ย้อนรอยมหากาพย์ไมค์ทองคำ! ชี้แจง-ตรวจสอบ-ปิดท้ายเลิก!!
วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557, 13.57 น.
Tag :
16 ก.ย. 57 จากกรณีการจัดซื้อไมโครโฟนสำหรับห้องประชุมภายในทำเนียบรัฐบาลที่มีราคากว่า 1.4 แสนบาท จนกระทั่งหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ว่าการจัดซื้อไมค์ดังกล่าวว่ามีราคาแพงเกินจริง และตั้งข้อสังเกตุว่าอาจเกิดการทุจริตในการจัดซื้อ กระทั่งถูกผู้ใช้งานเว็บไซต์พันทิป (เว็บบอร์ดออนไลน์ชื่อดัง) นำข้อมูลเกี่ยวกับราคาของไมค์ชุดดังกล่าวออกมาเปิดเผย จนส่งผลเดือดร้อนถึงผู้ที่เกี่ยวข้อต้องออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวกันอยากมากมาย
โดยนายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ออกมาชี้แจงถึงการจัดซื้อไมโครโฟนว่า เรื่องระบบเสียงและระบบควบคุมการประชุม ทางกรมได้ให้บริษัท อัศวโสภณ เข้ามาดำเนินการปรับปรุง อีกทั้งได้ประมาณการไว้ว่าจะใช้ทั้งหมด 181 ตัว อยู่ในห้องประชุม 501 จำนวน 100 ตัว และห้องประชุม 301 จำนวน 56 ตัว ห้องประชุม 302 จำนวน 25 ตัว แต่ปรากฏว่า จะใช้เพิ่มอีก 11 ตัว ซึ่งต้องมาเจรจากัน โดยได้ตั้งราคากลางของทั้งระบบเสียง ระบบควบคุมการประชุม และระบบไฟไว้ที่ 69 ล้านบาท ซึ่งจะต้องต่อรองให้อยู่ในกรอบ 69 ล้านบาท เพราะได้รับนโยบายจากพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาว่า ต้องทำงานให้ได้งานที่ดีและราคาเหมาะสม
ต่อมาได้อกอมายอมรับว่าราคากว่า 1.4 แสน บาทนั้นเป็นเพียงราคาประมาณการที่ตั้งขึ้นเพื่อขออนุมัติงบยังไม่ใช่ราคาจริง แต่เมื่อมีการต่อรองราคาแล้ว ได้ข้อสรุปจัดซื้อในราคา 94,250 บาท นอกจากนี้ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้า ร้อยละ 15 ตามที่ปรากฎเป็นข่าว เพราะยังไม่มีการลงนามในสัญญากับเอกชน แต่ยอมรับว่า บริษัทเอกชนได้ดำเนินการติดตั้งแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบการใช้งาน ส่วนเหตุผลในการจัดซื้อไมโครโฟนรุ่น DCNM-MMD ของบริษัท Bosch Security System เนื่องจากเป็นรุ่นล่าสุด และมีคุณภาพดีที่สุดในโลก ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานราชการใดในประเทศไทยติดตั้ง
ด้านม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของสำนักเลขาธิการนายรัฐมนตรี กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้รับผิดชอบ ที่ต้องเจรจาให้ราคาต่ำสุด พร้อมย้ำว่า ทั้งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) และกรมโยธาธิการและผังเมือง มีความตั้งใจมุ่งมั่นทำงาน คงไม่กล้าทำอะไรที่ทุจริตคตโกง
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบทั้งในเรื่องขั้นตอนและราคา โดยทางคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) ได้เข้าตรวจสอบและได้รับข้อมูลเพิ่มเติม
ด้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ได้ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าว พร้อมกับตั้งคำถามว่า ควรบอกว่าหน่วยงานนี้มีงบฯเท่าไหร่ จะซื้ออะไร สื่อจะได้ไม่ต้องแอบซ่อนคุยกับอธิบดีกรมโยธาและผังเมือง ซื้อไมค์มาเกินราคาตั้งเท่าตัว ไมค์ที่ใช้สำหรับในสวรรค์ชั้นฟ้า เพราะราคามันก็เป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไป สื่อหลายสำนักก็ชี้ให้เห็นตั้งแต่แรกแล้วว่า มันอยู่ในเว็บไซต์แต่แรกแล้วจะต้องปิดทำไม
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ (ปปช.) ก็ได้ออกมาเปิดเผยเช่นเดียวกันว่า ได้มีผู้ร้องเรียนแล้ว คือ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การสมคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โดย ปปช.มอบหมายให้ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ปปช.ดำเนินการเรื่องดังกล่าวเมื่อมีผู้ร้องเรียนมาแล้วเรื่องก็ต้องเข้าสู่ระบบตรวจสอบและไต่สวนต่อไป ซึ่งจะขอข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง หากตรวจพบมีการทุจริตจริง จะต้องดำเนินคดีผู้กระทำผิด
ต่อมานายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ยังได้ออกมาย้ำว่าร่างสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้วและวันนี้ (16 ก.ย.) ตนจะลงนามให้เสร็จโดยไม่รอผลการตรวจสอบ เพราะคตร.ไม่ได้บอกให้รอ หลังจากนั้นจะเริ่มตรวจรับงาน โดยใช้เวลา 3-4วัน คาดว่าวันที่ 19 ก.ย. ก็จะเรียบร้อยและพร้อมจะประชุม ครม.ในวันที่ 23 ก.ย. ต่อไป
ล่าสุดนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติคนที่ 2 เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้ คตร.ตรวจสอบกรณีไมโครโฟนห้องประชุมครม.แพงเกินจริงว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สังคมจับตามอง ซึ่งเชื่อว่าในการประชุม สนช.วันนี้(16 ก.ย.) หรือ 18 ก.ย. 57 อาจจะมีสมาชิกการหยิบมาหารือในที่ประชุม และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับภาพลักษณ์ต่อความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี