คสช.แจงรธน.ชั่วคราว
เปิดทางบิ๊กตู่
มีสิทธิ์นั่งเก้าอี้นายกฯ
โต้ม.44เหมือนยุค‘สฤษดิ์’
ยันมีไว้ใช้กรณีสร้างสรรค์
มั่นใจ1ปีสางปัญหาลุล่วง
ออกหมายจับพ.อ.อภิวันท์
ฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จัดให้มีการแถลงข่าวความเป็นมาของการจัดทำและรายละเอียดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช., ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ที่ปรึกษาหัวหน้า คสชและนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช.
พล.อ.ไพบูลย์ เปิดการแถลงว่าตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 เมื่อวันที่ 22 ก.ค. โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จนทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการฯ นั้น ก็เป็นไปตามที่หัวหน้า คสช.ชี้แจงกับประชาชนว่า ภายในเดือนกรกฎาคมจะมีรัฐธรรมนูญและเป็นไปตามโรดแมปขั้นที่ 2
“ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงพระกรุณาพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับนี้มา ผมในนามของพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา หัวหน้าคสช.ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มีความห่วงใยในเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ขอยืนยันเจตนารมณ์ของคสช.ว่าการเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เพื่อมาแก้ไขปัญหาของชาติที่มีมาก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 ให้กับประชาชนชาวไทย จึงจำเป็นต้องใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการ ตามแผนงานที่เคยให้ไว้กับประชาชน มิได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น และยืนยันว่าจะนำไปใช้ในสิ่งทีดี เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย จึงขอโอกาสและเวลาให้กับคสช.ได้ปฏิบัติตามแผนงานที่เคยให้ไว้” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
คสช.ยันมุ่งมั่นสู่ประชาธิปไตย
ต่อมาศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย แถลงว่า รัฐธรรมนูญนี้ถึงแม้จะเป็นฉบับชั่วคราว แต่ความรู้สึกแรกคือ บ้านเมืองของเรากำลังมีกฎกติกาที่แน่นอน เป็นหลักของกฎหมายที่เรียกว่ากฎหมายสูงสุดของประเทศ ซึ่งจะเรียกได้ว่าบ้านเมืองไทยของเราเป็นนิติรัฐคือ รัฐที่ยึดถือกฎหมายเป็นกติกาในการอยู่ร่วมกันของประชาชนกับองค์กรที่ใช้ อำนาจอธิปไตย
ศาสตราจารย์พรเพชร กล่าวว่า เมื่อเห็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญแก่หัวหน้าคสช.คือ ความรู้สึกที่ว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ใต้การปกครองของรัฐธรรมนูญฉบับใด จะเป็นฉบับถาวรหรือฉบับชั่วคราว แต่พระมหากษัตริย์เป็นผู้ปกครองสูงสุด แม้รัฐธรรมนูญจะเขียนว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตย ซึ่งตามหลักรัฐศาสตร์เรียกว่า constituional monarchy แต่ พระเจ้าอยู่หัวของเรานั้นเป็นยิ่งกว่าผู้ใช้อำนาจอธิปไตย ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวครั้งนี้ มีบทบัญญัติที่ชัดเจนถึงพระราชอำนาจในเรื่องต่างๆ ที่พวกเราคนไทยอยากให้มี เช่น พระราชอำนาจในการอภัยโทษ พระราชอำนาจในการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นต้น ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความยาวมากกว่าฉบับชั่วคราว ครั้งก่อนๆ
“วิษณุ”แจงต้นทาง5สารธาร
หลังจากนั้น นายวิษณุ เครืองาม แถลงว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือเป็นต้นธารของสิ่งสำคัญต่างๆ 5 สิ่งที่จะแยกออกไป ประกอบไปด้วย คสช., สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ, คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและคณะรัฐมนตรี-นายกรัฐมนตรี ตอนนี้ถือว่าขั้นที่ 2 ของโรดแมปที่ คสช.ประกาศไว้ คือการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ทั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับที่ 19 ของไทย หากนับทั้งฉบับถาวรและชั่วคราว โดย ไม่นับฉบับที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม คาดว่า ฉบับชั่วคราวนี้จะมีอายุ 1 ปี เพื่อ รอรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ซึ่งจะเป็นฉบับที่ 20 ซึ่งจากนั้นจะเข้าสู่ระยะที่ 3 ของโรดแมป คือการจัดการเลือกตั้ง
1ปีจัดการปัญหาที่คั่งค้าง
ทั้งนี้ เชื่อว่าระยะเวลา 1 ปีนับจากนี้จะจัดการกับปัญหาที่ค้างคาอยู่ได้เป็น ผลสำเร็จในระดับหนึ่ง สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนี้ จะนำไปสู่องค์กรสำคัญอีก 5 องค์กร คือ 1.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีสมาชิก 220 คน ซึ่งไม่มีการสมัคร แต่จะมาจากการตัดสินใจของ หัวหน้า คสช. ซึ่งได้มีการจัดฐานข้อมูล อายุไม่น้อยกว่า 40 ปี มีสัญชาติไทย ไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในพรรคการเมือง มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดกฎหมายและพิจารณาสนธิ สัญญาที่เกี่ยวพันกับต่างประเทศ มีอำนาจให้ความห็นชอบแต่งตั้งและถอด ถอนนายกรัฐมนตรี ควบคุมการบริหารของนรัฐบาลโดยจำกัดเพียงตั้ง กระทู้ถามแต่ไม่รวมถึงการอภิปรายเพื่อซักฟอก รวมถึงให้ความเห็นชอบ การดำรงตำแหน่งของบุคคลบางตำแหน่ง
สร้างปรองดองสมานฉันท์
2.คณะรัฐมนตรี ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี 1 คน และรัฐมนตรีอีกไม่เกิน 35 คน รวมไม่เกิน 36 คน นายกรัฐมนตรีจะมาจากที่ใดก็ได้ เนื่องจาก เห็นว่าเป็นระยะเวลาเพียง 1 ปี จึงควรเปิดทางให้บุคคลทุกส่วนสามารถ เข้ามาทำหน้าที่ได้ ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญชั่วคราวอื่นๆ อย่างไรก็ตาม มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ให้ ครม. มีอำนาจในการปฏิรูปเรื่องต่างๆ นอก เหนือจากการบริหารราชการแผ่นดิน นอกจากนี้ ครม. ยังมีหกน้าที่สร้าง ความปรองดองสมานฉันท์เป็นพันธกิจที่ต้องปฏิบัติ
3.สภาปฏิรูปแห่งชาติ มีสมาชิกไม่เกิน 250 คน มาจากการสรรหา มาจาก จังหวัดต่างๆ 77 จังหวัด รวม 77 คน แต่ละจังหวัดจะมีคณะกรรมการ สรรหา 1 ชุด ทำหน้าที่สรรหาและเสนอชื่อเข้ามาเป็นผู้แทนในสภาปฏิรูป แห่งชาติ โดยเสนอชื่อให้ คสช. 5 คน และคสช. เลือกมา 1 คน ส่วนอีก 173 คนจะมาจากข้อกำหนด 11 ด้าน ได้แก่ ด้านการเมือง กฎหมาย การ ปกครองส่วนท้องถิ่น การศึกษา เศรษฐกิจ สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม พลังงาน สื่อสารมวลชน และอื่นๆ มีคณะกรรมการสรรหาด้านละ 1 ชุด ใช้ วิธีเสนอชื่อโดยไม่มีการเปิดรับสมัคร ต้องมีองค์กรหรือนิติบุคคลหรือ สถบันการศึกษาเสนอชื่อเข้ามาได้องค์กรละ 2 คน โดยเจาะจงว่าจะเข้ามา ปฎิรูปด้านใด รวมแล้วได้รายชื่อ 550 คนส่งให้ คสช. เลือกเหลือ 173 คน เพื่อนำไปรวมกับตัวแทนจังหวัดได้ 250 คน หน้าที่ของสภาปฏิรูปแห่งชาติทำหน้าที่เสนอความเห้นในการปฏิรูปส่วน ต่างๆ หากต้องใช้กฎหมายก็จะมีการเสนอกฎหมายต่อ สนช. นอกจากนี้ ยังมีอำนาจให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ด้วย
ห้ามนักการเมืองเข้ายุ่งเกี่ยว
4.คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญมี 36 คน มีระยะเวลาทำงานในการร่างรัฐธรรมนูญ 120 วัน กรรมาธิการต้องไม่เคยดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองอย่างน้อย 3 ปีย้อนหลัง รวมถึงไม่เคยอยู่ในองค์กรอิสระ และ 36 คนนี้จะไปดำรง ตำแหน่งทางการเมืองใดใดไม่ได้ในระยะเวลา 2 ปี หลังยกร่างรัฐธรรมนูญ และ ต้องร่างภายใต้กรอบสำคัญ อาทิ กรอบของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และกรอบของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เป็นต้น
5.คสช.มีอำนาจเสนอแนะให้ ครม.พิจารณาปฏิบัติในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่ง ครม.พิจารณาอาจไม่ปฏิบัติก็ได้ รวมถึงการจัดประชุมร่วมระหว่าง คสช.กับ ครม.แต่ไม่มีอำนาจปลดนายกฯ หรือ รัฐมนตรี หรือมีอำนาจบังคับบัญชา ครม.หรือข้าราชการ เพียงแต่ ให้ คสช. มีอยู่เพื่อแบ่งเบาภาระ ครม. ในด้านความมั่นคงสงบเรียบร้อยในช่วง 1 ปีนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ คสช.มีอำนาจในการจัดการปัญหาต่างๆ ได้ จึงมีการกำหนด ม.44 ให้อำนาจพิเศษเฉพาะกรณีจำเป็นเท่านั้น และใช้เพื่อสร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ไม่ปิดทางทำประชามติรธน.
นายวิษณุ กล่าวในตอนท้ายว่า หากมีคำถามว่า ลำธาร 5 สายจะอยู่ไปนานจนถึงเมื่อใด ตัวรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะอยู่ไปจนมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สนช.จะอยู่จนถึง ส.ส.สมัยหน้า มีส.ส.สมัยหน้าเมื่อใด สนช.ก็หมดไป คณะรัฐมนตรี ก็อยู่จนมีครม.ชุดใหม่มารับไม้ สภาปฏิรูปจะหมดไปเมื่อใด เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ร่างเสร็จและเขียนเกี่ยวกับสภาปฏิรูปอย่างไร สภาปฏิรปก็เป็นอย่างนั้น คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะอยู่ไปจนถึงเมื่อใด ก็จนเมื่อยกร่างเสร็จ
ส่วนคสช.จะอยู่ไปจนถึงเมื่อใด โดยหลักเมื่อมีการประกาศรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คสช.ก็จะหมดไปเมื่อนั้น ทั้งหมดนี้ก็จะหมดไปภายในระยะเวลา 1ปี บวกลบ
สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับหน้า เมื่อร่างแล้วจะเปิดให้ลงประชามติหรือไม่ รัฐธรรมนุญฉบับชั่วคราวไม่ได้เขียนไว้ แต่ไม่ได้ปิดทางเช่นกัน ส่วนสถานะขององค์กรต่างๆ สนช. จะอยู่จนกว่าจะมี ส.ส.สมัยหน้า ครม. อยู่จนมี ครม. ชุดใหม่ สภาปฏิรูป อยู่จนเมื่อรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ร่างเสร็จแล้วเขียนถึงสภาปฏิรูปอย่างไรก็ให้เป็นไปตามนั้น หาก เขียนให้อยู่ต่อ ก็ทำหน้าที่ต่อ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญอยู่จนเมื่อร่างเสร็จและรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้ และ คสช. อยู่จนเมื่อมีการประกาศใช้ รธน. ฉบับใหม่
ตัดเสียงสื่อถามม.44และม.48
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังใช้เวลาแถลงข่าวประมาณ 50นาที ก็มีการเปิดให้สื่อมวลชนซักถาม ซึ่งมีการตั้งคำถามถึงถึงมาตรา 44 และ มาตรา 48 รวมถึงความเห็นไปได้ในการปรองดอง โดยเฉพาะมาตรา 48 ที่ระบุคสช.ไม่มีความผิดและไม่ต้องรับผิดชอบกรณีเข้าควบคุมอำนาจ แต่ฝ่ายที่เคลื่อนไหวอื่นต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะปรองดองหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าถึงตอนนี้สัญญาณการถ่ายทอดสดก็ตัดเข้าสู่รายการปกติของแต่ละสถานีโทรทัศน์
เปิดทาง”บิ๊กตู่”นั่งเก้าอี้นายกฯ
ต่อมาผู้สื่อข่าวถามว่า สนช.จะตั้งแล้วเสร็จเมื่อใด เพราะจากนั้นสนช.จะต้องแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี อีกทั้งมีความสงสัยว่า พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา หัวหน้าคสช.จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ทาง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมคสช.กล่าวว่า ตามที่มีกรอบแนวทางการดำเนินงานหรือโร้ดแม๊บของหัวหน้าคสช.ได้มอบหมายไว้ว่าหลังจากมีรัฐธรรมนูญแล้วก็จะมีสนช.ประมาณต้นเดือนส.ค.ก็จะเกิดขึ้น ส่วนหัวหน้าคสช.จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่าในรัฐธรรมนูญให้เป็นได้หรือไม่ ถ้าได้ก็คงได้ ก็เห็นว่าได้
“ผมเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรที่บกพร่อง ในช่วงนี้ก็เหมือนท่านทำหน้าที่นายกฯอยู่แล้ว 2-3 เดือนที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ก็บริหารงานได้อย่างรอบคอบ นั่งเป็นประธานการประชุมทุกคณะมาเองตลอด บริหารงานทุกกระทรวงมาได้อย่างเรียบร้อย”พล.อ.ไพบูลย์ระบุ
กระนั้นก็ตามเรื่องดังกล่าวทางพล.อ.ไพบูลย์ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แนวคิดของคสช. และไม่มีการพูดคุยกันในประเด็นนี้ เพียงพูดคุยถึงเรื่องภาพรวมทั่วๆไป อาทิ ครม.หน้าตาเป็นอย่างไร นายกฯจะเป็นใคร ทั้งนี้คาดว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะได้ตัว ก็หลังจากที่มีสนช.เรียบร้อยแล้ว
ทุกอย่างขึ้นอยู่สนช.พิจารณา
ขณะเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม กล่าวเสริมประเด็น พล.อ.ประยุทธ จะเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ในรัฐธรรมนูญให้เป็น แต่จะได้เป็นหรือไม่ขึ้นอยู่กับ สนช.
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯคนใหม่จะเป็นพลเรือนหรือจะดึงองคมนตรีเข้ามาดำรงตำแหน่งเหมือนในอดีต ทางพล.อ.ไพบูลย์ ตอบว่า มีการคิดเรื่องนี้ในทุกแง่มุมว่าอะไรที่จะทำให้โรดแม็ปที่วางไว้เดินไปสู่ความสำเร็จเราก็ต้องคิดทุกปัจจัย เพราะมีบทเรียนสอนเรามา 4-5 ครั้งแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากหัวหน้าคสช.จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเองด้วยจะมีความเหมาะสมหรือไม่ ทาง พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่าคนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดมี 2 พวก คือ 1.สังคม ซึ่งของอย่างนี้คำพระท่านว่า ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ บุคคลพึงรู้ได้ด้วยตนเอง 2. คนที่มีอำนาจจริงในการจะให้เป็นหรือไม่ให้เป็น คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือ สนช. ก็คงต้องไปถามสนช. และวันนี้ที่นั่งกันอยู่ในที่นี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเป็นสนช.ดังนั้นตอบอะไรไปก็คงลำบาก
ที่ปรึกษาคสช.เป็นรัฐมนตรีได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีรัฐบาลแล้วคสช.จะไปนั่งทำงานที่ไหน ใช้ที่บ้านพิษณุโลกหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า คงต้องดูอีกครั้ง เมื่อถามว่า จะมีการแต่งตั้งบรรดา ผบ.เหล่าทัพที่กำลังจะเข้ามาดำรงตำแหน่งหลังชุดเดิมเกษียณแล้วให้เข้ามาเป็นเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ครบ 15 คน หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่มีการหารือกันถึงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากที่บรรดาผบ.เหล่าทัพที่จะเกษียณก.ย.นี้แล้วจะให้มาเป็นรัฐมนตรีในครม.ชุดใหม่หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ และยังไม่มีการพูดถึงแต่อย่างใด คงต้องไปถามหัวหน้าคสช. แต่หากจะเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นก็ต้องดูที่ความเหมาะสมว่าใครจะสามารถบริงหารงานแต่ละกระทรวงได้ และบริหารงานไปตามโรดแม็ปที่คสช.วางไว้ ต้องทำงานผสมผสานกัน
เมื่อถามว่า ทีมที่ปรึกษาคสช.ก็สามารถเข้ามาดำรงตำแหน่งในครม.ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า “เป็นได้ทุกคนนั่นแหละ แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้กำหนดตัวบุคคล ใครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมก็ได้รับการพิจารณาทั้งหมด” เมื่อถามว่าจะมีสัดส่วนของทหารเข้าไปอยู่ในครม.ชุดใหม่จำนวนเท่าไหร่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับตำแหน่งประธานสนช.จะมาจากฝ่ายกฎหมายหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ทั้งนี้หัวหน้าคสช.จะต้องเป็นผู้แต่งตั้ง พร้อมกับดูสนช.ทั้ง 220 คน ขณะนี้ตนยังไม่ได้เห็นรายชื่อแต่อย่างใด ถามว่า คสช.ประเมินว่าการใช้กฎอัยการศึกในการดูแลความสงบเป็นอย่างไร พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานเป็นอย่างดี
เมื่อถามว่า โดยลึกแล้วยังมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ใต้ดินอีกหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนเห็นว่ายังเรียบร้อยดีอยู่ในระดับหนึ่ง คงต้องขอเวลาอีกสักพักหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามคสช.มั่นใจว่าสามารถควบคุมได้
แจงมาตรา44ไว้ป้องกันชาติ
ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ที่ปรึกษาหัวหน้า คสช. กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวพุทธศักราช 2557 จะสร้างความเชื่อมั่นให้นำไปสู่ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์อย่างแท้จริง โดยยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม กฎหมาย จากการจัดทำขึ้นโดยผู้ทรงคุณวุฒิ
ขณะที่มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่หัวหน้า คสช.สามารถป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดินได้ ถือเป็นกฎหมายไม่รุนแรง แต่เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อย บรรยากาศของการเมืองไปสู่การปฏิรูปและความเป็นปึกแผ่นของประเทศ โดยมาตรา 44 จะคล้ายมาตรา 17 ในอดีต แต่จะเน้นใช้ในทางสร้างสรรค์ ไม่ทำลายล้าง
เปิดรัฐธรรมนูญมาตรา 44
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรัฐธรรมนูญมาตรา 44 ระบุ กรณีหัวหน้าคสช.เห็นเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฎิรูปในด้านต่าง ๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือนอกราชอาณาจักร ให้หัวหน้า คสช.โดยความเห็นชอบของคสช. มีอำนาจสั่งการระงับยับยั้ง หรือกระทำการใดๆ ไม่ว่าการกระทำนั้น จะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคำสั่งหรือการกระทำ รวมทั้งการปฎิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งหรือการกระทำ หรือการปฎิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้และเป็นที่สิ้นสุด ทั้งนี้เมื่อได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว ให้รายงาน ประธานสนช.และนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
สสร.50แนะใช้ม.44อย่างระวัง
ก่อนหน้านี้ นายคมสัน โพธิ์คง อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 (สสร.) กล่าวห่วงว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา44 ค่อนข้างแรง หากจะมีการใช้คงต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะมีผลเรื่องการควบคุมอำนาจตุลาการ หากใช้มาตรา 44 ไม่ดี อาจมีการเรียกร้องจากองค์กรระหว่างประเทศ มาตรา 44 จึงเป็นทั้งจุดแข็งของคสช. แต่ก็เป็นจุดอ่อนของคสช.ด้วย
เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ห่วงใยในประเด็นดังกล่าว แต่เชื่อว่า สังคมยอมรับสภาพการคงอำนาจพิเศษ ในกรณีที่จะเกิดปัญหาความปั่นป่วน วุ่นวายขึ้น แต่ยังไม่ชัดเจนว่า วัตถุประสงค์ของการขยายอำนาจพิเศษ ให้ครอบคลุมอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจตุลาการก็ดี หรือการอ้างอิงเหตุผลในการใช้อำนาจ เพื่อผลักดันการปฏิรูปหรือการส่งเสริม ความสมานฉันท์ก็ดี มีความจำเป็นอย่างไร เพราะโดยโครงสร้างสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูปก็มีที่มาจากคสช. อยู่แล้ว และการระงับการกระทำที่เป็นปัญหาต่อความมั่นคง ก็จะเป็นการใช้มาตรการทางบริหารเป็นหลัก
“ผมจึงหวังว่าหัวหน้า คสช.จะช่วยอธิบาย ถึงความจำเป็นและสิ่งที่ท่านคิดอยู่ในใจว่าจะใช้อำนาจในมาตรา44นี้ ในกรณีไหนอย่างไรโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความชัดเจนและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งหรือความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นได้”นายอภิสิทธิ์ กล่าวแนะนำหัวหน้าคสช.
ปชป.-พท.ไม่ส่งสมาชิกเป็นสนช.
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลาและหัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าคงไม่มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไหนคนไหนที่ต้องการเสนอตัว เข้าไปเป็นทั้งสนช.หรือสภาปฏิรูปด้วย เพราะยังต้องเล่นการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอยู่ ไม่เช่นนั้นจะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกท๊อปบู๊ท และคงไม่มีนักการเมืองคนไหนอยากไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ดังนั้น ขอให้เจ้าของประเทศและกลุ่มอาชีพที่หลากหลาย เข้าไปมีส่วนในการยกร่างปฏิรูปและเป็นสภาปฏิรูปดีกว่า โดยรวมคนที่มีความรู้จริงและเป็นตัวแทนของกลุ่มอาชีพอย่างแท้จริง
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า พรรคพท.มีแน้วโน้มอาจไม่สมาชิกส่งเข้าร่วมสภาปฏิรูปแห่งชาติเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพราะกระบวนการคัดสรรเป็นอำนาจชองคสช.ที่จะเลือกเอง เข้าไปก็เป็นเสียงส่วนน้อย เราเป็นคู่ขัดแย้ง ให้เขาทำไปให้สุดๆของเขาดีกว่า
หมายจับ”อภิวันท์”หมิ่นเบื้องสูง
วันเดียวกัน ศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กรณีกระทำผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินีแล้ว โดยมีอายุความ 15 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี