24 ก.ค.57 นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รักษาราชการปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการออกร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการพิสูจน์พยานหลักฐานทางด้านการเงินและบัญชี รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ ตามที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช.มอบหมายตนไปศึกษาแนวทาง ซึ่งในวันที่ 31 ก.ค.เวลา 10.00 น.ได้เชิญ 7 องค์กรธุรกิจหารือเป็นกลุ่มแรกเพื่อขอความคิดเห็น โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ เป็นประธานการประชุม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.)
ทั้งนี้ การเลือกหารือ 7 องค์กรธุรกิจเป็นกลุ่มแรกเพื่อระดมความคิดเห็น เนื่องจากหลายฐานข้อมูลอยู่ในส่วนภาคเอกชนดูแลเป็นจำนวนมาก จึงต้องขอความความคิดเห็นจากกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย อย่างข้อมูลในสถาบันการเงิน ให้บริการโทรคมนาคม กลุ่มธุรกิจอยู่ในมือเอกชนทั้งนั้น ดังนั้น การที่จะไปจัดการตรงนี้กำหนดออกเป็นกฎหมายต่อไป ก็ต้องฟังภาคเอกชนด้วย ไม่ใช่เอากฎหมายไปบังคับเขาก่อน ขณะเดียวกันบทบาทภาคเอกชนเองไม่ใช่แค่ผู้ให้ความร่วมมือเท่านั้น เพราะวันหนึ่งตัวองค์กรเอกชนสามารถเป็นผู้เสียหายได้เหมือนกัน ถ้าเขาถูกแฮกเข้าไปในระบบให้โอนเงินไปต่างประเทศ ดูดเอาเงินออกไป
ขณะที่ปัจจุบันคดีต่างๆ โดยเฉพาะคดีการเงินมีความซับซ้อนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ อาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ กฎหมายนี้จะอำนวยความสะดวกในการทำงานสืบสวนคดีต่างๆ ทำให้การสืบสวนมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังเป็นการป้องกันการทุจริตได้ส่วนหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี