'กกต.-มท.'แจงแนวสรรหาสปช. ย้ำไร้ล็อคเปิดกว้างให้ปชช.ร่วม
วันพฤหัสบดี ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557, 14.22 น.
Tag :
21 ส.ค. 57 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย นายประภาศ บุญยินดี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) เป็นประธานการประชุมชี้แจง เรื่อง การสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ร่วมกับ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต. เพื่อชี้แจงแนวทางให้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด (ผวจ.) กรรรมการสรรหา สปช. ประจำจังหวัด ที่ประกอบด้วย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด นายองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้แทนสภาองค์กรชุมชนตำบลในระดับจังหวัด ประธานกรรมการเลือกตั้งจังหวัดร่วมรับฟังการประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร็นซ์
โดยนายภุชงค์ กล่าวว่า ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้ทาง กกต.มาประสานขอความร่วมมือกับทางปลัด มท. เพื่อทำความเข้าใจกับคณะกรรมการสรรหาสปช.(คกก.สปช.) 77 จังหวัด โดยขณะนี้ได้เลือกประธาน คกก.สปช.จังหวัดไปแล้ว มีผวจ. 69 จังหวัด ผู้พิพากษาศาลจังหวัด 4 จังหวัด และประธาน กกต.จังหวัด 4 จังหวัด ร่วมเป็นประธาน คกก.สปช.
“ในการมาชี้แจงครั้งนี้ทาง คสช.กำชับให้ชี้แจงถึงประเด็นกระแสข่าวการล็อคผลโหวตของ ผู้ว่าฯ ไม่เป็นความจริง ผมและ กกต.ได้รับรายงานมา ในส่วนของผู้ว่าฯไม่ได้เป็นประธานโดยตำแหน่ง เพราะในการคัดสรรครั้งนี้มีหลายภาคส่วนเข้ามาดำเนินการ แล้วยังมีภาครัฐและเอกชน โอกาสที่จะล็อคผลโหวตจึงเป็นไปไม่ได้ อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยระเบียบของพระราชกฤษฎีกา การสรรหา สปช. จังหวัด กำหนดให้คกก.สรรหา สปช. ทั้ง 5 ท่าน เป็นผู้ทาบทาม ซึ่งจะต้องมีคุณวุฒิ ประสบการณ์ ได้รับการยอมรับและมีประวัติการทำงานที่ดี แตกต่างกับการสรรหา 11 ด้าน ที่เปิดให้เฉพาะนิติบุคคลไม่แสวงหาผลกำไร เสนอชื่อผู้สมัครคัดสรร สปช. ถือเป็นการคัดกรองแล้วส่วนหนึ่ง” เลขาธิการ กกต. กล่าวและว่า
หากประชาชนท่านใดมีความประสงค์ที่จะเข้ามามีส่วนร่วม ขอให้แสดงเจตจำนงค์ โดยยื่นเอกสารเสนอชื่อได้ที่สำนักงาน กกต.จังหวัด เพื่อรวบรวมเสนอให้คณะกรรมการสรรหาจังหวัดพิจารณา เพื่อทำให้ปัญหาหมดไป ปัญหาต่อมาเรื่อง ภูมิลำเนาของผู้เสนอชื่อเข้าเป็น สปช. ของจังหวัด ที่จะต้องใช้ภูมิลำเนาในทะเบียนราษฎร์ เรื่องดังกล่าวตนได้ปรึกษากับ รองเลขาธิการ กกต. และคสช. ได้ดูปัญหาของข้อกฎหมาย สรุปได้ดังนี้ ส่วนแรกภูมิลำเนาให้ใช้ระเบียบบัญญัติของทะเบียนราษฎร์ ใครอยู่บ้านไหนเขตไหนก็เป็นภูมิลำเนานั้น ส่วนที่สองให้ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่น ข้าราชการให้ใช้ภูมิลำเนาที่ทำงานอยู่ และถ้าคกก.สรรหาประจำจังหวัด ตามประกาศ พรฎ.ว่า ด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ.2557 ห้าม คกก.สรรหา สปช. เสนอชื่อตนเอง และห้ามถูกเสนอรายชื่อ สปช.ในจังหวัดที่อยู่ในภูมิลำเนา แต่ถ้าจังหวัดที่ คกก.สรรหา มีภูมิลำเนาอยู่ไม่ได้อยู่ที่เดียวกับที่ได้เป็น คกก.สรรหา สปช. ประจำจังหวัด แล้วจังหวัดนั้นทาบทาม ย่อมสามารถถูกเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็น สปช. ได้ นอกจากนี้การยื่นใบสมัครของผู้เข้าเสนอชื่อ คัดเลือกเป็นสปช. ให้แต่ละจังหวัดจัดเตรียมเสนอจะรับใบสมัครเป็นที่ใด เช่น ในบางจังหวัดให้ยื่นที่สำนักงาน กกต.จังหวัด แต่บางจังหวัดอาจให้ยื่นความจำนงค์ แล้วให้ทางคกก. สรรหา สปช.ได้พิจารณา โดยกระบวนการเหล่านี้จะเห็นได้ว่า แต่ละจังหวัดมีความเป็นอิสระในการดำเนินการ
ด้านนาย ประภาศ กล่าวว่า จังหวัดต้องประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนว่า จังหวัดไหนจะยื่นใบสมัครที่ไหนได้บ้าง เพราะเท่าที่มีการหารือมาทางกระทรวง บางครั้งยื่นแล้วเจ้าหน้าที่ก็ไม่รับ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอความกรุณาผู้ว่าฯทุกจังหวัด กรุณาใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ให้ผู้สนใจยื่นสมัครได้ทราบทั่วกัน และต้องกำหนดให้ชัดเจน เพราะเรื่องการคัดสรร สปช. นี้ทาง คสช.ได้ย้ำมาว่า การคัดสรรขอให้มีความโปร่งใส มีความเป็นธรรม นำคนดีๆเข้ามาทำงาน อย่าเห็นแก่พรรคพวก นำคนที่ตั้งใจที่จะมาปฏิรูปประเทศ ต้องมีความประสงค์แล้วมีความรู้ เข้ามาทำงานให้กับประเทศไทยที่นิ่งอยู่นาน จึงอยากให้ประเทศเดินหน้าไปได้
“เราจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปีหน้า ถ้าไม่เตรียมคน เตรียมการบริหาร ต่างๆให้พร้อม เราคงจะลำบากที่จะไปแข่งขันหรืออยู่ร่วมกัน ขอความกรุณาให้ผู้ว่าฯสนใจในกรณีนี้เป็นพิเศษ” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมได้มี คกก.สรรหา สปช.จังหวัด ได้มีข้อซักถามต่างๆ เช่น ผู้พิพากษา หัวหน้าศาลจ.ภูเก็ต สอบถามในที่ประชุมว่า ตนได้รับหน้าที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา สปช.ของ จ.ภูเก็ต เข้าใจว่า มีหน้าที่สรรหาบุคคลเป็น สปช. แต่การที่มีผู้จะมาสมัครเองนั้น เขาไม่น่าจะมีสิทธิมาสมัครได้ ทางนายบุณยเกียรติ ตอบว่า ใน พรฎ.สรรหา สปช. ไม่ได้มีข้อกำหนดชัดเจนเกี่ยวกับการสรรหาระดับจังหวัดเหมือนส่วนกลาง จึงแล้วแต่จังหวัด เรากำหนดไม่ได้ มันเกินเลย พรฎ.สรรหา สปช. ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ คกก.สรรหาระดับจังหวัด แต่เพื่อเป็นการผ่อนคลาย ก็เปิดให้แสดงความจำนงค์ได้
ขณะที่คกก.สรรหา สปช. จ.นครราชสีมา ถามว่า ตามข้อมูลการประชาสัมพันธ์ของ กกต. ระบุว่า ต้องไม่มีการรับสมัคร และให้คณะกรรมการสรรหา 5 คนเพื่อเสนอต่อส่วนกลาง โดยทางจ.นครราชสีมา ใช้วิธีการสรรหา 3 เท่าของจำนวนที่ต้องการคือ มีการสรรหามาก่อน 15 คน แล้วจึงจะพิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 5 คน ตนคิดว่า การสรรหาต้องดำเนินการเลือกจากจำนวน 15 คนก่อน แต่มีบางจังหวัดที่เลือกมา 5 คนเลยตั้งแต่ต้น ตนสงสัยว่า ทางจ.นครราชสีมา ทำถูกต้องแล้วหรือไม่ นายภุชงค์ กล่าวว่า จ.นครราชสีมา ทำถูกต้องแล้ว แต่ควรเปิดให้มีการแสดงเจตจำนงเพิ่มอีกสักระยะ
อย่างไรก็ตามนายประภาศ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนจะให้กกต.รับไปหารือในทุกคำถามที่ประชุมวันนี้ แล้วตอบยืนยันเป็นหนังสือเวียนไปทุกจังหวัด เพื่อให้รับทราบและเข้าใจตรงกันเกี่ยวการสรรหา สปช.ของแต่ละจังหวัด