2 ต.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ครั้งที่ 13/2557 โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานดำเนินการในการประชุม โดยก่อนการประชุม ได้มีการให้ สนช.ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ และรายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการ สนช.จำนวน 28 คน กล่าวปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ และทางเลขาธิการ สนช.ได้อ่านประกาศพระบรมราชการโปรดเกล้า แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน โดย นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม เป็นประธานคณะกรรมการ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส เป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
หลังจากนั้น นายพรเพชร ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าได้มีประกาศ สนช.แบ่งรอบระยะเวลา 90 วัน ของการให้สมาชิกฯ เข้าร่วมประชุมลงมติ เพื่อรักษาสมาชิกภาพ ตามรัฐธรรมนูญฯ ปี 2557 มาตรา 9 (5) ประกอบกับข้อบังคับการประชุม สนช.ข้อ 82 โดยรอบแรกจะนับตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม - 30 ธันวาคม 2557 หลังจากนั้น นายศรีศักดิ์ ว่องส่งสาร ประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. …. และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความรับผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. …. ได้เสนอญัตติขอเลื่อนระยะเวลาการทำงานของคณะ กมธ.ออกไปอีก 30 วัน เนื่องจากว่า กฎหมายทั้ง 2 ฉบับ มีเนื้อหาสำคัญที่จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งทางประธานในที่ประชุมได้อนุญาตตามที่นายศรีศักดิ์ได้ร้องขอ
หลังจากนั้น ประธานในที่ประชุมได้เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม โดยวาระการประชุมเรื่องแรกเป็นการให้ สนช.พิจารณาเลือกกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประกอบมาตรา 36 (3) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 โดยทางคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาเสนอรายชื่อบุคคลที่เห็นสมควร เป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิที่มี นายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธาน กมธ.ชุดดังกล่าว หลังจากที่ได้ดำเนินการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมเรียบร้อยแล้ว ได้เสนอรายบุคคลที่เห็นสมควรเป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 4 คน ได้แก่ ศ.ดร.เมธี ครองแก้ว อดีตกรรมการ ป.ป.ช. , นายพิภพ อะสีติรัตน์ , นายปรีชา ชวลิตธำรง และนายวรสิทธิ์ โรจนพานิช เพื่อให้ทาง สนช.คัดเลือกให้เหลือเพียง 2 คน
ทั้งนี้ การพิจารณาเพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้ร้องขอให้มีการประชุมลับ ตามข้อบังคับการประชุมฯ ข้อ 143 โดย นายพีระศักดิ์ พอจิต ประธานในที่ประชุม ได้อนุญาตตามที่มีการขอ โดยหลังจากที่มีการประชุมลับเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง นายพีระศักดิ์ ได้มีการให้ สนช.ลงคะแนนลับ ตามข้อบังคับการประชุมฯ ข้อ 67 ซึ่งผลการลงคะแนนปรากฏว่า ผู้ที่ได้รับเลือกจากสมาชิก สนช.ให้เป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ คือ ศ.เมธี ครองแก้ว และนายปรีชา ชวลิตธำรง
ต่อมา ทาง สนช.ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฯ ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ประกอบประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 48/2557 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 เรื่องการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังจากที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2557 ตามมาตรา 9 (3) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2552
ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่มี นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา ได้ลงคะแนนคัดเลือกผู้สมัครเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งหมด 21 คน แล้วปรากฏว่า พล.อ.วิทวัส รชตะนันท์ ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้สมควรที่จะดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป ดังนั้น ทางที่ประชุม สนช.จึงได้มีการตั้งคณะ กมธ.ขึ้นเพื่อตรวจสอบประวัติความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลดังกล่าว ตามข้อบังคับฯ ข้อ 137 ประกอบข้อ 138 แต่เนื่องจากทาง สนช.ยังอยู่ในช่วงการสรรหาและตั้ง กมธ.สามัญยังไม่แล้วเสร็จ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานในที่ประชุม จึงขอให้ทางที่ประชุมมีมติงดเว้นข้อบังคับข้อดังกล่าว ซึ่ง นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช.ได้เสนอจำนวน กมธ.ทั้งหมด 15 คน และให้ กมธ.ดังกล่าว มีระยะเวลาในการทำงานทั้งหมด 15 วัน
หลังจากนั้น ทาง สนช.ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. .... ซึ่งทางคณะกรรมการวิสามัญฯ ที่มี พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เป็นประธานกรรมาธิการ ได้มีการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว โดยผลการลงมติปรากฏว่า สมาชิก สนช.มีมติเห็นชอบให้นำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ประกาศใช้เป็นกฎหมายเพื่อใช้บังคับต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี