คสช.สั่งเร่งติดตามปืน
54กระบอก
“.38 -9 ม.ม.”ของกลาง
ยึดในเหตุการณ์ป่วนชุมนุม
ล่องหนไปจากศาลทหาร
หมายจับจ่า-บี้สอบผู้กอง
หวั่นถูกนำขายไปก่อเหตุอีก
ชพน.ส่ง’บิ๊กเยิ้ม’นั่งสปช.
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ท.สุรวุฒิ ศรีอังกูร ได้รับมอบอำนาจจากตุลาการพระธรรมนูญ หัวหน้าศาลทหารกรุงเทพ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับร.อ.ชินพล ออรุ่งโรจน์ กับ จ.ส.อ.สมเกียรติ ม้ายอง เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์เบียดบังทรัพย์เป็นของตนเอง หรือผู้อื่นโดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั่นไปเสีย และเอาไปเสีย ซึ่งทรัพย์ที่ได้ส่งไว้ต่อศาล หรือที่ศาลให้การรักษาไว้ในการพิจารณาคดีหรือทรัพย์สินที่ได้มีคำพิพากษาให้ริบและลักทรัพย์ในสถานที่ราชการและเอาไปเสียซึ่งทรัพย์ที่ได้ส่งไว้ต่อศาลหรือที่ศาลให้ไว้ในการพิจารณาคดีเหตุเกิดที่ศาลทหารกรุงเทพแขวงพระบรมมหาราชวัง กทม.
แจ้งจับ2ทหารทำปืนของกลางหาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่23–24 ก.ค.2557ในช่วงเวลากลางวัน ศาลทหารกรุงเทพได้พิจารณาคดีพยายามฆ่าและคดีฆ่าผู้อื่นตามลำดับและในวันพิจารณานั้น ได้มีการเบิกอาวุธของกลางที่เก็บไว้ในแผนเก็บรักษาเพื่อมาให้โจทย์ยืนยันของกลางในคดีแต่ไม่พบซึ่งในวันที่ 23 ก.ค.เป็นอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9มม.ยี่ห้อ ซีแซด หมายเลขทะเบียน กท.4916390 และวันที่24 ก.ค.เป็นอาวุธปืนสั้น รีวอลเวอร์ ขนาด.38 ยี่ห้อ ซีเทารัส หมายเลขทะเบียน กท.4015146และ อีกจำนวน52กระบอก รวมเป็น54กระบอก
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัว ร.อ.ชินพล มาพบพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงครามพร้อมได้ขออนุมัติหมายศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับที่ 42/2557 ลงวันที่ 5 ส.ค.2557และจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของ จ.อ.ส.สมเกียรติ อยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุมัติศาลทหารออกหมายจับ เพราะได้หลบหนีไป
คสช.เร่งติดตามปืน54กระบอก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับอาวุธกลางที่หายไปเป็นอาวุธสงครามที่ได้ยึดมาจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมารวมถึงอาวุธของกลางบางส่วนที่ได้นำมาแถลงให้สื่อมวลชนได้รับทราบถึงการจับกุมอาวุธสงครามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้สั่งการให้กวาดล้างอาวุธสงครามในช่วงที่ผ่านมาโดยอาวุธสงครามที่หายไปจำนวน54 กระบอก ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามอาวุธสงคราม และจ.ส.อ.สมเกียรติ เพราะเกรงว่าจะนำอาวุธไปขายให้กับกลุ่มที่ไม่หวังดีเพื่อนำมาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย
แม่ทัพ1ลั่นเอาจริงมือโปรยใบปลิว
ด้าน พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่1ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) กล่าวถึงกรณี ที่มีใบปลิวโจมตีการทำงานของ คสช.ไปโปรยที่หน้ากองทัพบก ว่าถือเป็นหน้าที่ของตนในการรับผิดชอบดูแล เพราะรู้อยู่แล้วว่ายังมีกลุ่มบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีต่อการทำงานของคสช.เป็นกลุ่มเดิมๆที่เคยนำใบปลิวไปโปรยบริเวณแยกหลักสี่โดยรู้ว่าเป็นกลุ่มไหนอย่าคิดว่าจะทำอะไรก็ได้อย่างอิสระเหมือนก่อนเพราะเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามอยู่
“ คสช.มีความตั้งใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติ ซึ่งเป็นธรรมดาที่กลุ่มบุคคลที่มีความเห็นต่างออกมาแสดงความไม่พอใจผมอยากขอร้องอย่ากระทำเช่นนี้อีกเพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรมีอะไรมาคุยกัน เข้ามาแนะนำกัน เราพร้อมให้ความร่วมมือและพร้อมจะแก้ไขปัญหาให้ทุกเรื่อง ผมเปิดโอกาสให้เข้ามาพูดคุยกัน เมื่อไม่เข้าใจตรงใจ ไม่พอใจอะไรก็มาพูดกันดีว่าจะมากระทำเช่นนี้” พล.ท.ธีรชัย กล่าว
สั่งจับตา เชื่อยังมีกลุ่มใต้น้ำ
แม่ทัพภาคที่ 1 ยังยืนยันว่าหัวหน้าคสช.ไม่ได้ห่วงอะไร ให้ตนจัดการเพราะถือว่าเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของ กกล.รส. ที่ต้องเร่งดำเนินการโดยต้องเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลเหล่านี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ อย่างไรก็ตามอยากขอร้องสื่อมวลชนหรือประชาชนทั่วไปอย่าไปให้ความสำคัญ มาดูผลงานของ คสช.กันดีกว่าทำงานกัน ไม่มีวันหยุด จึงอยากให้ประชาชนดูการทำงานของเราเพราะขณะนี้ได้ทำในสิ่งที่ดีขณะนี้ต้องยอมรับว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างดีเป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้นต้องร่วมมือกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีอยู่บ้างเป็นพวกใต้น้ำ แต่ คสช.เองก็ทำงานด้วยใจ จึงก็ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว ขณะนี้ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ ถ้าพวกเราช่วยกัน
ยังไม่เลิกกฎอัยการศึก
พล.ท.ธีรชัย กล่าวถึงเรื่องการยกเลิกกฏอัยการศึกนั้นว่าฃ ต้องขอเวลาดูอีกสักระยะ ต้องยอมรับว่า ถ้ายกเลิกขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทำงานกันลำบาก เพราะจะไม่มีกฎหมายมารองรับ ขณะนี้ต้องยอมรับว่าประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ได้เดือดร้อนกับกฎอัยการศึกเลย ทุกวันนี้เขารู้หรือไม่ว่ายังมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่ ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะสถานการณ์ขณะนี้ปกติ ไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง คนที่เดือดร้อน คือ คนที่มุ่งคิดร้ายต่อประเทศชาติ จ้องจะทำในสิ่งที่ไม่ดี จะก่อกวนจะปั่นป่วนคนพวกนี้จ้องอยู่ จึงจำเป็นต้องกดเอาไว้ก่อน ถ้าไปยกเลิกจะไม่มีเครื่องมือในการทำงานซึ่งก็จะลำบากในการทำงานแต่ละพื้นที่รวมถึงอาจจะมีการเคลื่อนไหวกันขึ้นมาอีก
เชื่อมีนายกฯจะขับเคลื่อนเต็มที่
นอกจากนี้ พล.ท.ธีรชัย ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของสนช.ว่าขณะนี้ต้องรอการโปรดเกล้าฯประธานสนช.ลงมาก่อนจึงจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีซึ่งก็เป็นไปตามข่าวที่ออกมาอย่างต่อเนื่องว่าเราต้องการให้ใครเป็นก็คนๆนั้น คงเลือกกันไม่ยากเพราะถือว่า เมื่อได้นายกรัฐมนตรีเข้ามาแล้ว ขั้นตอนต่อไปนายกรัฐมนตรีต้องเดินหน้าขับเคลื่อนการทำงานกันอย่างเต็มที่ พร้อมกับแถลงนโยบายต่อรัฐสภา.
แห่สมัคร สปช.ทุกวัน
สำหรับความคืบหน้าของการสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปชาติแห่งชาติ (สปช.) เป็นวันที่ 3 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตั้งแต่เวลา08.30น บรรยากาศ ในการสมัคร สปช.แม้จะเป็นวันหยุดราชการ กกต.ยังคงเปิดให้องค์กรนิติบุคคลได้เสนอชื่อเข้ามาได้ ช่วงเช้าค่อนข้างเงียบเหงา
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00น. นายบุญเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต. แถลงสรุปผลการเปิดรับสมัครนิติบุคคลเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นวันที่สาม ว่า ตั้งแต่เวลา 08.30น.ถึง 16.30น. มีผู้เข้ารับการสรรหาทั้ง 11 ด้าน โดยมาสมัครและส่งเอกสารด้วยตนเอง 15 คน ส่งทางไปรษณีย์ 4 คน รวม 19 คน โดยแบ่งเป็นด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 1 คน ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 2 คน ด้านการปกครองท้องถิ่น 2 คน ด้านการศึกษา 4 คน ด้านเศรษฐกิจ 1 คน ด้านพลังงาน 1 คน ด้านสังคม 6 คน และด้านอื่น 2 คน ที่เหลือยังไม่มีผู้เข้ารับการสมัครเพิ่มเติมในวันนี้ คือ ด้านการเมือง ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และด้านสื่อสารมวลชนสำหรับการรับสมัครในส่วนของจังหวัด 12 คน รวม 31 ซึ่งเมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) มียอดมีตกค้างอยู่ 2 คน เพราะฉะนั้นรวม 11 ด้าน ตั้งแต่วันที่ 14-16ส.ค. มีผู้สมัคร 78 คน ในส่วนของจังหวัด 144 คน ยอดรวมทั้งหมด 222 โดยขณะนี้สามารถจำแนกตามเพศได้ ดังนี้คือ เพศชาย 203 คน เพศหญิง 19 คน จำแนกตามช่วงอายุ 35-45ปี 20 คน อายุ 46-55ปี มี 57 คน อายุ 56-65ปี 93 คน และอายุเกิน65ปี 52 คน และจำแนกตามวุฒิการศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 31 คน ปริญญาตรี 70 คน ปริญญาโท 96 คน และปริญญาเอก 25 คน
“ลีน่าจัง”บอกอยากฆ่าตัวตาย
ต่อมาเวลา10.15น.นางลีน่า จังจรรจา หรือ ลีน่าจัง หัวหน้าพรรคมหาประชาชน ได้เดินทางมาขอเอกสารการสมัคร สปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมคืนยืนยันว่าไม่ได้มาขัดขวางการรับสมัคร สปช.ครั้งนี้แต่อย่างใดโดยพูดด้วยเสียงสะอื้นว่าไม่สมัครแล้วเพราะขาดคุณสมบัติ เนื่องจาก กกต.มีระเบียบว่าผู้ที่มาสมัคร ต้องไม่เคยโดยเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง ซึ่งตนโดน กกต.ให้ใบแดงเมื่อวันที่ 15 ส.ค.จากการลงสมัครส.ว.ครั้งที่ผ่านมาทำให้รู้สึกเครียดมาก จนเมื่อคืนวันที่15 ส.ค. คิดอยากฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่ทำ เพราะกลัวเจ้าหน้าที่ กกต.จะลำบากเพราะจะถูกกล่าวว่าทำให้ตนต้องฆ่าตัวตาย จึงอยากพบ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต.ที่จะลงมาแถลงข่าวเพื่อขอพูดคุย โดยได้นั่งขวางประตูทางเข้าห้องรับสมัครบุคคลเป็นสปช.
และเมื่อนายภุชงค์ ได้เดินทางมาถึงได้พูดคุยกับนางลีน่าจังและได้ชี้แจงให้ทราบถึงกรณีคุณสมบัติว่ายังไม่ขาด ต้องรอศาลฎีกาฯชี้ขาดก่อน และไม่ต้องขอเอกสารคืนเพราะจะมีหมายเหตุรายงานให้ทาง คสช.และคณะกรรมการสรรหาฯได้รับทราบข้อมูล
ชพน.ส่ง’บิ๊กเยิ้ม’นั่งสปช.
ขณะที่ นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษาโฆษกพรรคชาติพัฒนากล่าวว่าพรรคชาติพัฒนาให้ความสำคัญกับนโยบายการปฎิรูปประเทศ พร้อมที่จะนำเสนอข้อเสนอแนวคิดในการปฎิรูปประเทศดังนั้น นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาได้เสนอชื่อพลเอก ธวัชชัย สมุทรสาคร เป็นตัวแทนของพรรคชาติพัฒนาเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติโดยพล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ทำงานในหน้าที่อยู่พื้นที่ภาคอีสานมาโดยตลอด เคยเป็นผู้สมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ที่เหมาะสมในการจะเข้าไปทำหน้าที่ในสภาปฏิรูป เพื่อร่วมกันหาทางออกที่ยั่งยืนให้กับประเทศด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ธวัชชัย ยังเป็นผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)แต่ขาดคุณสมบัติลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ปีและได้ยื่นลาออก พร้อมประกาศจะเข้ามาเป็น สปช.ด้วย
ถกงบ58ตั้งนายกฯตามกำหนด
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คสช.ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกระบวนการในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ในการพิจารณาร่างงประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2558 รวมถึงกระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีว่าเชื่อว่ากระบวนการต่างๆไม่มีความล่าช้า ยังเป็นไปตามที่กำหนดเพราะ คสช.ได้กำหนดเผื่อเวลาไว้แล้ว อย่างที่หัวหน้า คสช.ระบุจะมีรัฐบาลได้ในเดือนก.ย.อาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้แต่พูดให้ยาวไว้ก่อน เพราะมีตัวแปรหลายอย่าง นอกการควบคุมของเรา อะไรที่เกี่ยวกับการนำความกราบบังคมทูลเกล้าฯหรืออะไรที่เป็นมติในคนหมู่มาก เอาแต่ใจ เราคิดไม่ได้แต่อยู่ช่วงเวลาที่ได้กำหนดไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี