‘คาร์บอมบ์’กลางเบตง
ตาย-เจ็บอื้อ!
ย่านการค้า-ชุมชนพินาศ
ตูมสนั่นหน้ารร.ฮอลิเดย์ ฮิลล์
โจรใต้ลงมือช่วงจนท.เปลี่ยนกะ
ระบุเหตุรุนแรงสุดในรอบ7ปี
ทบ.สั่งคุมเข้มส่งท้ายรอมฎอน
ระเบิดทหารพรานนราฯพลีชีพ1
เมื่อเวลา 16.40 น.วันที่ 25 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณหน้าโรงแรมฮอลิเดย์ ฮิลล์ (ฟูทูน่า) ตั้งอยู่เลขที่ 50 ถนนภักดีดำรงค์ เขตเทศบาลเบตง ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายได้นำระเบิดมาซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ทำเป็นคาร์บอมบ์ จอดไว้ที่บริเวณดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยทางเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ สภ.เบตง อยู่ระหว่างปิดกั้นบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
วางคาร์บอมบ์หน้ารร.ที่เบตง
ทั้งนี้ ภายหลัง พ.ต.อ.วสันต์ พวงน้อย ผกก.สภ.เบตง ได้รับแจ้งเหตุ จึงสนธิกำลังร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจาก ตชด.ที่ 445 ตำรวจภูธร จ.ยะลา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นย่านการค้าและชุมชนอยู่หนาแน่น
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายได้ซุกซ่อนระเบิดไว้ในรถกระบะยี่ห้อมาสด้าไฟต์เตอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บง 3616 ยะลา ซึ่งเป็นรถที่แจ้งหายจากพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนใช้ทำคาร์บอมบ์จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือ
จอดไว้15นาทีก่อนจุดชนวนบึ้ม
เบื้องต้นพยานในที่เกิดเหตุระบุว่า พบเห็นคนร้ายขับรถคันดังกล่าวมาจอดไว้ที่หน้าโรงแรม เป็นเวลาประมาณ 15 นาที ก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้โรงแรม ร้านค้า และอาคารบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นบริเวณโดยรอบ และเส้นทางที่ผ่านเข้ามายังโรงแรมที่เกิดเหตุพร้อมกับตัดสัญญาณโทรศัพท์ และรบกวนวิทยุสื่อสาร เพื่อป้องกันเหตุคนร้ายลอบระเบิดซ้ำ
พบตายแล้ว3เจ็บอีกกว่า30ราย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในส่วนของผู้เสียชีวิต 3 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.เพ็ญนภา ตุ่นห่อ อายุ 23 ปี นายเดโช ดารีเยาะ และเด็กหญิงยังไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 8-10 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 30 ราย มีอาการสาหัสอย่างน้อย 2 ราย
ส่วนผู้บาดเจ็บ ได้แก่ น.ส.ศิริพร จะไฮลา อายุ 17 ปี , นางอาเสาะ แซ่หม่ำ อายุ 36 ปี , น.ส.อรสา เรือนแก้ว อายุ 26 ปี , นายกรกช แซ่ตั้ง อายุ 17 ปี , น.ส.สุปราณี ศรีจันทร์ อายุ 28 ปี , น.ส.ศิริรัตน์ ปุน อายุ 34 ปี , น.ส.ปรารถนา จันทร์ อายุ 27 ปี , น.ส.สุมาลินทร์ จันทร์ตูม อายุ 24 ปี , น.ส.วาสนา พรหมมินทร์ , นายเสกสรร เส็นเจริญ อายุ 56 ปี , น.ส.มุขพร ภูศรี อายุ 27 ปี , นายจีมีฮาน อายุ 28 ปี , น.ส.ฮาซีดา สะมาแอ อายุ 26 ปี , นายอภิชาติ แซ่ตั้ง อายุ 20 ปี , นางมาลี รุ่งวิชานิวัฒน์ , นางเสี่ยวมุ่ย แซ่หวัง อายุ 32 ปี , นางจิตนา มาเลาะ อายุ 43 ปี , นายตีเมาะ สะมาแอ อายุ 34 ปี , น.ส.ทัสยา ศรีจันทร์ อายุ 30 ปี และ น.ส.รัศมี ทองดีนอก อายุ 41 ปี
ทบ.สั่งคุมสถานการณ์ใกล้ชิด
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.กล่าวถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ว่าคนร้ายได้ซุกซ่อนวัตถุระเบิดไว้ภายในรถกระบะ โดยอาศัยช่วงจังหวะที่ชุดรักษาความปลอดภัยเทศบาลเมืองเบตง เปลี่ยนเวรทำหน้าที่ โดยช่วงเวลาดังกล่าวมีประชาชนพลุกพล่าน รวมทั้งพื้นที่เป็นซอยแคบ โดยขณะนี้ได้มีการสั่งการให้เพิ่มความระมัดระวังคาร์บอมบ์ในทุกพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลาด้วย
“พื้นที่เบตงเป็นพื้นที่ซึ่งคาดไม่ถึง และเหนือความคาดหมายว่า คนร้ายจะก่อเหตุสร้างสถานการณ์จนเกิดความเสียหายได้มากขนาดนี้ โดยอาศัยช่วงเวลาการเปลี่ยนกะของเจ้าหน้าที่เพราะที่ผ่านมา สถานการณ์ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งนี้ ยังเหลือเวลาอีก 3 วันสุดท้ายของช่วงเดือนรอมฎอน ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้สั่งให้มีการจับตาเฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษ” พ.อ.บรรพต กล่าว
ส่วน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว รวมทั้งตรวจสอบยานพาหนะต่างๆ ปิดกั้นเส้นทางการเข้า-ออก โดยเฉพาะการลำเลียงผู้บาดเจ็บส่ง รพ.พร้อมทั้งให้มีการเพิ่มความระมัดระวังในพื้นที่เสี่ยง เพราะเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะก่อเหตุซ้ำ
พ่อเมืองยะลาเร่งเยียวยาเหยื่อ
ขณะที่ นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ยะลา เปิดเผยถึงเหตุระเบิดครั้งนี้ ว่า ในเบื้องต้นมีรายงานผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 ราย เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิง ยังไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 8-10 ปี โดยทั้งหมดถูกนำส่งไปรักษษที่ รพ.เบตง อย่างไรก็ดี ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลเยียวยาผู้ที่ได้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ สำหรับสาเหตุของการวางระเบิดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด โดยเจ้าหน้าที่ก็มีมาตรการดูแลป้องกันเหตุอย่างดีอยู่แล้ว
เหตุรุนแรงครั้งแรกในรอบ7ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ไม่ได้เกิดเหตุรุนแรง มาเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 6 จุด ในเขตตัวเมืองเบตง โดยครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย
ระเบิดทพ.พลีชีพ1บาดเจ็บ3
ก่อนหน้านี้ เวลา 15.25 น.วันเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ดักทำร้ายทหารพรานสังกัด ร้อย ทพ.1114 ฉก.ทพ.11 ขณะกำลังออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้กับครูโรงเรียนนิคมพัฒนา 2 ในพื้นที่หมู่ 2 ต.เกียร์ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส โดยแรงระเบิดส่งผลให้มีทหารพรานเสียชีวิต 1 ราย คือ อส.ทพ.ภักดี แซ่อุ่น และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย ส.ต.เทียนชัย พรรลา อส.ทพ.คมสันต์ เผือกงาม และ อส.ทพ.ฉัตรชัย คำพู ทั้งหมดถูกนำส่งไปรักษาที่ รพ.สุคิริน
คุมกันเข้มก่อนพ้นรอมฎอน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการดูแลรักษาความปลอดภัยในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ในช่วงเดือนรอมฎอน ยังคงเป็นไปด้วยความเข้มงวด มีกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ตั้งด่านตรวจ 4 จุด ได้แก่ ด่านบ้านยะกัง ด่านบ้านปลักปลาคุม ด่านริมน้ำคุม และ จุดตรวจโรงไฟฟ้าเก่าบ้านบาละฮีเล ตรวจสอบรถยนต์และจักรยานยนต์ทุกคันที่ผ่านเข้า-ออก อย่างละเอียด รวมทั้งตรวจสอบสัมภาระต่างๆ ของผู้ที่มาจากต่างถิ่น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ซึ่งชาวมุสลิม ต้องออกมาปฏิบัติศาสนกิจตามมัสยิดต่างๆ ในช่วง 3 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ส่วนแหล่งชุมชนต่างๆ มีเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วออกลาดตระเวนตลอดเวลา หากมีเหตุร้ายจะสามารถสนับสนุนกำลังเพื่อออกไล่ล่าคนร้ายได้ทันที
ตร.ชี้มีข่าวดีปมบึ้ม4จุดระแงะ
ด้านความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รวม 4 จุด เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทาง พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนขยายผลจากผู้ต้องหา 2 ราย ที่จับกุมตัวได้ รับสารภาพและให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุแล้ว โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ออกตามประบตามสถานที่ต่างๆ คาดว่าคงใช้เวลาไม่นานก็จะติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติม
งานศพเศร้าสาวใหญ่ถูกลอบยิง
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบยิง น.ส.นิศาชล สังข์วิเชียร อายุ 44 ปี อาชีพดูแลคนชรา จนเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่เมืองปัตตานี นั้น ทางญาติผู้เสียชีวิตได้รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านดี หมู่ 3 ต.บาราโหม อ.เมือง จ.ปัตตานี ท่ามกลางความโศกเศร้า เนื่องจากผู้เสียชีวิตชอบช่วยเหลือสังคม และไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใครมาก่อน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตขับจักรยานยนต์ กลับจากเลิกงาน แต่เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนจงรักษ์สัตวิทยา หมู่ 3 ต.ตันหยงลุโละ ได้มีคนร้าย 2 คน ขับจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ตามประกบยิงจนรถของผู้เสียชีวิตเสียหลักล้มลงตกข้างทาง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดี ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังกันเข้าตรวจสอบเหตุ และออกติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว แต่ยังไม่พบเบาะแส เบื้องต้นคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี