5เสือจัดสัมนาพบกกต.77จังหวัด ย้ำต้องสามัคคีแม้มีกระแสถูกยุบ
วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 14.13 น.
Tag :
17 ต.ค. 57 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมแอมบาสชาเดอส์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดโครงการสัมนากกต.ประจำจังหวัด ปี 2557 โดยมีนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ และนายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย มอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติงานในสถานการณ์ปัจจุบันแก่กกต. ทั้ง 77 จังหวัด โดยนายศุภชัย กล่าวว่า การจัดสัมนาพบกกต.ประจำจังหวัดครั้งนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่พวกตนเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งอาจจะดูล่าช้าไป เนื่องจากที่ผ่านมามีข้อจำกัดสถานการณ์ทางการเมือง แต่ในขณะนี้ประเด็นที่มาคู่กับการปฏิรูปประเทศ คือมีการพูดถึงสถานะความมั่นคงขององค์กรกกต. ทั้งประจำจังหวัดและส่วนกลาง ด้วยเหตุผลคือการทำหน้าที่ที่ผ่านมา หลายฝ่ายเห็นว่ากกต.ยังไม่สามารถทำให้การทุจริตการเลือกตั้งให้หมดสิ้นได้ ทำให้กระบวนการการกลั่นกรองผู้มีอำนาจเข้าไปบริหารประเทศถือว่ายังไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จึงทำให้มีการเสนอความเห็นว่าให้ลดอำนาจหรือยุบกกต. ยิ่งในช่วงที่มีการปฏิรูปมีข้อเสนอว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมืองโดยเฉพาะการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ยังไม่รู้จะมีต่อไปหรือไม่หรือจะมีการปรับมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตามตนได้เคยมีโอกาสคุยกับนายกรัฐมนตรีและรองนายกฯ ซึ่งนายกได้ยืนยันถึงกระแสข่าวการยุบองค์กรกกต.ว่าไม่ต้องหวั่นไหว การปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาของกกต.ถือว่าทำได้ดี โดยนายกบอกว่ากกต.จัดงานได้ดีเยี่ยม
"ตนไม่อยากให้ทุกคนหวั่นไหวจนนำไปสู่ความท้อแท้หรือหมดกำลังใจ งานภายภาคหน้าของกกต.แม้จะลดลงจนกว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะร่างเสร็จก็ขอให้ความร่วมมือร่วมใจกันทำงาน เพราะกกต.จำเป็นต้องอยู่คู่กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถ้าเราแตกความสามัคคีเมื่อไหร่เราก็ถูกยุบเมื่อนั้น" นายศุภชัยกล่าวและว่า โดยในการประชุมครั้งนี้จะมีการระดมความคิดเห็นในเรื่องของการแก้ไขกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับกกต. คือมาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ที่กำหนดให้มีการแก้ไขเรื่องของการทุจริตซื้อเสียง กกต.จังหวัดจึงถือว่ามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดังนั้นจึงอยากให้มีการแสดงความคิดเห็นเพื่อพัฒนาระบบการสืบสวนสอบสวนและการปฏิบัติตนก็อยากให้ยึดหลักความซื่อสัตย์เป็นกลาง เพื่อเป็นการเสริมสร้างความศรัทธาต่อกกต.จังหวัด รวมทั้งนำมาซึ่งความมั่นคงขององค์กกต.ต่อไป
ด้านนายประวิช กล่าวว่า สถานการณ์ในวันนี้หากเปรียบเทียบระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยเป็นต้นไม้ เรายังอยู่แค่ขั้นเตรียมดิน เตรียมความพร้อมในขั้นพื้นฐานเพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยมีความแข็งแรงในอนาคต โดยหน่วยงานที่ลงไปเตรียมดินก่อนคือกระทรวงศึกษาธิการที่ไปให้ความรู้ในวิชาหน้าที่พลเมือง ซึ่งกกต.ก็มีส่วนร่วม เพราะวิชานี้ได้ใช้เนื้อหาที่กกต.ชุดที่ 2และ 3 เขียนมาทั้งหมด หลักคิดของกกต.ในวิชาหน้าที่พลเมืองต้องไม่ใช่วิชาท่องจำ ต้องสอนให้เด็กมีความเข้าใจ คิดวิเคราะห์เป็น ดังนั้นตนจึงขอให้กกต.แต่ละจังหวัดลองเข้าไปพูดคุยกับเด็กในโรงเรียนช่วยกันเตรียมดิน เพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้ทัดเทียมกับอารยะประเทศอื่นๆ
ส่วนนายธีรวัฒน์ กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ยังไม่ปกติ ยังอยู่ระหว่างช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงจุดเปลี่ยนของประเทศไทย องค์รัฎฐาธิปัตย์มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปประเทศกำลังพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆที่เป็นสาเหตุทำให้ประเทศไทยไม่สามารถเดินหน้าเท่าประเทศอื่น องค์กรที่เป็นส่วนหัวอย่างองค์กรกกต. ต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ คัดกรองนักการเมืองที่ดี การบริหารประเทศในส่วนบนก็จะเป็นน้ำดีและระดับล่างก็พลอยดีไปด้วย แต่ถ้าส่วนบนเป็นน้ำเน่าไม่ว่าทำอย่างไรประเทศก็จะไม่มีประสิทธิภาพ คำถามในการปฏิรูปครั้งนี้ที่เราต้องตั้งโจทย์คือ 1. องค์กรกกต.มีประสิทธิภาพเพียงใดต่อการจัดการการทุจริตเลือกตั้ง 2. กกต.ที่ผ่านมามีมาตรการป้องกันคนไม่ดีเข้าสู่อำนาจอย่างไร และ 3. หากกกต.จัดการเลือกตั้งจะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างมีคุณภาพและวิจารญาณอย่างไร เพราะองค์กรกกต.ต้องถูกประเมินประสิทธิภาพทั้ง 3 ข้อนี้ว่ากกต.จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างไร ถ้าเราไม่มีคำตอบให้แก่โจทย์การปฏิรูปครั้งนี้หากเขาจะยุบเราก็คงปฏิเสธไม่ได้
"อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นว่าขณะนี้ประสบการณ์ของทุกคนหากนำมาแปรรูปให้สามารถปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวก็จะไม่ใช่เรื่องยาก เพราะปัญหาทุกวันนี้ มันเกิดจากฝ่านการเมืองทั้งสิ้น เราไม่มีวัฒนธรรมการเมืองที่ดีที่จะส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นจึงขอฝากโจทย์ที่กล่าวมานั้นให้ทุกคนร่วมกันแก้ไขเพื่อทำให้ประชาธิปไตยพัฒนาต่อไปได้" นายธีรวัฒน์กล่าว
จากนั้นนายสมชัย กล่าวว่า ทุกวันนี้ที่ต้องมีการปฏิรูปเพราะการเมืองมีปัญหา จึงต้องมุ่งเน้นมาแก้ปัญหาในด้านการเมือง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการเลือกตั้ง แม้กกต.ไม่มีโอกาสได้เข้ามาเป็นสปช.โดยตรง เพราะเหตุผลที่อาจเกิดจากการทับซ้อนผลประโยชน์หากมีการรื้อหรือปรับปรุงโครงสร้างองค์กรอิสระ แต่ไม่ว่าอย่างไร กกต.คือองค์กรที่สั่งสมประสบการณ์การเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี 2540 เราจึงจะนำเอาประสบการณ์นี้ไปให้ข้อมูลโดยตรงต่อการปฏิรูปหากมีการขอความร่วมือ เรายังไม่รู้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหน จากไทม์ไลน์เดิมตนเคยคิดว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือน ต.ค. ปี 2558 แต่จะเลือกตั้งเดือนต.ค.ได้ การยกร่างกฎหมายพ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งต้องทำควบคู่ไประหว่างที่มีการยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่ถ้ารอทำหลังจากยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว การเลือกตั้งก็จะเลื่อนไปอีกประมาณ 2-3 เดือน อาจจะเป็นเดือนม.ค. ปี 2559 อีกทั้งหากมีการทำประชามติระยะเวลาก็จะขยายออกไปอีกอย่างน้อย 2 เดือน จึงมีคำถามว่าระหว่างนี้กกต.จะทำอะไร ตนขอให้ทุกฝ่ายมองหน้างานให้ออกใช้ช่วงเวลานี้ไปแก้ไขกลไกภายในต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกกต.