‘ตุ๊ดตู่’ปัดแดงนัดชุมนุม
ล้มงานเขาใหญ่
มท.1ฮึ่มอย่ามีนัยแอบแฝง
‘บิ๊กต๊อก’ไม่สนคนยธ.ต้าน
ยันชัชวาลย์เหมาะนั่งปลัด
ชาวนาอ่างทองวอนช่วย
คลังแจงแจกฟรีแค่ปีเดียว
พท.ชี้อย่าอายประชานิยม
ความคืบหน้ากรณีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงเตรียมนัดชุมนุมพบปะกันที่โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยอ้างเพื่อร่วมนมัสการองค์หลวงปู่ทวดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และร่วมทำบุญวันเกิดให้กับ นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำเสื้อแดง ในวันที่ 5 ตุลาคม ทำให้ถูกจับตาว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะมีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ทั้งนี้เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีกลุ่มเสื้อแดงและผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และโจมตีการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลายครั้ง โดยเฉพาะการแสดงความไม่พอใจการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จนถึงขั้นประกาศว่าจะทำให้การปฏิรูปไม่สำเร็จ ซึ่งแม้กองทัพจะไม่ออกมาประกาศห้ามปรามการจัดงานดังกล่าวโดยตรง แต่ก็มีการส่งคำเตือนว่า ห้ามไม่ให้กลุ่มเสื้อแดงทำอะไรที่แหกกฎอย่างเด็ดขาด ทำให้ในที่สุด แกนนำกลุ่มเสื้อแดงต้องรีบออกมาประกาศปฏิเสธการจัดงานดังกล่าวทันที
“ตู่”ปัดจัดชุมนุมเสื้อแดง
โดยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง เปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า จะไม่มีการจัดงานวันเกิด หรือมีการพบปะสังสรรค์ของคนเสื้อแดงที่เขาใหญ่แน่นอน กำหนดการดังกล่าวน่าจะเป็นกำหนดการปลอม เพราะได้สอบถามจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่มีใครไปจัดงานใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดช่วงนี้แน่นอน
โยน“สมชาย”เต้าข่าวนัดรวมพล
นายจตุพร กล่าวว่า รับทราบมาว่ากำหนดการดังกล่าวถูกเผยแพร่โดย นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่วนกรณีที่กำหนดการดังกล่าวมีรายละเอียดการดำเนินงานอย่างชัดเจนนั้น สงสัยว่าน่าจะมีคนเขียนกำหนดการดังกล่าวขึ้นมา ยืนยันว่าไม่มีการจัดงานใดๆอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน
แดงโคราชผิดคิว-รับมีนัดพบปะ
อย่างไรก็ตาม นายอนุวัฒน์ ทินราช อดีตประธาน นปช. อีสาน ผู้ประสานงานคนเสื้อแดง จ.นครราชสีมา ได้ออกมายอมรับว่า จะมีการพบปะกันที่โบนันซ่าเขาใหญ่จริง เพื่อทำบุญนมัสสการหลวงปู่ทวดและร่วมทำบุญวันคล้ายวันเกิดให้ นายจตุพร แต่จะถามว่าเป็นการนัดหมายชุมนุมกันหรือไม่ ขอชี้แจงว่า ไม่ได้มีการนัดหมาย ใครอยากไปร่วมชุมนุมก็เป็นเรื่องของเขา และ นายจตุพร ก็ไม่ได้จะจัดงานวันเกิดใดๆ แต่ถ้ามีคนไปร่วมงานก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร และเป็นปกติที่เขามาทำบุญที่นี่ทุกปี และคนที่ไปก็ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อแดงก็ไปร่วมได้ ถ้าตนไปร่วมก็จะไม่ใส่เสื้อสีแดงไป ขอยืนยันไม่มีเรื่องการเมืองแน่นอน
“บิ๊กป๊อก”ดักคออย่ามีนัยยะแฝง
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) อนุญาตให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.จัดงานเลี้ยงวันคล้ายวัดเกิดที่เขาใหญ่ได้ว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดอะไรก็แล้วแต่ ขอให้เป็นไปตามเจตนา อยากจะเลี้ยงฉลองให้เกิดมงคลกับชีวิต ก็ดำเนินการไป แต่หากมีนัยยะอื่นแล้วก่อให้เกิดความขัดแย้งและสับสนวุ่นวายแก่สังคม อันนี้ตนไม่เห็นด้วย อยากจะระลึกถึงวันเกิดอันเป็นมงคลก็ทำให้เป็นมงคลก็แล้วกัน ให้เป็นมงคลแก่ประเทศชาติหรือสังคมด้วยยิ่งดี
เมื่อถามว่า ต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทางฝ่ายความมั่นคงเขาดูแลอยู่ ตนเข้าใจว่าพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งหลายเข้าใจในบทบาทของเรา ถ้าเรามุ่งที่จะทำให้เกิดความสงบสุข สังคม เศรษฐกิจไปได้ คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้นตนก็ว่าโอเค
“วิษณุ”โบ้ยศาลรธน.ชี้ขาดถอดถอน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอำนาจ สนช.ในประเด็นการถอดถอนว่า ทราบอยู่แล้วว่าจะเกิดปัญหาอะไร แต่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเพราะไม่เช่นนั้นรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจะมีหลายมาตราและจะเป็นเรื่องใหญ่ จึงทิ้งปัญหาไว้ให้หน่วยงานต่างๆ แก้ไข แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้นก็ให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเข้ามาตรา 5 ที่ระบุให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เป็นผู้วินิจฉัยเองได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ปปช.จะส่งเรื่องให้ สนช.หรือไม่ เป็นเรื่องของปปช. และหากสนช.รับมาแล้วจะมีอำนาจพิจารณาหรือไม่ก็เป็นไปตามมาตรา5และหากพิจารณาตามเนื้อหาข้อหาใดแล้วไม่มีในมาตราใดรองรับก็ขึ้นอยู่กับ สนช.ว่า จะใช้ประเพณีการปกครองประเทศเป็นฐานดำเนินการได้หรือไม่ หรือพิจารณาจากคดีเก่าๆที่เคยวินิจฉัยมาก่อน
ย้ำใครเสียหายก็ไปร้องได้
ส่วนกรณีที่กฎหมายพ้นไปและคนพ้นจากตำแหน่งแล้วจะดำเนินการต่อได้หรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวว่า ให้ สนช.เป็นผู้ติดตามว่า สามารถดำเนินการได้หรือไม่ ถ้าองค์กรอื่นมีปัญหาก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตีความ แต่หาก สนช.เป็นผู้มีปัญหาก็ให้สนช.เป็นผู้ตีความ หาก สนช.ตีความว่า มีหรือไม่ปัญหาเรื่องก็จบ ถ้าคนอื่นเขาไม่จบหรือเป็นผู้เสียหายมองว่า สนช.ไม่มีอำนาจทำให้ถูกต้อง ก็สามารถไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญได้
สนช.ยันมีอำนาจ-ไม่ส่งตีความ
ขณะที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ยังไม่ได้ส่งสำนวนถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภาและนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กลับคืนมาให้ สนช.จึงยังไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ เพราะต้องรอพิจารณาเหตุผลที่ ปปช.อ้างฐานความผิดก่อน แต่ยืนยันอำนาจ สนช.ในการอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา6 ของรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจ สนช.ทำหน้าที่วุฒิสภา โดยไม่จำเป็นต้องส่งตีความ หรือใช้ประเพณีการปกครอง หาก ปปช.ส่งเรื่องกลับมาโดยยังอ้างความผิดตามรัฐธรรมนูญปี2550 จะใช้ดุลพินิจประธานพิจารณาว่า ความผิดยังคงอยู่หรือไม่ หากความผิดเข้าข่าย สนช.ดำเนินการได้ จะเสนอญัตติถอดถอนต่อที่ประชุม หากสมาชิกเห็นแย้งจะเปิดให้อภิปรายและลงมติภายในกรอบเวลา 30วัน
“อุดมเดช”แบ่งงาน4เสือ.ทบ.
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ลงนามคำสั่งกองทัพบกมอบหมายงานให้ 4 เสือทบ.ที่ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งใหม่ โดยให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รอง ผบ.ทบ.กำกับดูแลงานและกลั่นกรองงานในภาพรวม พร้อมมอบหมายให้ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วย ผบ.ทบ.คนที่1 ดูแลงานด้านกำลังพลและงานพิเศษที่ได้รับมอบหมาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ.คนที่2 ดูแลงานด้านส่งกำลังบำรุงและงานด้านกิจการพลเรือนและให้ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก กำกับงานด้านงานข่าว ยุทธการต่างประเทศ ฝึกศึกษา ขณะที่รองเสนาธิการฯทั้ง5 ดูตามสายงานทั้ง 5สาย
หนุนคสช.-รัฐบาลฟื้นฟูปท.
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ พล.อ.อุดมเดช เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) เป็นครั้งแรก หลังดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. โดย พล.อ.อุดมเดช สั่งการให้ทุกหน่วยงานสานต่องานในภาระหน้าที่และความรับผิดชอบเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ทั้งภารกิจปกป้องอธิปไตย ดูแลชายแดนให้มีความสงบสุข โดยภารกิจสำคัญคือ การพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน รวมทั้งการเผยแพร่และน้อมนำแนวทางพระราชทานมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ขณะเดียวกันกองทัพบกยังคงให้การสนับสนุนและปฏิบัติตามนโยบายด้านความมั่นคงของ คสช.และรัฐบาลอย่างเต็มความสามารถ
ตั้งชัชวาลย์ปลัดยธ.เหมาะแล้ว
ด้านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่า ตนเป็นผู้เสนอชื่อ เพราะเห็นว่ามีความเหมาะสม สามารถทำงานรองรับนโยบายตนได้ เน้นการทำงานเป็นหลัก ไม่มีประเด็นอื่น หรือไม่เกี่ยวการจัดวางกำลังสลายขั้วอำนาจเก่า ตนจะให้ทำงานก่อนหากทำไม่ได้ก็เปลี่ยนใหม่ได้
เมื่อถามถึงกรณี พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โพสต์เฟสบุคว่า ช่วงนี้ตราชั่งเอียง พล.อ.ไพบูลย์ ถามกลับว่า “ตราชั่งของใคร ของคุณ หรือของผม”
“หมอพรทิพย์”เย้ยยุคมืดมัว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลัง ครม.มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้มีกระแสแสดงความเห็นเรื่องดังกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ พญ.คุญหญิงพรทิพย์ ซึ่งโพสต์ข้อความตัดพ้อว่า ไม่ให้โอกาสคนทำงาน เลือกเฉพาะคนรู้จักและคนวิ่งเต้น ต่อมา วันที่ 2ตุลาคม ยังโพสต์ข้อความเพิ่มเติมมีเนื้อหาสรุปว่า ไม่เหลือความหวังการปฏิรูปหลังปฏิวัติ เพราะผลการจากแต่งตั้งปลัดยุติธรรม โดยส่งคนนอกมาทำงาน พร้อมระบุว่า“อยู่ใต้หมอกเมฆก็ว่าฟ้าปิด แต่หากอยู่เหนือเมฆก็จะเห็นฟ้าใส ทุกชีวิตในโลกต้องเปิดปัญญาทำดีมุ่งมั่นสู่นิพพาน มารจึงมีไว้ให้ฝึกตลอดไป ในความมืดมัวมักมีความชัดเจน 4เดือนที่ต้องรอทิศทางกระทรวงยุติธรรม แม้จะดูมืดมัวแต่ก็ชัดเจนสำหรับเรา จะมุ่งทำดีต่อไป”พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ระบุในเฟชบุ๊ค
ขณะที่ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ก็ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุคส่วนตัวว่า “อรุณสวัสดิ์ เพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย พร้อมระบุข้อความธรรมะว่า คนโง่ มักตกอยู่ในอำนาจแห่งมาร พร้อมเปลี่ยนภาพพื้นหลังเฟชบุ๊คเป็นสีดำอีกด้วย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี