ถกเดือดปฏิรูปพลังงาน
รุมซัดปตท.เสือนอนกิน
แจงอ้างอิงราคา‘สิงคโปร์’
ประกันความเสี่ยงผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จัดเสวนาถาม-ตอบ ปฏิรูปพลังงานเพื่อความปรองดองของชาติ โดยเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นถึงการปฏิรูปพลังงาน ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเสวนาครั้งนี้ มีหลวงปู่พุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งการเสวนาแบ่งเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงแรกเป็นการถามตอบ ช่วงที่สองเป็นการตั้งกระทู้ถามสด และช่วงสุดท้ายเป็นการแลกเปลี่ยนระดมความคิดเห็นถึงแนวทางแก้ปัญหาพลังงาน
ส่วนผู้เข้าร่วมเสวนา ประกอบด้วย ตัวแทนภาคประชาชน อาทิ หม่อมหลวง กรณ์กสิวัฒน์ เกษมศรี อดีตอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงานของวุฒิสภา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) รวมถึงนายวีระ สมความคิด พร้อมสมาชิกกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานที่ได้รับการปล่อยตัวจากกองปราบปราม เนื่องจากจัดชุมนุมสนับสนุนการปฎิรูปพลังงานเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้มาร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเวทีดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ยังมี ตัวแทนผู้บริหารจากบริษัทกลุ่มพลังงาน อาทิ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้บริหารผู้จัดการใหญ่ ปตท. เป็นต้น
ท่อก๊าซอ่าวไทยไร้ข้อสรุป
เปิดเวทีเสวนาช่วงแรก ตัวแทนภาคประชาชนตั้งคำถามถึงประเด็นที่มาของท่อก๊าซในอ่าวไทย การบริหารจัดการแบ่งแยกทรัพย์สิน ซึ่งระหว่างการอภิปรายทั้งสองฝ่ายมีการโต้แย้งกันอย่างหนัก หลายครั้งที่หลวงปู่พุทธะอิสระต้องขัดจังหวะการอภิปราย หากตัวแทนทั้งสองฝ่ายถามและตอบไม่ตรงประเด็น โดยเฉพาะช่วงที่นายวีระถามย้ำถึงทรัพย์สินท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ระบบขนส่งปิโตเลียมทางท่อก่อนการแปรรูป ปตท. มาจากภาษีประชาชนและอำนาจมหาชนได้ดำเนินการเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือไม่
ซึ่งตัวแทน ปตท.ยืนยันถึงคำวินิจฉัยและคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดว่า ท่อก๊าซดังกล่าวไม่ได้มาจากอำนาจของมหาชน แต่ฝ่ายตัวแทนภาคประชาชนพยายามถามว่าสรุปแล้วท่อก๊าซเป็นของประชาชนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การถามตอบในประเด็นนี้ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทำให้หลวงปู่พุทธะอิสระประกาศให้แต่ละฝ่ายนำหลักฐานที่มีมามอบให้ เพื่อยื่นให้ศาลพิจารณาตัดสินด้วยตัวเอง
จี้ปตท.เปิดชื่อบ.ซื้อแอลพีจีถูก
บรรยากาศการเสวนาเริ่มเข้มข้นขึ้น เมื่อตัวแทนภาคประชาชน ทั้งนายปานเทพ และหม่อมหลวงกรณ์กสิวัฒน์ถามถึงโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ที่ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีซื้อได้ในราคาถูกกว่าภาคขนส่งและภาคครัวเรือน รวมถึงรายชื่อบริษัทที่ซื้อก๊าซแอลพีจีในราคาถูก แต่ผู้บริหาร ปตท.ปฎิเสธว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากจะกระทบการทำธุรกิจของบริษัทเหล่านั้น
ขณะที่ คุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต กรรมการมูลนิธิเพื่อสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยชี้แจงว่า ราคาถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับราคาเม็ดพลาสติก โดยราคาเฉลี่ยที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีซื้อได้ประมาณ 22 บาท แต่หม่อมหลวงกรณ์ท้วงติงขึ้นว่าอยากให้อธิบายเหตุผลทำไมบางบริษัทซื้อถูกบางบริษัทซื้อแพง
อุ้มอุตฯจ่ายภาษี-ไม่ได้ชดเชย
จากนั้น พ.ท.แพทย์หญิง กมลพันธุ์ ชีวะพันธุ์ศรีได้ตั้งข้อสังเกตว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมีใช้อภิสิทธิ์ซื้อแอลพีจีเป็นวัตถุดิบในราคาถูก โดยอ้างว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่ม แต่มูลค่าเพิ่มเหล่านั้นตกเป็นกำไรของบริษัทเอกชนไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งนายปิยสวัสดิ์ชี้แจงว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์ เพราะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายสินค้า ขณะที่ราคาแอลพีจีที่ขายให้ภาคครัวเรือนและภาคขนส่งมีการชดเชยจำนวนมากแล้ว และในต่างประเทศที่เจริญแล้วจะไม่นำแอลพีจีมาใช้เป็นเชื้อเพลิงรถยนต์ เพราะสามารถนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่า
“มนูญ”ฉุนถูกบี้โวยไม่ใช่จำเลย
ต่อมา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำ พธม.ถามย้ำถึงปริมาณการใช้แอลพีจีของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีข้อมูลใช้แอลพีจี 37% แสดงว่าใช้มากกว่าภาคขนส่งและครัวเรือนใช่หรือไม่ นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระด้านพลังงานและอดีตผู้บริหารบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า 37% เป็นการใช้จากโรงแยกก๊าซและโรงกลั่นรวมกันแต่ถ้าใช้จากโรงแยกก๊าซอย่างเดียวก็พอกับภาคอื่น
ขณะที่ พ.ท.แพทย์หญิงกมลพันธุ์ ถามย้ำขึ้นมาว่าให้ตอบตรงๆว่าใช้มากกว่าภาคอื่นหรือไม่ ทำให้นายมนูญ มีอารมณ์แย้งกลับว่า อย่าถามแบบทนาย ตนไม่ใช่จำเลย ทำให้บรรยกาศตึงเครียด หลวงปู่พุทธะอิสระจึงขอให้สองฝ่ายสงบสติอารมณ์ นายปิยสวัสดิ์ จึงชี้แจงว่า จากตัวเลขก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีใช้ 37% ขณะภาคครัวเรือนและขนส่งใช้ 63% แสดงว่ามากกว่าภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอยู่แล้ว
ส่งกองทุนน้อยเพราะไม่ได้ชดเชย
หลังจากนั้น นายปานเทพ ได้สอบถามผู้บริหาร ปตท.เพิ่มเติมว่า ทำไมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงเพียง 1 บาท ทั้งที่ซื้อแอลพีจีเป็นวัตถุดิบได้ถูก ขณะที่ภาคขนส่งและครัวเรือนจ่ายเข้ากองทุนฯมากกว่าทั้งที่ซื้อในราคาแพงว่า นายปิยสวัสดิ์ชี้แจงประเด็นนี้ โดยน้ำว่า ราคาเฉลี่ยที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีซื้อแอลพีจีคือ 22 บาทต่อกิโลกรัม และไม่ได้รับการชดเชยจากกองทุนฯเหมือนภาคครัวเรือนและขนส่ง จึงเก็บเงินเข้ากองทุนเพียง 1 บาท ส่วนที่มีผู้เสนอให้ภาคครัวเรือนและขนส่งใช้แอลพีจีที่ผลิตได้ในประเทศ ส่วนภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีนำเข้าแอลพีจีมาใช้นั้น ถ้าจะทำก็ได้ แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล และต้องดูที่มาที่ไปของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่เริ่มตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ และรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
บิ๊กปตท.โวยถูกกล่าวหาเสือนอนกิน
ขณะที่น.ส.บุญยืน ศิริธรรม อดีต ส.ว.สมุทรสงคราม และนักต่อสู้เพื่อปฏิรูปพลังงานได้ลุกขึ้นสอบถาม ปตท.ที่สามารถกำหนดราคาซื้อเองได้จะเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่ ปตท.เป็นเสือนอนกินใช่หรือไม่ ทำให้นายปิยสวัสดิ์ยกมือขอชี้แจงทันทีว่า การกล่าวเช่นนี้เป็นการกล่าวหาใส่ร้าย ปตท. ทำให้เสียหาย พร้อมกล่าวว่า ปตท. ยังเป็นรัฐวิสาหกิจ จะทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล แต่ก็ต้องคำนึงถึงผู้ถือหุ้นด้วย เนื่องจากมีเอกชนถือหุ้น 49% จะต้องทำตามกฎหมายของตลาดหลักทรัพย์
บรรยากาศตรึงเครียดเสียงโห่ลั่น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อนายปิยสวัสดิ์ชี้แจงในประเด็นนี้ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น ทำให้บรรยากาศตรึงเครียดขึ้นเล็กน้อย เมื่อผู้เข้าร่วมงานตะโกนส่งเสียงโห่ร้อง ทำให้หลวงปู่พุทธะอิสระประกาศเตือนให้ทุกคนอยู่ในความสงบ พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ร่วมงาน เพราะกว่าจะเกิดงานนี้ได้ ก่อนหน้านี้ ได้ตกลงกับนายปิยสวัสดิ์แล้วว่าการมาร่วมเสวนาจะไม่ทำเหมือนเป็นจำเลยของสังคมในที่นี้
“วีระ”ตอกหน้าถามใครถือหุ้นปตท.
ด้าน นายวีระ สมความคิด ได้ลุกขึ้นถามผู้บริหารบริษัทพลังงานว่ามีใครถือหุ้น ปตท. บ้าง นายปิยสวัสดิ์ยอมรับว่า ตนถืออยู่ 4,400 หุ้น แต่ไม่ใช่ข้อห้าม เพราะไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมือง เพียงแต่ถ้าจะซื้อขาย ต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์ ระหว่างนั้นหม่อมหลวง กรณ์กสิวัฒน์ ถามเพิ่มเติมว่าใครถือหุ้นบริษัทในเครือ ปตท.ด้วยบ้าง มูลค่าหุ้นทั้งหมดเท่าไหร่ นายปิยสวัสดิ์กล่าวต่อว่า ขอไปตรวจสอบก่อน และจะส่งรายละเอียดให้ภายหลัง ขณะที่นายไพรินทร์กล่าวว่า สามารถเปิดดูได้ในรายงานประจำปีของ ปตท.หรือเข้าไปดูในเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายวีระ ได้ถามย้ำว่า แสดงว่ามีจำนวนมากใช่หรือไม่ ทำให้ผู้เข้าร่วมเสวนาส่งเสียงฮือฮา จนหลวงปู่พุทธะอิสระต้องห้ามปราม และถามแทนภาคประชาชนว่าใครมีหุ้นปตท.บ้างขอให้ยกมือ ปรากฏว่า ทั้งนายปิยสวัสดิ์และนายไพรินทร์ยกมือ หลวงปู่พุทธะอิสระจึงบอกให้ส่งรายละเอียดมาให้ภายหลัง
อ้างค่าขนส่งเหตุส่งออกเบนซินถูก
ต่อมา มีการซักถามในประเด็นการส่งออกน้ำมันเบนซินและน้ำมันเตาราคาถูกกว่าราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทย ซึ่งนายปิยสวัสดิ์ชี้แจงว่า การส่งออกน้ำมันเบนซิน เพราะระยะหลังผู้ใช้รถยนต์หันไปใช้แอลพีจี เอ็นจีวี หรือน้ำมันดีเซลมากขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 20 ล้านลิตรต่อวัน มีเหลือส่งออกแต่เป็นเพียงส่วนน้อย ส่วนข้อมูลว่าส่งออกเท่าใด ไปที่ไหน ไปดูข้อมูลได้ที่กรมศุลกากร ส่วนราคาส่งออกอยู่ที่ 20 บาทต่อลิตร ถูกกว่าราคาขายในประเทศ เพราะต้องเสียค่าขนส่งและไม่รวมภาษี
รับกำไรปตท.แสนล./ปีอ้างส่งรัฐด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การเสวนาช่วงบ่าย เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเสนอทิศทางปฎิรูปพลังงานและซักถาม โดยมีผู้สอบถามถึงกำไรของ ปตท.แต่ละปี ซึ่งนายไพรินทร์ยอมรับว่า ปตท.มีกำไรปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะนำไปปันผลให้ผู้ถือหุ้น 40% และรัฐบาลก็ถือหุ้น ปตท. อยู่ 67% ฉะนั้น เงินกำไรของ ปตท. ก็จะเข้ารัฐด้วย
อิงราคาสิงคโปร์ประกันผู้บริโภค
ส่วนประเด็นการตั้งราคาจำน่ายน้ำมันที่อิงราคาตลาดสิงคโปร์ โดยบวกค่าขนส่ง ค่าน้ำมันหกหล่นสูญหาย ค่าประกัน ซึ่งถือเป็นต้นทุนเทียมนั้น นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระด้านพลังงานและอดีตผู้บริหารบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ราคาที่ตั้งตามตลาดสิงคโปร์ เป็นแค่ราคาอ้างอิง
ซึ่งหลวงปู่พุทธะอิสระถามต่อว่า เป็นราคาที่เก็บจริงด้วยใช่หรือไม่ นายมนูญก็ยอมรับว่าเก็บจริง เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายเทียม
หลวงปู่พุทธะอิสระจึงแย้งขึ้นว่า เราไม่ได้ซื้อน้ำมันจากสิงคโปรไม่ใช่หรือ นายมนูญระบุว่า เราซื้อน้ำมันจากตะวันออกกลาง แต่เราไม่ตั้งราคาตามต้นทุน เพราะเป็นการประกันความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการ แต่เราตั้งตามราคาสิงคโปร์ เพื่อประกันความเสี่ยงให้ผู้บริโภค หลวงปู่พุทธะอิสระจึงกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้น หากจะคิดราคาน้ำมัน ขอให้ดูว่าถ้าน้ำมันที่นำเข้าจากต่างประเทศก็ตั้งราคาตามต่างประเทศ แต่น้ำมันที่ผลิตในประเทศก็ตั้งราคาตามต้นทุนในประเทศได้หรือไม่ ไม่ต้องบวกอะไรเพิ่มอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนั้น ผู้ร่วมเสวนายังมีข้อเสนอให้ยกเลิกกองทุนน้ำมัน สำหรับการจัดการหนี้ในกองทุนฯที่มีอยู่ขณะนี้ ขอให้ภาคปิโตรเคมีปรับเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 1 บาทเป็น 5-10 บาทต่อกิโลกรัม เสนอให้กลุ่มพลังงานเปิดเผยสัญญาสัมปทานทั้งหมด ในฐานะเจ้าของพลังงานตัวจริง โดยเฉพาะ ปตท. เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ เป็นต้น ซึ่งหลวงปู่พุทธะอิสระกล่าวว่า จะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมดให้ คสช.รับทราบและพิจารณาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี