22 ส.ค.57 ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่าน นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น
เนื่องจากการที่ สนช.ทั้ง 194 คน ที่มีส่วนรู้เห็นและเห็นชอบเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ตามมาตรา 6 ที่เข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อนกัน เพราะ สนช.มาจากการคัดเลือกและถวายคำแนะนำของหัวหน้า คสช.ซึ่งใน สนช.ก็มีข้าราชการทหารในและนอกประจำการเกินกว่าครึ่ง ดังนั้น การที่ สนช.เสนอชื่อและให้ความเห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ก็ย่อมเข้าข่ายเกี๊ยเซียะ หรือผลัดกันเกาหลัง ถือได้ว่าการเข้ายึดและควบคุมอำนาจการปกครองประเทศของหัวหน้า คสช.เป็นเพียงเพื่อต้องการดำรงตำแหน่งนายกฯ
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้วางระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจหรือถ่วงดุลระหว่าง คสช.และนายกฯ ที่กำหนดให้ คสช.เสนอให้ สนช.มีมติทูลเกล้าฯให้นายกฯ พ้นจากตำแหน่งได้ ดังนั้น หากหัวหน้า คสช.และนายกฯ เป็นคนๆ เดียวกัน เมื่อนายกฯ ทำความผิดหัวหน้า คสช.จะเสนอชื่อตนเองให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ได้อย่างไร เพราะเป็นบุคคลเดียวกัน จึงเป็นการขัดต่อหลักการพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นอกจากนั้น แม้ว่าจะมีนายกฯ และ ครม.ขึ้นมาบริหารประเทศ แต่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวยังกำหนดอำนาจหน้าที่ของหัวหน้า คสช.ไว้ต่อเนื่องแทบทุกด้าน โดยสามารถรายงานให้ประธาน สนช.และนายกฯ รับทราบอำนาจในการสั่งการระงับหรือยับยั้งการกระทำใดๆ ดังนั้น ในเมื่อหัวหน้า คสช.และนายกฯ เป็นคนเดียวกัน จึงเปรียบเหมือนการส่งรายงานมือซ้ายไปให้มือขวารับ
"สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงร้องเรียนมาที่ผู้ตรวจ เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติหรือความเห็นชอบของ สนช.และการยินยอมเป็นนายกฯ หัวหน้า คสช.นั้น เป็นการฝ่าฝืนหรือดำเนินการขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวหรือไม่ โดยผมจะถอนคำร้องก็ต่อเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า คสช.เพื่อไม่ให้นั่งถ่างขาควบสองตำแหน่ง เช่นเดียวกับ คสช.คนอื่นๆ ที่อาจได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรี ก็ควรลาออกจาก คสช.ด้วยเช่นกัน" นายศรีสุวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่นๆ ของรัฐ ไม่ต้องเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.เนื่องจากมองว่าการดำเนินการดังกล่าวเข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อน ขัดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 และประมวลกฎหมายจริยธรรม
ด้าน นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน จะเร่งดำเนินการตรวจสอบคำร้องดังกล่าวโดยเร็ว ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เรื่องนี้ทุกคนก็ทราบกันดีว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น การพิจารณาต้องดูทุกแง่ทุกมุมด้วยความรอบคอบ โดยเฉพาะตัวรัฐธรรมนูญและเจตนารมณ์ของจริยธรรม ที่แตกต่างไปจากรัฐธรรมนูญปี 50 และขอยืนยันว่า แม้ขณะนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะอยู่ทำหน้าที่แค่เพียง 2 คน ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการพิจารณาและการทำหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะไม่ว่าจะมีผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่กี่คน งานต่างๆ ก็ยังสมารถเดินหน้าได้ตามปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี