เผยสเปกประธาน’สปช.’
ไม่เผด็จการ
อาวุโส-เป็นกลาง-ยืดหยุ่น
“พรเพชร”บอกใบ้
“บิ๊กตู่”ยันไม่มีล็อก
ท้ารอดูประกาศชื่อ
เมื่อวันที่ 28 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความจำเป็นในการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มอีก 28 คนว่า เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าต้องคัดเลือกสนช.ไม่เกิน 220 คนก็เพียงแต่บรรจุให้ครบ 220 คนเท่านั้น เพื่อไปทำงานเพราะมีกฎหมายหลายฉบับที่ยังติดค้างอยู่จำนวนมากก็คงต้องเข้าไปเร่งดำเนินการ ซึ่งปัจจุบันการทำงานของสนช.ก็มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมาธิการหลายคณะด้วยกันแล้ว ดังนั้นจะได้ไปเพิ่มจำนวนคนที่มีอยู่ทำให้ครบถ้วนในการจัดตั้งอนุกรรมาธิการที่จะได้ไม่ซ้ำซ้อนกันมากนักในการที่จะดำเนินการพิจารณาทางกฎหมาย
ไม่มีล็อกสเปก-ท้ารอดูชื่อสปช.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงนายยุทธนา ยุพฤทธิ์ อดีตส.ว.เลือกตั้งยโสธร ยังข้องใจการคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติโดยเฉพาะในระดับจังหวัดว่ายังมีการล็อกสเป็กหรือไม่ว่า หากรายชื่อออกมาก็ไปดูมันจะล็อกกันได้อย่างไร ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้แล้วว่าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 2 ตุลาคมตามกำหนดการที่วางไว้เดิม
“รายชื่อทั้งหมดดำเนินการมา 2 ทางโดยรับสมัครโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)อยู่แล้ว ฉะนั้นกกต.ก็เป็นผู้ตรวจสอบทางกฎหมายว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ สำหรับบุคคลที่เข้ามาสมัคร อยากที่เรียนไว้แล้วว่าเราก็คัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและเป็นไปตามการคัดสรรของคณะกรรมการ ทุกคณะที่ดำเนินการมาตามลำดับโดยตลอด ยืนยันว่าไม่มีการล็อกสเปกแน่นอน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมินเตรียมร้องศาลปกครอง
เมื่อถามว่าถึงขนาดจะไปร้องที่ศาลปกครองชะลอการพิจารณาสปช. พล.อ.ประยุทธ์ "ก็ไปร้อง ก็เป็นเรื่องของศาลปกครอง ถ้ามีปัญหาตรงไหนก็ไปดำเนินการ หากคิดว่ามันไม่ถูกต้องไม่เป็นธรรมก็ดำเนินการไป ในส่วนเราต้องทำงานไปตามลำดับถ้าสปช.ดำเนินการยังไม่ได้ก็ยังไม่ได้ ก็จบเท่านั้นเอง"
ไม่ทบทวน-เดินหน้าทูลเกล้าฯ
เมื่อถามต่อว่าจะต้องทบทวนรายชื่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทบทวนเรื่องอะไร ก็เป็นเรื่องของศาลปกครอง ศาลว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามศาล
ต่อข้อถามว่าหมายความว่าผ่านกระบวนการพิจารณารายชื่อทั้ง 250 คนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้วยืนยันจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องทำหากไม่ทำจะทำอะไรต่อไป ต้องรอใครที่ไหน ไม่ได้มีอะไรเขียนไว้ว่าต้องรอ รอใครเพราะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ย้อนรธน.ไม่ได้ห้ามตั้ง”วปอ.”
เมื่อถามว่านายยุทธนา เปิดเผยข้อมูลว่ามีนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ที่มีสายสัมพันธ์กับทหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "แล้วทำไม นักศึกวปอ.เป็นไม่ได้หรือ เขาเขียนไว้ในคุณสมบัติข้อไหนว่าเป็นวปอ.เป็นหลักสูตรอะไรแล้วเป็นสปช.ไม่ได้ มีไหม ไปอ่านกฎหมายดู"
เมื่อถามต่อว่าใน 250 คนมีนักศึกษาวปอ.อยู่เยอะหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ได้สนใจตนไม่ได้เอาชื่อวปอ.มาอ่าน ไม่ได้ดู ไม่ทราบ
ต่อข้อถามว่าคนที่ผ่านหลักสูตร วปอ.มีความเหมาะสมเป็นสปช.หรือช่วยชาติได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "มีเหรอ ข้อไหนที่เขียนว่าสปช.ต้องเป็นวปอ.หรือว่าไม่เป็นวปอ.ถ้าไม่มีก็อย่ามาถามผมตรงนี้ ถามตรงอื่น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ประสานเขมรขอตัว”ตั้ง อาชีวะ”
นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า การขอตัวนายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่กำลังขอลี้ภัยทางการเมืองในประเทศกัมพูชา มาดำเนินคดีนั้น ขณะนี้กำลังประสานกับทางกัมพูชาอยู่ เพราะมีความผิดหลายมาตรา ส่วนจะได้ตัวมาหรือไม่นั้นต้องไปถามกัมพูชา
“พรเพชร”ไม่รู้ใครนั่งปธ.สปช.
ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่สปช.ทั้ง 250 คน ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเรียบร้อย จะต้องจัดประชุมเพื่อเลือกประธานและรองประธาน สปช. โดยบุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งประธาน สปช. นั้นส่วนตัวไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะเป็นเรื่องที่สมาชิก สปช. จะเป็นผู้ลงมติ
เผยสเปกต้องอาวุโส-ไม่เผด็จการ
อย่างไรก็ตามตนมองว่าบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นประธาน สปช.ต้องเป็นผู้อาวุโสพอสมควร ได้รับการยอมรับของสมาชิกทั้งจากประวัติการทำงาน มีความเป็นกลาง ยอมรับฟังความเห็นของผู้อื่นและพร้อมรับฟังความเห็นที่แตกต่าง นอกจากนั้นแล้วต้องยึดความถูกต้องของกติกา ไม่ใช้เผด็จการหรือยึดข้อบังคับ กฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดเกินไป ต้องมีความประณีประนอม
พร้อมสนับสนุนภาระกิจสปช.
นายพรเพชร กล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมการสนับสนุนงานของ สปช.ตนพร้อมอำนวยความสะดวกเต็มที่ ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการประชุมกับฝ่ายบริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องเป็นผู้สนับสนุนงาน สปช. นั้น ตนได้ให้กรอบการทำงานเบื้องต้นว่าสำหรับการทำงานของ สปช. ซึ่งมีกรอบการทำงานที่กว้างขวาง อาทิ การรับฟังความคิดเห็น ดังนั้น การทำงานไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่เฉพาะรัฐสภาเท่านั้น อาจไปใช้ห้องประชุมของหน่วยราชการภายนอก หรือในต่างจังหวัดเพื่อดำเนินงานได้
ใช้อาคาร’สุขประพฤติ’ทำงาน
นอกจากนั้นแล้ว การใช้ห้องประชุมกรรมาธิการที่อาจไม่พอเพียง เนื่องจากกรรมาธิการของสนช.ต้องใช้ห้องประชุมด้วยนั้น ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯได้จัดเตรียมห้องทำงานที่อาคารภายนอก เช่น อาคารสุขประพฤติ รับรองไว้ ส่วนห้องประชุมรัฐสภานั้น เบื้องต้น สนช. กำหนดใช้ห้องเพียง 2 วัน คือ วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ดังนั้น อีก 3 วันที่เหลือในสัปดาห์ สปช. สามารถใช้ได้ หรือหามีงานที่ต้องเร่งดำเนินการ วันเสาร์และอาทิตย์สามารถใช้ประชุมได้เช่นกัน ส่วนเบี้ยเลี้ยงหรือค่าล่วงเวลาของเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ นั้นสามารถเบิกจ่ายได้เต็มจำนวน
วางสเปกสนช.ไปนั่งกมธ.ยกร่าง
นายพรเพชร ยังกล่าวถึงการคัดเลือกสมาชิก สนช. จำนวน 5 คน เพื่อเข้าไปทำหน้าที่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ได้ระบุกับสมาชิกถึงสเปกของบุคคลที่จะไปทำหน้าที่ดังกล่าว ว่า 1. ต้องมีเวลาอย่างแท้จริง เพราะงานยกร่างรัฐธรรมนูญต้องทำทุกวัน 2. ต้องมีความรู้ และประสบการณ์ด้านสังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ และด้านต่างๆ 3. ต้องไม่เป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้องกับการเข้าสู่อำนาจ หรือการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ
เตรียมประชุมสนช.เฟ้นชื่อส่ง
ทั้งนี้บุคคลที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้จำกัดเฉพาะบุคคลที่เคยร่วมยกร่างรัฐธรรมนูญมาก่อน อาจจะเป็นคนหน้าใหม่ก็ได้ แต่คนที่จะเข้าไปทำหน้าที่ต้องเป็นไปตามความสมัครใจ ซึ่งภายหลังจากที่ สปช.ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการและเสร็จสิ้นการประชุมนัดแรกแล้วตนจะนัดหมาย สนช.ให้หารือเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นการส่งรายชื่อนั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม สนช.
ยังไม่เห็นโผรายชื่อสปช.
นอกจากนี้นายพรเพชร ยังกล่าวถึงรายชื่อสมาชิกสปช. ที่ปรากฎผ่านสื่อว่า ตนยังไม่เห็นรายชื่อดังกล่าว และไม่ทราบว่ามีใครที่ได้เป็น สปช.บ้าง ซึ่งตนทราบเฉพาะ 50 คน ที่ตนได้คัดเลือกในด้านกฎหมายและกระการยุติธรรมเท่านั้น และเห็นว่าหาก สปช. มีความหลากหลายก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ส่วนการที่นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ อดีต ส.ว.ยโสธร และผู้เข้ารับการสรรหา สปช.จ.ยโสธร จะยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้ออกคำสั่งคุ้มครองชะลอการประกาศรายชื่อ สปช.ในจังหวัดที่มีปัญหานั้น ก็เป็นสิทธิที่สามารถยื่นเรื่องได้ แต่ต้องดูว่าศาลปกครองมีอำนาจที่จะรับเรื่องนี้ไว้ตามกฎหมายได้หรือไม่ ซึ่งตนไม่อยากแสดงความเห็นเรื่องนี้ เพราะต่างคนต่างความคิด
กกต.ชี้ยื่นร้องล็อกสปช.ไร้ผล
ด้านนายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการกกต.กล่าวในเรื่องนี้ว่า สามารถยื่นได้ แต่ศาลปกครองอาจจะไม่สามารถสั่งให้ชะลอกระบวนการต่างๆได้ เพราะถ้าดูมาตรา 17 ของพ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหาสปช.ที่ระบุว่ากรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเสนอชื่อหรือการสรรหา หรือมีปัญหาอื่นใดเกี่ยวกับการดำเนินการตามพ.ร.ฎ.นี้ ให้หัวหน้าคสช.วินิจฉัยและเมื่อได้ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของหัวหน้าคสช.แล้วให้ถือว่าเป็นการชอบด้วยพ.ร.ฎ.นี้และกฎหมาย โดยมาตราดังกล่าวเป็นการปิดช่องโหว่และคงรู้อยู่แล้วว่ากระบวนการสรรหาจะมีปัญหาจึงได้เขียนกฎหมายครอบคลุมไว้และมาตรา17ก็สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง อีกทั้งในรัฐธรรมนูญก็ระบุว่าให้คสช.เป็นผู้คัดเลือกอยู่แล้ว
เกษตรฯชงโยกย้ายอีกรอบ
สำหรับความเคลื่อนไหวเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันพุธที่ 30 กันยายนนี้ ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเสนอเข้าพิจารณาอีกครั้งหลังจากถูกตีกลับเมื่อสัปดาห์ก่อนเนื่องจากรายชื่อ ที่เสนอไปก่อนหน้านี้ยังไม่เหมาะสม และอาจมีปัญหาต่อการบริหารงานในการแก้ปัญหาด้านการพัฒนาการเกษตร ตามแนวทาง แก้ปัญหาภาคการเกษตรฯ
“สรรเสริญ”ขึ้นรองปลัด
โดยโผรายชื่อใหม่ที่น่าสนใจ ได้แก่ นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส ผู้ตรวจราชการ กระทรวงเกษตรฯเป็นรองปลัดกระทรวงเกษตรฯ แทนนายชลิต ดำรงศักดิ์ ที่เกษียรณอายุราชการ นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร แทนนายอนันต์ ลิลา ที่ขึ้นไปเป็นรองปลัดกระทรวงเกษตรฯ
โยก“จุมพล”นั่งอธิบดีกรมชล
นายอภัย สิทธิสังข์ ผู้ตรวจราชการฯเป็นอธิบดีกรมปศุสัตว์ แทนนายทฤษดี ชาวสวนเจริญ ที่เกษียนอายุราชการ นายวราวุธ ขันติยานันท ผู้ตรวจราชการฯ เป็นอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นายโอภาส กลั่นบุศย์ ผู้ตรวจราชการฯ เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์แทนนายจุมพล สงวนสิน โยกไปเป็นอธิบดีกรมประมงแทนนายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ที่เกษียนอายุราชการ
“สมปอง”ผงาดเลขาฯสปก.
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เป็นอธิบดีกรมวิชาการ แทนนายดำรง จิระสุทัศน อธิบดีกรมวิชาการที่เกษียรอายุราชการ ส่วนนางวีณา พงศ์พัฒนานนท์ ผู้ตรวจราชการฯ เป็นอธิบดีกรมหม่อนไหม นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ เลขาธิการสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงเกษตรฯแทนนางจิราวรรณ แย้มประยูรที่เกษียนอายุราชการ สำหรับตำแหน่งเลขาธิการสปก.นั้นจะเป็น นายสมปอง อินทร์ทอง ผู้ตรวจราชการฯ
แฉกลุ่มขั้วอำนาจเก่าจัดโผ
แหล่งข่าวกล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ จากการตรวจสอบรายชื่อ ถือว่าเป็นไปตามแนวทางของ กลุ่มขั้วอำนาจเก่า ที่ควบคุม กระทรวงเกษตรฯมานานหลาย 10 ปี ที่วางเอา ไว้ โดยมีการโยกย้ายข้าราชการระดับ9ที่เป็นคนที่นักการเมืองไว้วางใจในการทำงาน มารอแต่งตัวเพื่อเตรียมขึ้นสู่ตำแหน่ง อธิบดี ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ตามรูปแบบเดิมที่เตรียมพร้อมไว้ก่อนหน้านี้
โยกย้ายแบบผิดฝาผิดตัว
ทั้งนี้คงจะต้องติดตามการทำงานของข้าราชการที่ได้รับการแต่งตั้งอีกครั้งว่า จะสามารถทำงานได้ตามทิศทางการพัฒนาด้านการเกษตรตามนโยบายรัฐบบาลได้หรือไม่ เพราะจากการตรวจพบว่า ยังพบว่าผิดฝาผิดตัวค่อนข้างมาก ซึ่งอาจส่งผลให้งานด้านการพัฒนาด้านการเกษตรเดินหน้าไม่เป็นไปตาม แนวทางที่รัฐบบาลบางไว้ ได้ ในหลายเรื่องตามที่รัฐแถลงเอาไว้
ปลัดยืนกรานทำอย่างรอบคอบ
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวยอมรับว่า ได้เสนอรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายไปยังม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ที่กำดูแลฝ่ายเศรษฐกิจไปแล้วเมื่อสัปดาห์ ที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะพิจารณา ในการประชุม ครม.วันที่1 ตุลาคม นี้ และยืนยันว่าทางกระทรวงเกษตรฯพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้คนที่มีความรู้ความสามารถมาทำงานตามแนวทางของรัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี