแต่รักษาผู้เจ็บป่วย ไม่คิดสร้างความรุนแรงใดๆ การที่ปลัดกระทรวงฯที่เป็นผู้นำสูงสุดในข้าราชการประจำถูกกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการคุกคามชีวิตอย่างรุนแรง ที่ผู้มีหน้าที่ดูแลความสงบต้องรับผิดชอบ รีบติดตามจับผู้ก่อเหตุมารับโทษโดยเร็ว รวมทั้งผู้บงการทุกระดับด้วย ขอเรียกร้องข้าราชการทุกหมู่เหล่าให้ร่วมประณาม และต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบร่วมกับพวกเราชาวสาธารณสุขและร่วมปกป้องศักดิ์ศรีข้าราชการร่วมกัน ไม่ยอมอยู่ภายใต้อิทธิพลมืด อันธพาลเช่นนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สธ.นัดรวมพลเพื่อให้กำลังใจปลัด สธ.บริเวณหน้าอาคารสำนักงานปลัดสธ.เวลา 10.00น. วันที่ 22เมษายน2557
เครือข่ายแพทย์ฯจี้ยุบศอ.รส.
ด้านเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ประกอบด้วย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ 8 สถาบัน คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ 6 สถาบัน คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ 13 สถาบัน คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ 4 สถาบัน นายกสภาวิชาชีพ 7 วิชาชีพ ข้าราชการบำนาญกระทรวงสาธารณสุขและประชาคมสาธารณสุข ออกแถลงการณ์ระบุกรณีคนร้ายยิงระเบิดใส่บ้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เป็นการก่อความรุนแรงต่อข้าราชการระดับสูง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกับสถานพยาบาล องค์กรอิสระ ซึ่งยังจับผู้กระทำความผิดมาลงโทษไม่ได้แม้แต่รายเดียว ยิ่งมีการใช้กฎหมายพิเศษเพิ่มอำนาจให้ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.)แล้ว แต่กลับไม่สามารถจัดการกับอาชญากรรมได้ การคงอยู่ของ ศอ.รส.จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาความสงบสุขในบ้านเมือง รัฐบาลควรพิจารณายุบ ศอ.รส.และให้ฝ่ายความมั่นคงออกมารักษากฎหมายได้ เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ทำงานตามกลไกปกติจะเหมาะสมกว่า
กปปส.เดินรณรงค์ไล่“รบ.ปู”
สำหรับการชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เวทีสวนลุมพินี เช้าวันที่ 21เมษายน ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักเหนียวแน่น สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บางส่วนพักผ่อนตามอัธยาศัย รอเวลาเคลื่อนขบวนไปกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และแกนนำ เพื่อเชิญชวนพนักงานรัฐวิสาหกิจร่วมชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
"สุเทพ"ชวนธกส.ปฎิรูปปท.
เวลา10.30.น.นายสุเทพ ได้พาแกนนำ พร้อมมวลชวนเดินทางรณรงค์ให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจร่วมปฎิรูปประเทศไทย โดยเดินทางมาที่สำนักงานใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)แยกเกษตร โดยมาถึงเวลา11.00.น.มี นางพูลสุข มุสิกลัด รองผู้จัดการใหญ่ธกส.และผู้บริหารให้การต้อนรับ โดยเชิญเข้าไปนั่งที่ห้องโถงชั่นล่างที่จัดเตรียมไว้ให้ จากนั้น นายสุเทพ ได้กล่าวกับผู้บริหาร ธกส.ว่า การมาครั้งนี้เพื่อชี้แจงถึงเหตุผลการชุมนุมของ กปปส.เพื่อปฎิรูปประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาเห็นประจักษ์ว่า รัฐบาลที่ได้อำนาจจากประประชาชนแล้วไม่ได้เอาไปใช้ในทางที่ถูกในการบริหารประเทศ โดยทำการฉ้อฉลในหมู่พวกพ้อง ไม่แก้ปัญหาให้กับประเทศชาติตามที่ควรจะเป็น นอกจากนั้น มีการละเมิดและแทรกแซงองค์กรอิสระและมีการก้าวล่วงต่อศาลรัฐธรรมนูญในหลายเรื่อง ซึ่งชี้ให้เห็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์
ห่วงชาวนายังไม่ได้เงินค่าข้าว
นายสุเทพ บอกด้วยว่า ขณะนี้เป็นห่วงชาวนาที่ยังไม่ได้เงิน หากปฎิรูปเสร็จจะเร่งจ่ายให้เร็วที่สุดและอยากไว้ให้ช่วยเหลือชาวนา ที่ผ่านมา กปปส.ช่วยเหลือชาวนาในเรื่องการฟ้องร้องรัฐบาลเพื่อให้จ่ายเงินให้กับชาวนาและอยากฝากให้ ธกส.ช่วยคิดว่า จะช่วยเหลืออย่างไร
ด้าน นางพูลสุข กล่าวว่า ชาวนายังไม่ได้รับเงิน 9หมื่นกว่าราย เป็นเงิน 9หมื่นกว่าล้านบาทและจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ที่ผ่านมา ธกส.ได้ระดมตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวนา โดยช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องตามลำดับ
ทั้งนี้ นายสุเทพ ได้ซักถามหากได้เงินที่ค้างจ่าย 9หมื่นล้านว่า จะใช้เวลาเท่าไหร่ โดยนางพูลสุข ยืนยันว่า จ่ายเงินได้ภายใน 1เดือน จากนั้น นายสุเทพ ร่วมทานอาหารกับผู้บริหารธกส.และเดินทางกลับสวนลุมพินี
หลวงปู่อาพาธ-หมอให้น้ำเกลือ
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กหลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) wfhโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพระบุว่า "หลวงปู่พุทธะอิสระ อาพาธ...ตลอดระยะเวลา 3เดือนกว่า ที่เวทีแจ้งวัฒนะ หลวงปู่ทำงานหนักจนแทบไม่ได้พักผ่อน เช้าวันที่ 21เมษายนนี้ แพทย์ต้องเข้าให้น้ำเกลือและขอให้หลวงปู่พักผ่อนมากขึ้น เนื่องจากหลวงปู่มีไข้ และอ่อนแรงมาก มาให้กำลังใจหลวงปู่กันเยอะๆ อย่าทิ้งหลวงปู่นะ”
ต่อมา มีรายงานว่า หลวงปู่ฯยังคงเก็บตัวให้น้ำเกลืออย่างต่อเนื่องภายในที่พัก หลังให้น้ำเกลือขวดแรกแล้วยังคงมีอาการมึนศรีษะจึงต้องให้น้ำเกลือต่ออีก 1ขวด ทำให้เวที กปปส.แจ้งวัฒนะ ยังไม่มีการเคลื่อนไหวออกนอกพื้นที่ มีเพียงช่วงเช้าที่หลวงปู่ฯมอบหมายแกนนำให้ไปดูพื้นที่ย่านรังสิต ซึ่งมีผู้บริจาคที่ดิน 5ไร่ เพื่อให้หลวงปู่ฯนำพื้นที่ไปให้เกษตรกรใช้ก่อสร้างโรงสีและทำประโยชน์อื่นๆ ส่วนวันที่ 22เมษายน หลวงปู่ฯมีกำหนดนำมวลชนเคลื่อนขบวนด้วยรถบัส 20คัน ไปทำภารกิจนอกพื้นที่ในชื่อ”ภารกิจกตัญญูแผ่นดิน”แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดของพื้นที่เป้าหมาย หรือกิจกรรมที่จะทำร่วมกับมวลชน
องค์กรเก็บขยะฯตั้งกองกำลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ค"องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน"ได้โพสต์ข้อความระบุว่าเป็นของ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ว่า "แชร์ให้ถึงผู้บัญชาการ สำนักตำรวจแห่งชาติ เพื่อโปรดทราบว่า‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’มีความจำเป็นต้องจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่มีขีดความสามารถอย่างเพียงพอที่จะรับมือกับอาวุธสงครามจากกองกำลังติดอาวุธของขบวนการก่อการร้ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ...กระผมขอความกรุณาจากผู้บัญชาการ สำนักตำรวจแห่งชาติ ได้โปรดเข้าใจถึงความจำเป็น โดยอย่าดำเนินคดีอาวุธสงครามกับ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ทั้งนี้ องค์กรเก็บขยะแผ่นดินจะเตรียมพร้อมระวังป้องกันตนเอง ณ ที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัยเท่านั้น"
อพปช.พร้อมชนศาลถ้าเชือดปู
วันเดียวกัน ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80พรรษา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือ อพปช.กว่า 1หมื่นคนจาก 64จังหวัด ทำพิธีสวนสนามแสดงพลังปกป้องประชาธิปไตย และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยมี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ประธาน อพปช. เป็นประธานพิธี ทั้งนี้ นายสุภรณ์ กล่าวว่า หลังอพปช.ทั่วประเทศ กว่า 15,000คน มาฝึกอบรมภาควิชาการและภาคปฏิบัติ ช่วงวันที่ 20-21 เมษายนเสร็จสิ้นแล้ว จึงจัดพิธีสวนสนามเพื่อแสดงพลังมวลชน จากนั้นขอให้ อพปช.กลับไปประจำในจังหวัดตัวเอง โดยตั้งเป็นศูนย์ อพปช.เพื่อเตรียมปฏิบัติภารกิจต่างๆ ซึ่งภารกิจแรกคือ ให้รอฟังการพิจารณาขององค์กรอิสระ หรือศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะตัดสินคดีต่างๆ หากพิจารณาไม่ชอบธรรม ส่งผลให้เกิดการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยและล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งหากมีปฏิวัติรัฐประหารก็พร้อมเรียก อพปช.ทั้งหมดเข้า กทม.เพื่อปกป้องประชาธิปไตยและปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี