“บิ๊กตู่”เล็งจัดครม.สัญจร
ทัวร์ทุกภาค
ซัดกริชสุดา”อีนี่”ใส่ร้าย
ยืนยันทหารไม่เคยทารุณ
สั่งการบ้านหน่วยราชการ
ห้ามโกง-ยึดหลักพอเพียง
ประเมินผลงานทุก3เดือน
ส่งฟ้อง”เสธ.หยอย”ชุดดำ
เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงและมอบนโยบายรัฐบาลในภาพรวม แก่หัวหน้าส่วนราชการ ระดับปลัดกระทรวง อธิบดี รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และผู้บัญชาการเหล่าทัพ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนก็มีความพอใจที่เห็นข้าราชการมีศักดิ์ศรีในการทำงาน และมาร่วมกันทำงานกับรัฐบาลมากขึ้น แต่การทำงานของภาครัฐ ขอให้ข้าราชการทุกระดับ ต้องระวังในเรื่องปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมากขึ้น เพราะประชาชนทุกคนต่างจับตามองเราอยู่ เราทำอะไรแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว เพราะพลาดเมื่อไหร่ก็จะโดนเมื่อนั้น แต่บางอย่างก็มีเจตนาบริสุทธิ์ แต่ก็ต้องมีการดำเนินการเป็นขั้นตอน
กำชับขรก.อย่าอวดเบ่ง-จัดฉาก
และต่อไปนี้การสื่อสารกับประชาชนในระดับล่างถือเป็นสิ่งสำคัญ ข้าราชการทุกระดับต้องลงพื้นที่ พยายามเข้าถึงประชาชนให้มากขึ้น ทำอะไรต้องนึกถึงความรู้สึกของประชาชน เพราะถ้าไม่เดือดร้อนเขาคงไม่มาเวลาลงพื้นที่ขอให้ทำตัวให้เล็กลง อย่าจัดฉาก เวลาตนไปไหนไม่ ต้องติดป้ายต้อนรับนายกฯ หรือให้ประชาชนถือป้าย ไม่ต้องมีรูป ไม่ต้องมีโปสเตอร์ ต้องขอบคุณที่มีน้ำใจ แต่ตนขอเปลี่ยนค่านิยมใหม่ นำเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า
ทั้งนี้ ในการทำงานอยากให้ยึดหลักการทำงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทุกคนต้องระลึกและนำไปใช้อยู่เสมอ
คุมเข้มงบจัดสัมมนา-ไปตปท.
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนการใช้งบประมาณอย่างมีคุณภาพ และบูรณาการ ต้องมีการคำนวนอย่างดี และให้งบประมาณลงไปถึงประชาชนอย่างทั่วถึงมากที่สุดตามลำดับความเดือดร้อน เพราะงบประมาณมีจำกัด ขอให้พยายามปรับปรุงงบประมาณที่ใช้ในการจัดสัมมนาต้องปรับปรุงใหม่โดยจัดในประเทศเป็นหลัก ไปต่างประเทศเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ขู่จัดการขรก.เบ่งอัพเกรดที่นั่ง
“ต่อไปนี้เวลาไปดูงานต้องสรุปผลว่าไปแล้วได้อะไรกลับมา ให้นายกฯหรือรัฐมนตรีประจำกระทรวงทราบ และประเภทอัพเกรด ผมเห็นเอกสารถึงการท่าฯขออัพเกรดบุคคลขึ้นชั้นธุรกิจนั่งแถวหน้า ที่เหลือนั่งชั้นสอง ซึ่งทำไม่ได้ เดี๋ยวผมจะนำรายชื่อให้หน่วยงานลงโทษ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ให้ส่งการบ้านตรวจทุก3เดือน
และว่าขอให้ทุกกระทรวงรายงานผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติภายในระยะเวลา 3 เดือน โดยจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคอยตรวจสอบการใช้งบประมาณของทุกกระทรวง ที่สำคัญห้ามเหลืองบค้างท่อโดยไม่มีแผนงานรองรับ เพราะจะเป็นการแสดงให้เห็นว่าใช้งบประมาณไม่เป็น ปีต่อไปก็จะต้องมีการตัดงบ
โวแก้ขัดแย้งแล้ว90เปอร์เซ็นต์
ส่วนปัญหาความขัดแย้งของคนในชาตินั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สามารถลดปัญหาความขัดแย้งไปได้ถึง 90% แล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาความเหลื่อมล้ำ และพวกทำลายสถาบัน ซึ่งต้องร่วมกันแก้ปัญหา ทั้ง 3 ฝ่ายคือภาครัฐ เอกชนและประชาชนต้องรับฟังปัญหาและเร่งแก้ไข ไม่ปล่อยให้บานปลาย
ขู่รร.ปล่อยเด็กตีกันปิดทันที
นายกฯยังกล่าวถึงปัญหาเรื่องนักเรียนตีกันว่า ขอฝากไว้ตรงนี้เลยว่าต่อไปนี้หากเกิดปัญหานักเรียนตีกัน จะสั่งให้ปิดคณะที่มีปัญหาทันที และเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีปัญหาที่โรงเรียนก็จะปิดโรงเรียนและทุกคนจะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนการจัดซื้อไมค์โครโฟนนั้น ต้องสืบสวนกันต่อไปให้ถูกต้องเหมาะสม ดูที่เจตนา ตนยังไม่ว่าใครถูกใครผิด ไม่เข้าข้างใครอยู่แล้ว
สุดทนซัด”อีนี่”ใส่ร้ายทหาร
นอกจากนี้ในช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการประกาศกฏอัยการศึกว่า ตั้งแต่ประกาศมาใช้แค่มาตราเดียวยังไม่เคยไปฆ่าใครสักคน อย่าไปเชื่อมันโกหก มีอย่างที่ไหนเป็นผู้หญิงหน้าตาก็ดูดี บอกว่าถูกควบคุมตัว 7 วัน แล้วเอาหัวไปกดน้ำ มันดูหนังมากไปรึเปล่าอีนี่ใครจะไปทำว่ะ ผู้ชายด้วยกันยังไม่อยากทำเลยทำไม่ได้ เพราะเราเป็นคนไทยพุทธ ใครจะไปทำคุณจับมาควบคุมตัวไม่ได้ให้อดข้าวอดน้ำ วันนั้นหน้ามันผ่อง สามีมันก็ไปอยู่ด้วย สั่งให้กลับบ้านมันก็ไม่กลับขอให้อยู่ต่อ กลับบ้านอันตราย แต่เวลาไปพูดไปบอกว่าถูกทรมานถูกทำร้าย ตอกเล็บไอ้บ้าเอ้ยใครจะไปตอกเล็บมันว่ะ นี่คือสิ่งที่พูดไม่จริง แต่สังคมต่างชาติมันรับ ตนก็เบื่อตรงนี้
เตรียมเดินทางเยือนเพื่อนบ้าน
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการเดินทางเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการหลังรับตำแหน่งนายกฯว่า จะเริ่มเดินทางในช่วงเดือน พ.ย.ซึ่งกำลังรอคณะทำงานเสนอมาว่าจะให้ไปประเทศใดเป็นประเทศแรกเพราะประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ ก็อยากให้ไปเป็นประเทศแรกทั้งนั้นส่วนจะเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสหรัฐฯเชิญมาไปก็ไป
ปรับรายการ’คืนความสุขฯ’
ส่วนรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ที่ประชาชนสะท้อนว่านายกฯ ใช้เวลาพูดนานเกินไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าเดี๋ยวครั้งหน้าจะพูดแค่ 3 คำ แต่ยังไม่บอกว่าจะปรับรูปแบบรายการอย่างไร ต้องรอติดตามรอดู บอกเขาเดี๋ยวรู้หมด ถ้ารู้ก็ไม่ตื่นเต้น หรือจะให้ยืนที่นี่อย่างเดียว
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการคัดเลือกรายชื่อสมาชิกสภาปฏิรูป(สปช.) ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เสนอรายชื่อขึ้นมา ใจเย็นๆ ทุกอย่างเดินทุกวัน พูดทุกวัน สั่งทุกวัน ทำงานทุกวัน
ปล่อยมุกเล็งจัดครม.”พเนจร”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแนวคิดจะนำครม.ลงประชุมในพื้นที่ต่างจังหวัดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีแผนอยู่ พร้อมย้อนถามว่าจะให้ใช้ชื่อ “ครม.พเนจรเอาไหม” เพราะค่ำไหนก็นอนนั่น เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่ใช้คำว่าทัวร์นกขมิ้น พล.อ.ประยุทธ์ “ไม่เอา ไม่ใช้ชื่อซ้ำ” เมื่อถามว่า หรือนายกฯจะใช้คำว่า ทัวร์ทหาร พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่ทำท่าสะดุ้งก่อนอุทานว่า “ฮึ้ย!”เท่านั้น เมื่อถามอีกว่าตกลงนายกฯจะใช้ชื่อครม.พเนจรใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ หันมาตอบว่า“เฮ้ยไม่เอาพูดเล่น”
ลั่นไปเยี่ยมประชาชนทุกภาค
เมื่อถามว่า นายกฯจะเริ่มประชุมครม.สัญจรได้เมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องคุยกันก่อน แต่จะไปเยี่ยมประชาชนทุกภาค เพราะทุกคนก็อยากให้ตนไปดูแลเขา วันนี้ได้ให้รัฐมนตรี และปลัดกระทรวงไปแก้ปัญหาให้ได้ก่อน เพราะสิ่งสำคัญตนไม่อยากให้คนมาลำบากในกทม.ให้ทุกคนไปแก้ปัญหากันเองให้ได้ก่อน อย่างเรื่องที่ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม ถ้าแก้ไม่ได้รัฐบาลก็จะรับมาแก้ไข
ไม่มีศรัตรู-ไปไหนก็ได้หมด
เมื่อถามว่า นายกฯจะไปภาคอีสานก่อนเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไปทั้งหมดทั้งเหนือ อีสาน ใต้ เพราะเป็นประเทศไทยทั้งหมดไม่ว่าเหนือ อีสาน ใต้เป็นคนไทย ตนก็เป็นคนไทย และตนก็ไม่ได้เป็นศัตรูกับคนไทย อย่ามองว่าตนอยู่ข้างโน้นข้างนี้ คนไทยถ้าเขาใจร้ายกับตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะตนดีกับเขา ต่อข้อถามว่านายกฯคิดว่าวันนี้มีศัตรูเยอะไหม พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มี ถ้ามีรปภ.รับผิดชอบก็แล้วกัน”
ยันไม่ปิดกั้นการทำงานของสื่อ
เมื่อถามว่า นายกฯจะปิดกั้นการทำงานของสื่อมวลชนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปิดกั้นตรงไหน สื่อเองต้องเขียนทั้งสองด้าน อันไหนเป็นเหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นผมไม่ว่าเพราะแย้งไม่ได้ อย่างเรื่องมาตรการที่รัฐต้องทำอย่างไร หรือเรื่องนายกฯสั่งอะไร ทำถึงไหนแล้ว ถ้าไม่ทำก็ถามว่าทำไมไม่ทำ ต้องเขียนทั้งสองด้าน ถ้าเขียนตีด้านเดียวแล้วตีเข้าไป อันเก่าก็ไม่ได้แก้อันใหม่ก็โดนโจมตีก็ไม่มีใครอยากทำงาน”
เร่งประสานตามจับตัว”กริชสุดา”
เมื่อถามเรื่องการติดตามตัวน.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือ เปิ้ลสหายสุดซอย แกนนำคนเสื้อแดง ที่เคลื่อนไหวต่อต้านคสช.ว่า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปมาก่อนว่าอยู่ในขบวนการไหน ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมนายกฯไม่เจรจากับหัวหน้าใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “ใครล่ะหัวหน้า”
ถามว่าอย่างนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่เคลื่อนไหวมานานทำไมยังติดตามตัวมาไม่ได้ทั้งที่อยู่ในประเทศไม่ไกลจากเรา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่ประเทศไหน แล้วจะส่งตัวให้เราไหม เมื่อถามว่า ประสานต่างประเทศเพื่อขอส่งตัวผู้ที่เคลื่อนไหวกลับมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ขอความร่วมมือไปแล้ว เขาให้ความร่วมมือทุกอย่างแต่ยังไม่ได้ตัวต้องใช้เวลา
กำลังหาช่องปิดเฟชบุ๊ก”จารุพงศ์”
ต่อข้อถามว่า นายจารุพงศ์ ใช้หน้าเฟซบุ๊กเสรีไทยเคลื่อนไหวจะมีการดำเนินการปิดกั้นได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พยายามใช้กฎหมายพยายามปิดอยู่ ไม่อยากจะใช้ความรุนแรง อยากให้กลับมา จะเห็นต่างอย่างไรตนรับได้ให้มาคุยกัน เพราะประเทศชาติจะเสียหาย อย่าไปขยายความให้เขาได้ไหม ขอแค่นี้ถ้าไม่ขยายความมันก็จบก็จุดไม่ติด
เมื่อถามว่า มีเผยแพร่ภาพตัดต่อที่มีประชาชนมานั่งไหว้นายกฯ ขณะเดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังติดตามอยู่ ต้องตามไปในขบวนการ ต้องเอารูปมาดู เพราะเขาเปิดเฟซบุ๊กกันที่ต่างประเทศ
โชว์ลูกคอร้องเพลง”คืนความสุขฯ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์ นักข่าวได้ถามว่า นายกฯ ร้องเพลงคืนความสุขให้ประเทศได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ร้องได้ ไม่ร้อง ไม่มีดนตรี จากนั้นได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า แล้วหันกลับมาบอกว่า สื่อเป็นเสียงสิ ทันทีที่สื่อร้องพล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ร่วมร้องเพลงด้วยอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะโบกมือให้สื่อแล้วเดินขึ้นห้องทำงาน
โยธาฯลุ้นฟังผลสอบไมค์แพง
ด้านนายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาและผังเมือง กล่าวถึงคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ให้ยุติการซื้อไมค์ที่ถูกกล่าวหามีราคาแพงว่า ตอนนี้ตนขอรอผลการตรวจสอบของคตร.ก่อน แต่เบื้องต้นไดัมีการเก็บไมค์ไปแล้ว และหากผลคตร.มีความชัดเจนอย่างไรตนจะนัดแถลงข่าวอีกครั้ง ยืนยันไม่หนีแน่นอน และคาดว่าคตร.จะใช้เวลาพิจารณาเรื่องนี้ไม่นาน เพราะสังคมให้ความสนใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเก็บไมค์ไปแล้วในห้องประชุมจะทำอย่างไรเพราะครั้งหน้าจะใช้ห้องประชุม ครม.นายมณฑล กล่าวว่า กำลังพิจารณาไมค์เก่าอยู่ แต่ไมค์เก่านี้ใช้มา 8 ปีแล้ว และใช้ได้แค่การพูดคุยไม่เห็นหน้าตา แต่เมื่อมีคำสั่งให้ถอดตนก็ปฎิบัติตาม
คสช.นัดกระชับอำนาจ18ก.ย.นี้
ส่วน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการแต่งตั้งสมาชิกคสช.เพิ่มเติมครบ 15 คนว่า แม้จะมีการปรับเพิ่มตำแหน่งแต่ก็ยังคงโครงสร้างส่วนต่างๆดังเดิม อาทิ ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายสังคมจิตวิทยา ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และกองกำลังรักษาความสงบ ส่วนงานขึ้นตรงหัวหน้า คสช.และฝ่ายกิจการพิเศษซึ่งบุคคลากรแต่ละท่านจะเข้ามารับผิดชอบงานในแต่ละด้านที่สอดคล้องกับส่วนงานที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จะมีการนัดประชุม คสช.นัดแรกจากที่ได้ปรับเพิ่มบุคลากรเข้ามาในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ที่กองบัญชาการกองทัพบก
ส่งฟ้อง’เสธ.หยอย’คดียึดอาวุธ
ในขณะที่ตำรวจกองปราบ นำตัวพล.ท.มนัส เปาริก หรือ เสธ.หยอย อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 นายสมเจตน์ คงวัฒนะ นายจิราวัฒน์ อรชุนกะนายภคภูมิ โกศินานนท์ นายอภิชาติ หรืออัคคี พวงเพ็ชร นายพีรพงษ์ หรือธานินทร์ สินธุสนธิชาติ และนายวัฒนา หรือศิวะ ทรัพย์วิเชียร 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงคราม ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง เพื่อส่งฟ้องพร้อมสำนวนคดีดังกล่าว ต่ออัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี เป็นที่เรียยร้อยแล้ว
กระนั้นก็ตามยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีในคดีอีก4คนคือ นายจักรภพ เพ็ญแข นายจักรินทร์ เรืองศักดิ์วิชิต นายกฤษณะ ทัพไทย และนายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์
ยันเชื่อมโยงหาปืนให้ชายชุดดำ
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป.กล่าวว่า ว่าคดีนี้มีความสำคัญและเชื่อมโยงกับคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงอีกหลายคดี ซึ่งได้แยกคดีไว้แล้ว แต่มีความเชื่อมโยงถึงกัน
“ จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่ามีความเชื่อมโยงกันในเรื่องของการจัดหาอาวุธที่ถูกนำไปใช้ก่อเหตุนองกลุ่ม นปช.แต่ในส่วนของเส้นทางการเงินนั้น ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยง”พล.ต.อ.ประสพโชค กล่าว
ปปช.เปิดบัญชีสนช.3ตุลาคมนี้
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กล่าวภายกลังเข้าชี้แจงรายละเอียดการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)และข้าราชการการเมืองว่า ครม.ชุดนี้จะต้องชี้แจงบัญชีทรัพย์สินฯภายใน 30 วัน หลังจากเข้าถวายสัตย์ฯ เมื่อวันที่ 4 กันยายนซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ หลังจากนั้นทางป.ป.ช.จะเปิดเผยต่อสาธารณะชนภายใน 30 วัน ซึ่งไม่เกินวันที่ 2 พฤศจิกายนก็จะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดได้
ส่ง550สปช.ให้คสช.19ก.ย.นี้
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. แถลงถึงความคืบหน้าประชุมคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด 77 จังหวัดว่า วันที่ 17 กันยายน คณะกรรมการสรรหาสปช.ที่เหลืออีก 7 ด้าน จะหารือกันอีกครั้ง ถ้าแล้วเสร็จคาดว่าวันที่ 19 ก.ย.จะนำรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นสปช.ด้านละ 50 รายชื่อ เสนอ คสช.ได้
ระดับจังหวัดเฟ้นเสร็จแล้ว49จว.
ส่วนคณะกรรมการสรรหาสปช.ระดับจังหวัด ขณะนี้มีจังหวัดที่สามารถคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็นสปช.จังหวัดละ 5 คน ได้เรียบร้อยแล้ว 49 จังหวัด ส่วนที่เหลืออีก 28 จังหวัดนั้นจะทยอยประชุมไปจนถึงวันที่ 22 ก.ย.นี้ ดังนั้น คาดว่าในวันที่ 23 ก.ย.จะสามารถนำรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นสปช.ในระดับจังหวัดเสนอให้คสช.พิจารณาได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด
มหิดลให้"รัชตะ"เลือกเก้าอี้
นพ.วิจารณ์ พานิช นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล(มม.) กล่าวหลังประชุมสภา มม.ว่า ที่ประชุมใช้เวลาพิจารณากรณี นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน ไปดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข โดยที่ยังเป็นอธิการบดีมม.อยู่นานถึง 2ชั่วโมง ซึ่งการที่อธิการบดี มม.ได้รับแต่งตั้งเป็น รมว.ถือเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งของมหาวิทยาลัย นอกจากนั้นกรรมการสภา มม.2ท่าน คือ นายยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ ก็ไปเป็นรองนายยกฯและนายกฤษณพงศ์ กีรติกร ก็ไปเป็น รมช.ศึกษาธิการ แต่ทั้งสองคนได้ลาออกจากการเป็นกรรมการสภามหาลัยแล้ว
"กรณีของอธิการบดีเป็นที่สนใจของสังคมและประชาคมมม. อย่างมาก ที่ประชุมจึงได้หารือโดยยึดประโยชน์ของบ้านเมืองและการทำงานของมหาวิทยาลัยเป็นสำคัญ สุดท้ายจึงมีมติให้อธิการบดีใช้ดุลยพินิจด้วยตนเองว่า จะเลือกดำรงตำแหน่งใด เพียงตำแหน่งเดียวโดยให้เวลา 3 สัปดาห์ตามที่ขอไว้ เท่ากับว่าวันที่ 8 ตุลาคม นพ.รัชตะ ต้องตัดสินใจเลือก จากนั้นในการประชุมสภามม.วันที่15ตุลาคม จะนำผลการตัดสินใจเข้าหารือที่ประชุมอีกครั้ง" นพ.วิจารณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี