โวยรัฐช่วยแค่‘ชาวนา’
ข้าวโพดขู่ม็อบ
‘สวนยาง’จี้อุดหนุนทุกแปลง
แฉผู้ปลูกข้าวตกสำรวจเพียบ
ธกส.ย้ำจ่ายแค่นาปี-เช่าที่ก็ได้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ออกมาย้ำอีกครั้งถึงโครงการแจกเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ ไม่ได้เป็นโครงการประชานิยมเหมือนอย่างที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ แต่เป็นการช่วยเหลือเพื่อลดต้นทุนการผลิต และเป็นหนึ่งในแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
“อุ๋ย”ย้ำอุ้มชาวนาไม่ใช่ประชานิยม
โดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ย้ำเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมว่า โครงการช่วยเหลือชาวนาวงเงินรวม 4 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการที่มุ่งหวังกระตุ้นเศรษฐกิจขณะนี้ที่ประสบปัญหาชะลอตัว โดยพุ่งเป้าตรงไปที่กลุ่มชาวนาผู้มีรายได้น้อยเพื่อให้เกิดรายได้และหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นการกระตุ้นที่ตรงจุด และไม่ได้เป็นโครงการประชานิยมแต่อย่างใด
ชี้จ่ายไร่ละพันเหมาะสมแล้ว
ส่วนที่ชาวนาบางรายระบุว่า เงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ น้อยเกินไปนั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ชี้ว่า การให้เงินช่วยเหลือดังกล่าว คำนวณจากราคาข้าวปัจจุบันที่ชาวนาจะมีรายได้ประมาณตันละ 8,200 บาท รัฐบาลจึงสมทบทุนช่วยอีกไร่ละ 1,000 บาท ถือเป็นอัตราที่เหมาะสม เพราะเงินดังกล่าวมาจากภาษีของประชาชน หากนำมาใช้มากๆ จะไม่เหมาะสม
ธกส.แจงเช่าที่นาก็จ่ายให้
ด้าน นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) กล่าวว่า จะจ่ายเฉพาะชาวนาผู้ปลูกข้าวนาปีฤดูกาลผลิต 2557/2558 ที่ขึ้นทะเบียนแล้วเท่านั้น โดยให้ชาวนาที่มีที่ดินของตัวเองและเป็นผู้เช่า รวม 3.4 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นชาวนาที่มีที่ดิน 15 ไร่ขึ้นไป ได้ครอบครัวละ 15,000 บาท 1.6 ล้านครัวเรือน และชาวนาที่มีที่ดินไม่เกิน 15 ไร่ ได้ไร่ละ 1,000 บาท 1.8 ล้านครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เปิดเผยว่า การจ่ายเงินดังกล่าว จะมอบให้กับชาวนาที่มีที่ดินเป็นของตัวเองเท่านั้น
“ชาวนา”ชี้แก้ปัญหาไม่ถูกจุด
นายกิตติศักดิ์ รัตนะวาระ ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือ เปิดเผยว่า ชาวนาบางส่วนพึงพอใจกับนโยบายนี้ เพราะทำให้มีเงินมาใช้จ่ายเป็นค่าปุ๋ยและอื่นๆ ที่จำเป็นในเบื้องต้นได้ ขณะที่ นายมนูญ มณีโชติ ประธานกลุ่มคนทำนาพิจิตร กล่าวว่า เงินช่วยเหลือครอบครัวละ 15,000 บาท ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของชาวนาและไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่แท้จริงได้ นอกจากนี้ยังอยากให้แก้ไขปัญหาของเกษตรกรกลุ่มต่างๆ ที่เดือดร้อนให้เท่าเทียมกัน
เตือนปัญหาไม่หมด-เม.ย.มีม็อบ
“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังอยากให้เวลารัฐบาลในการทำงานแก้ไขปัญหาก่อน ซึ่งก็ยอมรับว่าปัญหาเกษตกรเป็นเรื่องที่แก้ยาก แต่หากชาวนาที่ประสบปัญหาจริงๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา หรือปัญหาเบาบางลง คาดว่าจะมีการรวมกลุ่มกันเคลื่อนไหวปิดถนนก่อนที่จะถึงเดือนเมษายนนี้” นายมนูญ กล่าว
จี้ประกาศนโยบายพยุงข้าวเปลือก
นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยว่า ไม่อยากให้มองการแจกเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เป็นประชานิยม เพราะเป็นการใช้งบประมาณให้ตรงจุดกับผู้ที่เดือนร้อน เพื่อให้ได้ผลรวดเร็ว ซึ่งแม้ความจริงชาวนาจะต้องการให้ช่วยเหลือมากกว่านี้ แต่ก็ขอขอบคุณรัฐบาลที่มีมาตรการดังกล่าวออกมา และสิ่งที่อยากขอเพิ่มเติม คือ ความชัดเจนเรื่องนโยบายการพยุงราคาข้าวเปลือกแบบถาวร
ห่วงคนเช่าช่วงทำนาไม่ได้เงิน
นายจำรัส ศิริมงคล อายุ 67 ปี ชาวนาใน ต.บางปะแดง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเช่าที่นา 30 ไร่ประกอบอาชีพ กล่าวว่า กลัวชาวนาจะไม่ได้รับเงินดังกล่าว เพราะหลายคนเป็นเพียงผู้เช่า และบางคนเช่านาแต่ไม่มีเอกสารหนังสือการเช่านา เพราะเช่าช่วงต่อกันหลายทอด ทำให้คนทำนาจริงๆ อาจไม่ได้เงิน
หลายคนไม่ได้ขึ้นทะเบียนใหม่
นายไพรัช สุขสวัสดิ์ อายุ 54 ปี ชาวนาในพื้นที่เดียวกัน กล่าวว่า หลังสิ้นสุดโครงการรับจำนำข้าว และมีการเปิดโอกาสให้ขึ้นทะเบียนชาวนารอบใหม่ แต่ปรากฏว่า มีชาวนาจำนวนมาไม่ได้ไปขึ้นทะเบียน เพราะเห็นว่า ไม่มีโครงการช่วยเหลือแล้ว ดังนั้นจึงเกรงว่าชาวนาในส่วนนี้จะไม่ได้รับสิทธิ
นายไพศาล สังข์มงคล เกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับว่า ในพื้นที่มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเพียง 20,000 ครัวเรือนจากเดิม 30,000 ครัวเรือน อย่างไรก็ตามจะมีการเปิดขึ้นทะเบียนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้
“ข้าวโพด”โวยถูกเมิน-ขู่ม็อบ
ด้าน นายอุทัย บุญเทียม ประธานเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า นโยบายช่วยเหลือชาวนาของรัฐบาลเป็นนโยบายที่ดี แต่กลับไม่ให้ความสนใจกับเกษตรกรที่ปลูกพืชอื่นๆ โดยเฉพาะผู้ปลูกข้าวโพด เพราะกำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำและไม่มีตลาดรองรับเช่นกัน และกำลังอยู่ระหว่างการหารือกันว่า หากรัฐบาลยังคงไม่มีมาตรการช่วยเหลือออกมา ก็อาจมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น
สวนยางฉะสร้างความเหลื่อมล้ำ
นายณรงค์ บริภารักษ์ ปรานที่ปรึกษาสหกรณ์เจ้าของสวนยางพารา อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย กล่าวว่า เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราเกิดความน้อยใจและมองว่าไม่มีความเสมอภาค เนื่องจากชาวสวนยางพาราก็มีความเดือดร้อนในเรื่องของราคาตกต่ำ ค่าปุ๋ย และต้นทุนอื่นๆ ก็มีราคาแพง
นายบุญยัง พรหมเมือง ประธานคณะทำงานยางพาราของสภาเกษตรกร จ.เชียงราย กล่าวว่า นโยบายช่วยเหลือชาวนาของรัฐบาล ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำแก่ผู้ทำสวนยางพารา สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจให้กับชาวสวนยางพาราที่รัฐบาลไม่มีนโยบายช่วยเหลือ ทั้งที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำเช่นกัน
จี้สวนยางไร้เอกสารสิทธิ์
วันเดียวกัน สภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้เชิญตัวแทนเกษตรสวนยางพารามาร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ โดย นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยหลังการประชุมว่า จะมีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาแก่รัฐบาล โดยมีประเด็นเร่งด่วน คือ ให้จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรในฤดูกาลผลิต 2557/2558 ไร่ละ 2,520 บาท โดยครอบคลุมพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิด้วย
นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลยุดขายยางในสต็อก 2.1 แสนตัน เพื่อนำไปแปรูปใช้ในโครงการของรัฐ และเสนอให้ประกาศหยุดกรีดยางในสวนยางของรัฐทั้งหมด พร้อมกับให้จ่ายเงินสนับสนุนการโค่นสวนยางในพื้นที่ไม่เหมาะสม 1 ล้านไร่ และพื้นที่ปลูกยางเก่าไร่ละ 26,000 บาท
ลองกอง-ลางสาดร้องแก้ตกต่ำ
เวลา 09.30 น. วันเดียวกัน เกษตรกรผู้ปลูกลองกองและลางสาดใน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อให้แก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ โดยขอให้มีการรับซื้อผลผลิตในพื้นที่ โดยเบื้องต้น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ ยืนยันจะมีการรับซื้อผลผลิตลางสาดบางส่วนจากเกษตรกร และรับที่จะพิจารณางบประมาณเพื่อรับซื้อลองกองต่อไป
“บิ๊กตู่”ย้ำช่วยเกษตรกรทุกกลุ่ม
เวลา 20.20 น. วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายงานคืนความสุขให้คนในชาติ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า รัฐบาลพร้อมจะดูแลเกษตรกรทุกประเภท แต่วันนี้ที่เดือดร้อนมากที่สุด คือ ชาวนา เพราะใกล้ถึงช่วงการเก็บเกี่ยวแล้ว และตามที่ฝ่ายเศรษฐกิจเสนอมา ก็จะให้เฉพาะข้าวนาปีเท่านั้น นาปรับคงไม่ได้ เพราะยังมีปัญหาเรื่องน้ำอยู่ ส่วนเกษตรกรประเภทอื่น ก็จะมีการพิจารณาตามมาเป็นประเภทไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี