สั่งดอง”ประชาธิปไตย”
“บิ๊กตู่”กร้าว!
ห้ามด่ารัฐบาล-เลือกตั้ง
อ้างกำลังปฏิรูป-ปรองดอง
ชี้คำสั่ง”คสช.”ยังไม่ยกเลิก
แจงเปล่าจับ”นิธิ”แค่เชิญคุย
‘สมยศ’แถลงมัด’กริชสุดา’
โชว์สลิปซื้ออาวุธแจกชุดดำ
‘ประวิตร’ตั้งวอร์รูมมั่นคง
เมื่อวันที่ 19 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และ
ผบ.ทบ.กล่าวถึงกรณีตำรวจเข้าควบคุมตัว นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ขณะร่วมบรรยายกิจกรรมห้องเรียนประชาธิปไตย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ศูนย์รังสิต ว่า เป็นการไปเชิญตัวมา ไม่ได้จับกุม ซึ่งก่อนหน้านี้ไปพูดคุยกันแล้วและขณะนี้ได้ปล่อยตัวไปแล้วและไม่คิดว่าจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ขอเพียงสื่ออย่าไปขยายมันก็จบ
เชิญ’อ.นิธิ’มาคุย-ไม่ใช่จับตัว
“เชิญเขามาพูดหลายครั้งแล้ว ขอร้องไปแล้วว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรกันตอนนี้เลย บ้านเมืองกำลังเดินอยู่ เรากำลังบริหารประเทศ เรากำลังปฏิรูป เราปรองดอง ฉะนั้นอย่าไปขยาย พอขยายปั๊บก็เป็นเรื่องหมด พอพูดหนึ่งได้ เดี๋ยวสองพูด สามพูด สี่ก็พูดอีก ผมก็ไม่ต้องทำงานนะซิ แล้วผมจะเข้ามาทำไม ต้องเข้าใจผม ผมไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ผมรู้ตัวผมดี ที่นักข่าวว่ากลัวนั้น ผมกลัวมากกว่าอีก ไม่ต้องกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะไม่รู้ขั้นตอน เพราะเขาทำมาตลอดและเราก็ให้แนวทางหมดแทบจะบอกให้เดินซ้ายขวาก่อนเลยด้วยซ้ำ เขารู้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปล็อคคอมา ขอร้องมาแล้วและมาจัดก็ไม่ขออนุญาต สอบถามว่าพูดเรื่องอะไร ก็การเมืองทั้งสิ้น เราก็บอกว่าอย่าเพิ่งพูด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ย้ำห้ามพูด’ปชต.-ลต.-ด่ารบ.’
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่เปิดโอกาสให้พูดเรื่องการเมืองใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า ก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือยัง คำสั่งต่างๆก็ยังอยู่เหมือนเดิม ยังไม่ได้ยกเลิกอะไรเลย เมื่อถามว่า ทำไมไม่เปิดรูระบายให้แสดงความคิดเห็นได้บ้าง นายกฯ กล่าวว่า “ก็เปิดอยู่นี่ไง ก็พูดแจ๊ดๆๆอยู่นี่ไง ฉันไม่เคยห้ามอะไรเธอเลย” เมื่อถามว่า หากมีการส่งเค้าโคลงเรื่องมาก่อนว่าจะพูดเรื่องอะไรจะให้พูดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็มีคณะกรรมการตรวจอยู่แล้วว่า เรื่องไหนพูดได้ หรือไม่ได้ ถ้าพูดเรื่องประชาธิปไตย เรื่องเลือกตั้ง หรือรัฐบาลเป็นอย่างโน่นอย่างนี้ แบบนี้พูดไม่ได้
“ผมขอถามหน่อยว่า วันนี้ผมทำอะไรให้ประเทศชาติเสียหายบ้าง ตอบมา” ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า”ยังไม่มี” นายกฯจึงตัดบทว่า”งั้นก็โอเคนะ สวัสดีครับ”พร้อมเดินกลับไปทันที
ผุดก.ดิจิตอล-จ่อเสนอ’สนช.’
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงโครงสร้างใหม่ของกระทรวงดิจิตอลที่ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ได้ไปคุยกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เมื่อวันที่ 18กันยายนที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้ มรว.ปริดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ เป็นประธานดูแลอยู่ ขอให้รอนิดหนึ่ง แต่หลักๆคือ จะต้องมีเอกภาพและบริหารต่างๆให้เกิดความเป็นธรรม รัฐต้องได้ประโยชน์และการบริการประชาชนต้องมาอันดับหนึ่ง เมื่อปรับโครงสร้างแล้วจะนำเข้าที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ทันที
ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวถึงกระทรวงดิจิตอล ว่า ขอเวลาอีก 2เดือนในการร่างกฎหมาย ซึ่งมีเกือบ 10ฉบับ จึงไม่สามารถให้รายละเอียดได้
‘สมคิด’แนะระวังหัวข้อเสวนา
ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาการจัดกิจกรรมต่างๆ นักศึกษาธรรมศาสตร์มีสิทธิและเสรีภาพในการจัด โดยไม่ต้องส่งเรื่องถึงอธิการบดี ทำเพียงขออนุญาตใช้สถานที่จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งเขตมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้รับยกเว้น ขณะเดียวกัน อธิการบดีก็ไม่สามารถห้ามนักศึกษาจัดกิจกรรมได้ เพียงแต่นักศึกษาต้องรู้ตัวว่า จัดเสวนาวิชาการหัวข้อใด จะเจอกับอะไร
“ทุกวันนี้ผมโดนด่าหมดจากทุกฝ่าย ผมห้ามนักศึกษา นักศึกษาก็ด่าผม ส่วนทหารและสนช.ก็ตำหนิผมว่า ทำไมไม่จัดการเด็ก สิ่งที่ทำได้คือ รับฟังคำด่าจากทุกฝ่าย ธรรมศาสตร์ก็คือธรรมศาสตร์ แต่ผมก็ไม่ได้อยู่เฉย ส่งทุกคนไปเตือนเด็กให้ระมัดระวัง แต่คงไม่กำชับอะไร เพราะมีหลายกลุ่มจัดกิจกรรมอยู่ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่งขึ้นกับว่าจัดหัวข้อใด”ศ.ดร.สมคิด กล่าว
‘สมยศ’แถลงโต้นปช.อีกรอบ
สำหรับกรณีที่ นายจุตพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช.และแกนนำ นปช.ได้เข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.เพื่อชี้แจงว่า นปช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีชายชุดดำนั้น พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า หลังได้พูดคุยกัน ก็ได้มีการชี้แจ้งให้เข้าใจถึงกระบวนการการทำงานของเจ้าหน้าที่แล้วว่า เราสามารถตรวจสอบเรื่องใดได้บ้าง บางเรื่องก็ไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงได้ เนื่องจากเป็นขั้นตอนการสอบสวนของดีเอสไอ ชี้แจ้งไปชัดเจนแล้วว่า การเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ไม่เกี่ยวกับกรณีจับกุมทำแผนชายชุดดำและตนไม่เคยพูดว่า นปช.เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง แต่ถ้าสอบสวนเชื่อมโยงถึงใครก็ต้องจับกุมแน่นอน
โชว์สลิปกริชสุดาซื้อปืนให้ชุดดำ
ส่วนกรณีที่ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน เผยแพร่คลิปที่มีเนื้อหาสอบถาม พล.ต.อ.สมยศ ว่า มีพยานหลักฐานใดที่แสดงว่า ตัวเองไปเกี่ยวข้องกับชายชุดดำ รอง ผบ.ตร.ระบุว่า เปิ้ล หรือ น.ส.กริชสุดา จะมาพูดว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชายชุดดำไม่ได้ เพราะจากการเข้าตรวจค้นบ้านพัก น.ส.กริชสุดา ที่ อ.พัทยา จ.ชลบุรี พบหลักฐานจำนวนมาก อาทิ หลักฐานการโอนเงินให้ชายชุดดำไปก่อเหตุ ขอยืนยัน ไม่ได้กล่าวหา หรือพูดจาลอยๆ แต่มีพยานหลักฐานเป็นเอกสารการสั่งซื้ออาวุธสงคราม อาทิ ปืนอาก้า เอ็ม16และเอ็ม 79และยังพบเอกสารการโอนเงินให้กับผู้ต้องหาในคดีอาวุธสงคราม ตั้งแต่ปี2553-2557 และพบจดหมายจากนักโทษในเรือนจำ ที่เขียนมาขอบคุณ น.ส.กริชสุดา ที่โอนเงินจำนวน 5หมื่นบาทให้ “เพราะงั้นจะมาพูดว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ ผมไม่ได้ใส่ร้าย ถ้าคุณออกคลิปถามมาอีก ผมก็จะหาหลักฐานมาตอบคุณอีกแน่นอน”พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้นำเอกสารการโอนเงินให้กับผู้ต้องหารายหนึ่งเมื่อปี2555 มาให้สื่อมวลชนดูเพื่อเป็นการยืนยันอีกด้วย
“ประวิตร”ถกหน่วยงานมั่นคง
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม 4กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง โดย พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า เป็นการวางแนวทางด้านความมั่นคง เน้นป้องกันให้เกิดความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินประชาชนและความมั่นคงของประเทศ เราจะวางโรดแมปในการดำเนินงานและประเมินงานทุก 3เดือนว่า ได้ผลอย่างไร เพราะรัฐบาลชุดนี้อยู่เพียง 1ปี
สั่งตั้ง’วอร์รูม24ชม.’-นั่งคุมเอง
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า พล.อ.ประวิตร มอบนโยบายงานความมั่นคง โดยให้น้อมนำพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ในเรื่องของความมั่นคงที่ระบุว่า งานด้านความมั่นคงเป็นเรื่องของทุกส่วนราชการ ไม่ใช่เฉพาะทหาร หรือตำรวจ แต่เป็นเรื่องของประชาชนทุกคน ทุกภาคส่วนที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม สำหรับการทำงานในเรื่องของความมั่นคงภายใต้“แอ็คชั่นแพลน” โดยการจัดตั้งศูนย์แก้ปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการจาก 4กระทรวงหลักและ1กรม ไว้ที่กระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ทำหน้าที่หคล้ายศูนย์“วันสต็อปเซอร์วิส” ร่วมกับหน่วยงานต่างๆเพื่อวิเคราะห์เสนอแนะการแก้ปัญหาความมั่นคง โดยจะเปิดทำการตลอด 24ชม.คาดว่าจะเริ่มทำงานสัปดาห์หน้า เน้นความรวดเร็วทันต่อสถานการณ์
เร่งติดวงจรปิด-ไฟสว่างเพิ่ม
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังห่วงใยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการติดตั้งกล้องซีซีทีวีและแสงสว่างให้คลอบคลุมพื้นที่ กทม.เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม เน้นการป้องกันมากกว่าแก้ไข โดยเตรียมจะติดตั้งกล้องซีซีทีวี 283จุดทั่วประเทศ ภายในเวลา 2เดือน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจนครบาล ในการเลือกพื้นที่ที่จะติดตั้งกล้อง ส่วนงบประมาณได้เตรียมการไว้แล้ว สำหรับการติดตั้งกล้องซีซีทีวีให้ครอลคลุมพื้นที่ท่องเที่ยวและเศรษฐกิจนั้น จะพิจารณาตามความเร่งด่วน
ส่ง550รายชื่อสปช.ถึงคสช.แล้ว
ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.แถลงสรุปผลการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า ผลการสรรหาผู้เหมาะสมเป็นสปช.ของคณะกรรมการสรรหา 11ด้าน ขณะนี้กกต.ได้นำรายชื่อ 550รายชื่อ เสนอให้ คสช.ครบถ้วนแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 18กันยายนที่ผ่านมา ส่วนผลการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดขณะนี้นำส่งแล้ว 41จังหวัด ส่วนที่เหลืออีก 36จังหวัด หาก ผอ.เลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กต.จว.)ใด นำผลการสรรหามาส่งแล้ว กกต.จะทยอยนำส่ง คสช.ต่อไป อย่างไรก็ตามวันที่ 22กันยายน มีคณะกรรมการสรรหาอีก 7จังหวัด ได้นัดประชุมคัดเลือก สปช.จังหวัดละ5คน ดังนั้นคาดว่าในส่วนผลการสรรหาระดับจังหวัดน่าจะส่งให้ คสช.ได้ครบทั้ง77จังหวัด ภายในวันที่ 23กันยายนนี้
อุทธรณ์ยืนคุกสมยศหมิ่นเบื้องสูง
วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้คุมตัว นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารวอยซ์ ออฟทักษิณและแกนนำกลุ่ม24มิถุนาประชาธิปไตย มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่อัยการเป็นโจทย์ ยื่นฟ้องฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง กรณี นายสมยศ ได้จัดพิมพ์ จัดจำหน่ายนิตยสาร มีบทความที่ไม่เหมาะสม มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันโดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ที่ นายสมยศ อุทธรณ์ต่อสู้ว่า พรบ.จดแจ้งการพิมพ์ 2550 มีบทบัญญัติยกเลิก พรบ.การพิมพ์2484และในฐานะบรรณาธิการ ไม่ต้องรับผิดนั้น ศาลเห็นว่าการกระทำของ นายสมยศ เป็นความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ไม่ใช่เพียงรับผิดฐานะบรรณาธิการ อีกทั้งพยานหลักฐานของ นายสมยศ ไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก10 ปี พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีที่ นายสมยศ หมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีต ผู้ช่วย ผบ.ทบ.อีก 1ปี รวมจำคุก 11ปี หลัง ฟังคำพิพากษาเพียงลำพัง นายสมยศ กล่าวเพียงสั้นๆว่า จะยื่นฎีกาต่อสู้คดีต่อไป
ยกคำร้องตั้งสนช.ไม่ชอบกม.
ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงว่า ผู้ตรวจการฯมีมติเอกฉันท์ยกคำร้องกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นให้ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ที่แต่งตั้ง สนช.โดยไม่หลากหลาย เอื้อประโยชน์และขัดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญปี2550 ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่วนคำร้องที่อ้างว่า การกระทำของหัวหน้าคสช.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญนั้น มาตรา47ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว กำหนดให้บรรดาประกาศและคำสั่งของ คสช.ให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย ไม่ว่าจะกระทำก่อนหรือหลังวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ จึงไม่มีต้องพิจารณาว่า ประกาศแต่งตั้งสนช.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
‘บิ๊กตู่’เดินหน้าบริหารประเทศ
เวลา 20.30น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ”คืนความสุขให้คนในชาติ” ผ่านสถานีโทรทัศน์ทีวีพูล ว่า สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพรัก สัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นสัปดาห์แรกที่รัฐบาลและคณะรัฐมนตรี ได้ทำงานบริหารประเทศเต็มรูปแบบ หลังจากได้แถลงนโยบายแก่ สนช.เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้แบ่งมอบงานให้กับรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 5ท่าน กำกับดูแลงานของกระทรวงต่างๆ
ลดขัดแย้ง-ขจัดทุจริต-เทิดสถาบัน
สำหรับการทำงานของรัฐบาลและ คสช.ในระยะต่อไปนั้น มีความสำคัญมากนะครับกับประเทศ ทั้งการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูป การปรองดองสมานฉันท์ ตามที่ตนเคยกล่าวไปแล้วหลายครั้ง สิ่งที่เราคาดหวังไว้สำคัญๆ ได้แก่ การลดความขัดแย้งอย่างยั่งยืน การสร้างความรักใคร่ สามัคคีของคนในชาติ การขจัดการทุจริตคอรัปชั่นในทุกมิติ การปฏิรูปให้เกิดผลยั่งยืนในทุกด้าน การทำตามความคาดหวังของประชาชนทุกเรื่องให้ได้มากที่สุด การปลูกฝังค่านิยม 12ประการ การปลูกฝังและสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การยกระดับรายได้ของประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
สานสัมพันธ์อันดีนานาประเทศ
การเพิ่มคุณภาพชีวิตที่เท่าเทียมด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การเพิ่มความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมโลก ด้วยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ลดความหวาดระแวง ร่วมมือกันในทุกมิติ ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม การสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ระหว่างรัฐ เอกชน ประชาสังคม ประชาชน โดยมีข้าราชการเป็นผู้ให้การสนับสนุน ผู้ขับเคลื่อนเป็นข้าราชการที่ดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะต้องให้การบริการอย่างเต็มสติกำลัง
พร้อมส่งมอบรบ.ใหม่รับไม้ต่อ
รัฐบาลจะจัดลำดับงานตามความเร่งด่วน อะไรทำก่อน ทำจริง ทำทันที มีผลสัมฤทธิ์และจะส่งต่อให้รัฐบาลต่อไปอย่างยั่งยืน ขอให้นักการเมืองในอนาคตเตรียมการให้ดี อะไรที่เราทำไม่เสร็จในระยะสั้น ท่านต้องทำต่อ ประชาชนต้องช่วยตัดสิน ดูแล เฝ้าระวัง ช่วยประเมินผลสัมฤทธิ์ที่จะตามมาภายหลัง ที่สำคัญถ้าใครเตรียมการไม่ดี ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง หากได้รับเลือกเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินต่อไป จะเป็นปัญหาอีกต่อไปในอนาคต ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม
วอน”กริชสุดา”เลิกใส่ร้ายจนท.
ส่วนเรื่องคุณกริชสุดา ขอร้องอีกที อย่าพูดอะไรที่เป็นการให้ร้ายเจ้าหน้าที่เลย เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องไม่จริงทั้งนั้น ไม่ใช่ส่วนใหญ่ เกือบทั้งหมด ฉะนั้นคุณเป็นสุภาพสตรี ตนต้องขอโทษบางครั้งพูดแรงไป ก็มีอารมณ์เหมือนกัน เพราะท่านให้ร้ายกองทัพ ให้ร้ายอะไรต่างๆมาโดยตลอดทั้งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ตนเป็นนายกฯต้องสุภาพเรียบร้อย ก็มีเรื่องพูดคุยเท่านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี