18 ก.ย.57 เมื่อเวลา 12.20 น.ที่ประชุม สนช.ได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การรับขนคนโดยสารทางถนนระหว่างประเทศ โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ได้กล่าวหลักการและเหตุผลสำคัญคือ โดยที่การรับขนคนโดยสารถนนระหว่างประเทศไทยและประเทศอื่นๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้มีการจัดทำข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมให้การกำหนดหลักเกณฑ์เรื่องสิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบของคู่สัญญาในสัญญารับขนคนโดยสารทางถนนระหว่างประเทศมีเอกภาพมากขึ้น อันจะช่วยลดอุปสรรคในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ดังนั้น จึงสมควรมีกฎหมายที่กำหนดสิทธิหน้าที่ ความรับผิดในเรื่องการรับขนคนโดยสารทางถนนระหว่างประเทศเป็นการเฉพาะ
ต่อมา ประธานในที่ประชุม ได้มีการพิจารณาร่างกฎหมายอีก 2 ฉบับ ที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน คือ ร่าง พ.ร.บ.รถยนต์ และร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางบก โดยร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ นายอาคม ได้กล่าวชี้แจงว่า เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ คือ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก คือ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน สมควรปรับปรุงบทบัญญัติทางกฎหมายเสียใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ที่มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก รวมทั้งเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการการตรวจสภาพรถให้ได้รับความเป็นธรรม และให้มีอัตราค่าธรรมเนียมและอัตราภาษีประจำปีของรถยนต์ชนิดต่างๆ อย่างเหมาะสม ตลอดจนเพื่อให้การควบคุมและการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ผลการลงมติปรากฏว่า ที่ประชุมได้มีการลงมติเห็นชอบรับหลักการร่าง พ.ร.บ. 3 ฉบับคือ พ.ร.บ.การรับขนคนโดยสารทางถนนระหว่างประเทศ คือ เห็นด้วย 150 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง , ร่าง พ.ร.บ.รถยนต์ คือ เห็นด้วย 138 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง และ ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางบก คือ เห็นด้วย 140 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง โดยร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ มีการตั้ง กมธ.ทั้งหมด 15 คน ใช้เวลาแปรญัตติ 7 วัน และมีระยะเวลาการทำงาน 30 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี