สวนยางเฮ!-รบ.โดดอุ้ม
ทุ่ม3.3หมื่นล.
ดันราคาเทียบเท่าตลาดโลก
ควักจ่ายช่วยไร่ละ2,520บาท
“ประยุทธ์”ดันวาระแห่งชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.)ครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบ โดยมีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ และม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ร่วมเข้าประชุมด้วย
ภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์แถลงว่า การประชุมวันนี้เป็นการหารือ 3 ส่วนร่วมกันคือ ภาครัฐ เอกชนและผู้ประกอบการ โดยนำปัญหาทั้งหมดมาพูดคุย ซึ่งตนกำหนดให้การแก้ปัญหาราคายางเป็นวาระแห่งชาติ และมีมาตรการแก้ปัญหาออกมาหลายแนวทางในระยะเร่งด่วน ระยะกลางและระยะยาว คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปีแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้นเป็นระบบ
ไฟเขียว4แนวทางอุ้มราคายาง
นอกจากนี้ ที่ประชุมเ ห็นชอบ 4 มาตราการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.)เสนอ ได้แก่ 1.เร่งรัดการใช้ยางในประเทศ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า 2.ผลักดันการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้สถาบันเกษตรกรรับซื้อยาง 3.สร้างตลาดการรับซื้อยางธรรมชาติ และ 4.ร่วมมือกับต่างประเทศกำหนดแนวทางบริหารจัดการยาง
ควักจ่ายชดเชยไร่ละ2,250บาทพล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาของรัฐบาล ระยะเร่งด่วนในการช่วยเหลือเกษตรกร มีทั้งการให้เงินชดเชย 2,520 บาทต่อไร่กับผู้ที่มาลงทะเบียน รวมถึง การให้เงินกู้ 5,000 ล้านบาทกับสหกรณ์ออมทรัพย์กองทุนสวนยางสงเคราะห์ ในการปล่อยกู้ รับซื้อยาง และให้ขยายประเภทสหกรณ์ในการรับซื้อยางด้วย โดยกระทรวงการคลังจะไปดูแลทำแผนเรื่องนี้
สั่งสำรวจพื้นที่ปลูกยางทั่วปท.
ขณะที่ระยะกลางและยาว จะควบคุมพื้นที่ปลูกยาง โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใช้ดาวเทียมสำรวจพื้นที่ที่ปลูกยางจริงๆมีเท่าใด รวมถึงการส่งเสริมการปลูกยาง การลดพื้นที่ปลูกปีละ 2.5 แสนไร่นั้น ก็คงต้องลด แต่ต้องหารือในรายละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งวางแผนบริหารจัดการผลผลิตยาง โดยตั้งศูนย์ผลิตภัณฑ์วิจัยยางพารา เพื่อนำไปสู่การยกระดับมูลค่าสินค้า ด้วยการใช้งานวิจัยมาสนับสนุนแปรรูปผลผลิตยางเพิ่มมูลค่ายาง ที่เราส่งไปเป็น 3 แสนล้านตันทุกปี
เตรียมประชุมไตรภาคี
นายกฯกล่าวอีกว่า ทั้งนี้หากเราเพิ่มมูลค่าการผลิตแล้ว มูลค่าสินค้าก็จะเพิ่มขึ้นอีก 3-4 เท่า เช่น ทำที่นอนยาง ทำถนน ซึ่งอาจเป็นการร่วมทุนกับต่างชาติในการแปรรูปเพิ่มมูลค่า นอกจากนี้ สัปดาห์หน้า ปลัดกระทรวงเกษตรฯ จะไปประชุมคณะกรรมการไตรภาคีกับประเทศผู้ผลิตยาง เพื่อให้ราคายางสอดคล้องกลไกตลาดโลก และอยู่ในราคาที่เกษตรกรรับได้
ย้ำต้องแก้ไขปัญหาทั้งระบบ
“ปัญหายางต้องแก้ทั้งระบบ วันนี้ เราลงรถไฟขบวนเดียวกันคือ รถไฟขบวนยาง ที่ต้องแก้ทั้งต้นทาง กลางทาง ปลายทาง จะไม่ให้ขบวนตกราง ทุกคนต้องไปด้วยกัน เป็นรถไฟสายด่วน ตอนนี้เท่าที่คุยเกษตรกร ต้องลดการกรีดยาง และตัดต้นยาง ชะลอปริมาณยาง รัฐบาลจะมีเงินอุดหนุนให้ ซึ่งเกษตรกรเข้าใจ”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ดันราคาเทียบเท่าตลาดโลก
ผู้สื่อข่าวถามถึงยางที่ค้างสต็อกอยู่จะปล่อยขายอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ต้องดำเนินการว่าควรจะขายหรือไม่ หรือจะขายเท่าไหร่ ก็ค่อยว่ากันอีกทีขึ้นอยู่กับราคาตลาด ตอนนี้ต้องทำให้ราคายางขึ้น แต่ตอบไม่ได้จะให้ขึ้นแค่ไหน ต้องรอดู
เมื่อถามว่า ตั้งราคายางที่เหมาะสมไว้ที่เท่าไหร่ นายกฯกล่าวว่า วันนี้ราคายางตลาดโลกอยู่ที่เท่าไหร่ ก็คงต้องอยู่ที่ประมาณนั้นก่อน แล้วค่อยๆขึ้นอีกทีที่หลัง อย่างน้อยไม่ให้ซื้อต่ำว่านั้นมาก เรื่องราคายางมันอ่อนไหวอย่าเพิ่งไปพูด
คุยม็อบยางแล้วพอใจเลิกชุมนุม
ส่วนการเคลื่อนไหวของเกษตรกรภาคใต้ 16 จังหวัด ที่นัดรวมตัวเคลื่อนไหวใหญ่ประท้วงให้รัฐบาลรับประกันราคายาง กิโลกรัมละ 70 บาทในวันที่ 8 ตุลาคมนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตัวแทนมาพูดคุยกับรัฐบาลแล้วว่า จะไม่มีการชุมนุม เพราะเข้าใจแนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาล ที่จะทำให้ราคายางดีขึ้น โดยจะแก้ทั้งระบบ
ไฟเขียว3.3หมื่นล.แก้ยางราคาตก
ด้านม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุม กนย.ว่า ที่ประชุม กนย.อนุมัติเงินช่วยเหลือเกษตรกรรวม 33,000 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนแรก 15,000 ล้านบาท ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)ปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรนำไปซื้อยาง เพื่อนำไปแปรรูป ซึ่งธ.ก.ส.จะให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร 5,000 ล้านบาทใช้รับซื้อยางมากขึ้น
ส่วนที่ 2 อีก 15,000 ล้านบาท ให้ธนาคารออมสินนำไปปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการยาง เพื่อส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยาง ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิต เช่น ถุงมือยาง เตียงนอนยาง และส่วนที่ 3 อีก 3,000 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิตสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ไร่ละ 2,520 บาท ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ยังจ่ายไม่หมด
“อุ๋ย”ยันราคาขยับ-อุบตปท.สั่งซื้อ
“ขอทุกคนสบายใจได้ว่าราคายางลดลงมาถึงจุดต่ำสุดกว่าต้นทุน และจากนี้ไปทุกคนสามารถไปขอสินเชื่อเพื่อซื้อยาง จากนี้ราคาจะปรับขึ้นแน่นอน เมื่อกำลังซื้อมากขึ้นก็จะทำให้ราคาในประเทศปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ เรากำลังหาคำสั่งซื้อพิเศษจากต่างประเทศ เพื่อทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งผมยังไม่เปิดเผยว่ามีประเทศใดสั่งซื้อบ้าง” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
ไม่เร่งระบายสต๊อก2.1แสนตัน
และว่า ส่วนสต๊อกยางขณะนี้มีอยู่ 210,000 ตัน ถ้าราคายางดีขึ้น เราก็นำออกมาขาย แต่ถ้ายังไม่ดี ก็เก็บไว้ได้ นอกจากนี้ จะจัดตั้งคณะอนุกรรมการอีก 1 คณะ เพื่อนำผลประชุมไปหารือต่อ และจากนี้อีก 1 เดือน ตนจะเรียกประชุมติดตามความคืบหน้างาน ส่วนการลดพื้นที่ปลูกยางนั้น ยังไม่ได้หารือกัน แต่นายกฯสั่งให้หาข้อสรุปที่ชัดเจนว่าทำได้หรือไม่ กระทบต่อเกษตรกรหรือไม่ อย่างไร
ส่วนมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชชนิดอื่น รองนายกฯเผยว่า ตนจะเสนอเรื่องให้ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.)สัปดาห์หน้า เพื่อขอความเห็นชอบจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งเมื่ออนุมัติแล้วจะเรียกประชุมวางแนวทางแก้ปัญหาเรื่องข้าวทันที ส่วนราคาพืชอื่นๆ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ยังไม่มีปัญหา
กษ.รับลูกลุย12มาตรการแก้ปัญหา
ขณะที่นายอนันต์ ลิลา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรฯแถลงผลประชุม กนย.ถึงแนวทางพัฒนายางทั้งระบบมี 12 มาตรการ โดยมาตรการเร่งด่วนคือ การบริหารจัดการสต็อกยางพารา โครงการที่จะเร่งรัด ประกอบด้วย สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรที่จะไปรวบรวมยางวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท มาตรการสนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรไปแปรรูปยางพารา เพื่อไปเพิ่มกำลังการผลิตในการแปรรูปให้มากขึ้น และสนับสนุนสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยางวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 พันล้านบาท โดยธนาคารออมสินจะเป็นผู้ให้สินเชื่อ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอื่นๆ อาทิ โครงการจัดหาตลาดใหม่เพื่อการส่งออก โครงการส่งเสริมด้านการลงทุนยางภายในประเทศ เป็นต้น ขณะที่ กระทรวงเกษตรฯจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสินค้ายางพารา เป็นศูนย์กลางแก้ปัญหายางพารา โดยมีคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องมาดูแล โดยมีรมว.เกษตรฯเป็นประธาน ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคลื่อนทั้งระบบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี