สั่งรื้อสวัสดิการบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เหลือเบี้ยประชุม-เงินรายเดือน
วันพฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557, 19.40 น.
Tag :
14 ส.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา17.00 น. ที่สโมสรทบ.เทเวศร์ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซุปเปอร์บอร์ด ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน เมื่อวันที่ 14ส.ค.ที่ผ่านมา ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาปรับลดสิทธิประโยชน์พิเศษของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจทั้งหมด โดยจะกำหนดให้รับเพียงเบี้ยประชุมคณะกรรมการและค่าตอบแทนรายเดือนเท่านั้น ส่วนสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น ค่ารับรอง และบัตรโดยสารฟรี ให้ยกเลิกทั้งหมด“เท่าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น มีรัฐวิสาหกิจไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว ไม่ได้มีมากทุกๆรัฐวิสาหกิจเหมือนที่เข้าใจกัน จึงไม่น่ามีปัญหา เหมือนกับที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ยกเลิกสิทธิพิเศษบัตรโดยสารฟรี โดยการกลับไปพิจารณาเรื่องดังกล่าว คาดว่าจะได้ข้อสรุปและเสนอให้คนร.พิจารณาครั้งต่อไป”
ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบการรายงานความคืบหน้าของคณะอนุกรรมการ 3 ชุด โดยในชุดของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ได้เสนอแผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ,บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) แต่ข้อมูลของแผนยังไม่ชัดเจน จึงให้กลับไปรวบรวมรายละเอียดก่อนเสนอมาคนร.อีกครั้ง ส่วนคณะอนุกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ ได้รายงายความคืบหน้า ถึงความคืบหน้าในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์รัฐคาดว่าในเดือนก.ย.นี้จะเสร็จสิ้น ขณะที่คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบกำกับดูแลและระบบบรรษัทภิบลของรัฐวิสาหกิจ จะเสนอมาตรการเร่งด่วน เช่น การปฏิรูปการกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ภายในเดือนพ.ย.57
นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสคร. กล่าวว่า แผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจทั้ง4 แห่งนั้น คนร.ขอให้ไปประสานกับคณะกรรมการที่แต่งตั้งใหม่ ไปจ้างปริษัทที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบและประเมินสถานะองค์กร รวมทั้งตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินว่ามีสถานะอย่างไร กำหนดมาตรการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพโดยหารายได้จากธุรกิจ หรือพิจารณาเลิกดำเนินธุรกิจที่ไม่เกิดประโยชน์กับองค์กร แล้วมาเสนอภายใน 3 เดือน จากนั้นจึงมาพิจารณาว่า แผนที่เสนอมานั้นเมื่อเปรียบเทียบกับสถานะองค์กรแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ ทำได้หรือไม่ หรือจะกลับมาทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพหรือไม่ขณะเดียวกันที่ปรชุมยังสั่งให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดทำแผนฟื้นฟูมาเสนอคนร.เพิ่มเติมอีก 1 แห่ง เพราะเห็นว่า แม้ขสมก.จะมีแผนจัดหารถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 3,182 คัน แต่ก็พบปัญหาขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่องจึงต้องมาพิจารณาแผนฟื้นฟูใหม่ เพื่อจะได้ติดตาแก้ไขปัญหาให้ชัดเจนขึ้น